สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ คือหลังจากที่เทียวส่องกระทู้การเดินทางท่องเที่ยวของเพื่อนๆมาสักพัก วันนี้ก็เลยถือโอกาสแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวของตัวเองบ้าง เผื่อจะเป็นประโยขน์กับเพื่อนๆ ที่มีแผนจะไปท่องเที่ยวเมืองจีนกัน
สำหรับตัวของเจ้าของกระทู้เองก่อนหน้าไม่เคยมีความคิดที่จะไปเที่ยวจีนมาก่อนเลย (- -" ฟังนิทานเขาเล่าว่ามาแต่นานนม ห้องน้ำแบบลางบ้าง ขี้หน้าส้วมบ้าง คาก

บ้าง แค่คิดก็แหยะ ม่ายเอา ม่ายปายยยย)
แต่แล้นนน ก็เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ดั้นดันไปปากลั่น รับปากรับคำพี่ที่ทำงานว่า เดี๋ยวไปเที่ยวเมืองจีนด้วย หลังจากที่พี่เค้าไปแล้วประทับใจมากกกก ก.ไก่หลายล้านตัว เลยอยากรู้มั่งว่าที่นั่นมีดีอะไร ทำใมพี่แกไปทุกปีเลย
เอาละ เกริ่นมาก็ประมาณนึง เพื่อไม่ให้มันยืดยาวเรามาเข้าเรื่องราวของทริปนี้กันเลยดีกว่า แผนการเที่ยวเป็นยังไง ค่าใช้จ่ายเป็นเท่าไหร่ รีวิวสถานที่สวยงามต่างๆ อาหารการกิน และสิ่งที่เราจักต้องเตรียมตัว ตามมาดูกันเลยจ้าาาาา
การเดินทาง
เครื่องบิน : ทริปนี้เราเดินทางด้วยหางแดง ราคาไม่แรงมาก รวมแล้วสองคน 9,440 บาท แต่ไฟล์เวลาอาจจะไม่ค่อยงาม ขึ้นเครื่องสามสี่ทุ่ม ถึงเฉิงตู ตีสอง กว่าจะออกจากสนามบินก็ตีสามกว่า
เดินทางระหว่างเมือง : High speed train สะดวกและรวดเร็วมากๆ เราจะจองล่วงหน้าก่อนไป สักประมาณอาทิตย์นึง ส่วนการเดินทางในสถานที่ต่างๆ เราก็นั่ง subway รถเมล์ แล้วแต่สถานที่ ค่าโดยสารในการเดินทางที่เมืองจีนไม่แพง รถเมล์ก็อยู่ที่ 1 หยวน แล้วก็ subway เริ่มต้นที่ 2 หยวน แล้วแต่สถานี แต่ย้ำว่าไม่แพงงงง
โรงแรม
เราจองผ่านเวป คือจะบอกว่าโรงแรมที่จีนค่อนข้างที่จะราคาถูกเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ แต่สิ่งที่เราต้องทำใจคือโรงแรมจะมีกลิ่นบุหรี่ ติดที่พรม ติดผ้าม่าน
อาหารการกิน
การสั่งอาหารที่จีนถือว่าเป็นระบบ touch screen อย่างแท้ทรู 5555 อ่านก็ไม่ออก ภาษาอังกฤษก็ไม่มี ได้เมนูมาถ้ามีรูปก็จิ้มๆรูป แล้วก็บอกว่าเอาอันนี้ ชูนิ้วนึงแล้วบอก อี้เก้อ นั่นแหละ ได้ตรงที่สั่งมั่งไม่ตรงมั่ง เซอร์ไพรซ์!!!!! ^^
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สำหรับแผนการท่องเที่ยวของเราวางไว้คร่าวๆ ตามนี้ คร่าวจริงๆ แผนย่อยไปดูกันวันต่อวันหน้างานเลยทีเดียว
เราเดินทางช่วงวันที่ 7-12 มีนาคม ที่ผ่านมานี้เอง เรียกได้ว่าทริปนี้ที่ไปมีครบทุกฤดูจริงๆ ลุยฝน ทนหิมะ ปะทะแดดร้อน แต่สนุกสุดๆ
Day 1 : BKK -> Chengdu ไปตามหาอาโป (กังฟูแพนด้า)
Day 2 : Emeishan Mt ขึ้นเขาไปกราบบนยอดเขา Golden Summit
Day 3 : Leshan Giant Buddha ชมพระใหญ่เลอซ่าน เดินชมนกชมไม้ริมแม่น้ำ
Day 4 : Chengdu ชมบ้านชมเมือง ไปกินชาบูหม้อไฟสไตล์เสฉวน แล้วก็บินกลับ BKK
วันแรกของเรา
เดินทางจากสนามบิน ไปบ้านเพื่อนอยู่แถวๆมหาลัยเสฉวนด้วยแท็กซี่สนามบิน นอนหลับไปได้สามสี่ ชม เพื่อนก็มาปลุกบอกได้เวลาไปหาอาโป แล้ววววววว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เรามาถึงที่สนามบินเฉิงตูประมาณตีสอง แล้วก็เดินออกมาจาก ตม. เพื่อขึ้นแท็กซี่ไปพักที่บ้านเพื่อน (เป็นเพื่อนชาวจีนที่เราเจอกันเมื่อครั้งเราไปเที่ยวเมืองจีนสองสามปีก่อน นางเป็นคนน่ารักมาก^^ นางมาไทยเราก็เทคแคร์ พอเราไปเที่ยวจีนนางก็เทคแคร์บ้าง)
ที่นี้สำหรับแท็กซี่ที่สนามบินจะเป็นคิวแท็กซี่มิเตอร์รถคันสีเขียว มีใบเสร็จให้ด้วย (เตือน!! ที่สนามบินมีแท็กซี่เถื่อนเยอะ จะมีคนคอยมาถามว่าจะไปที่ใหน ตอนแรกมี ผช คนนึงมาถามว่าไปใหน เราก็บอกไปที่นี่เอาแผนที่ให้เค้าดู นางก็ชูมือบอกว่า 120 หยวน
เราก็เลยบอกไม่เอาเดินหนี นางก็เอานาฬิกาให้ดูประมาณว่านี่เวลามันดึกมากแล้วเลยราคานี้ เราก็บอกไม่เอา ไม่เอา นางก็ลดลง 80 ละกัน เราก็ต่อ 40 ถ้าได้ก็ไปถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร นางบอกไม่ได้ เราก็เลยเดินหนีไปหาคิวแท็กซี่)
สรุปค่าแท็กซี่ 51 หยวน เลยจ่ายไป 55 หยวน เพราะเห็นว่าดึกละ พี่แท็กซี่ขอบคุณเป็นยกใหญ่ ก้มหัวปะลก ปะลก

เติมพลังก่อนออกไปเรียนกังฟูกับอาโป
มื้อเช้าเรากินก๋วยเตี๋ยวแถวๆบ้านเพื่อนจ๊ะ หน้าตาตามที่เห็น ส่วนรสชาดนั้น เราคิดว่าเราเริ่มชินกับอาหารจีนละ มันก็เลยอร่อยอยู่เหมือนกัน ^^

การเดินทางไปหาอาโป
Subway : Panda Avenue
Exit : A


เดินออกมาจากสถานีจะมี ticket office อยู่ทางขวามือสำหรับซื้อตั๋วเข้า+ค่ารสบัส ประมาณ 54 หยวน
ทีนี้เดินออกมาทางขวาจะมีรสบัสกับเหล่าแพนด้าสีสันสดในรออยู่ ขึ้นรถบัสเพื่อไปต่อที่ศูนย์เพาะเลี้ยงแพนด้ากันเลยจ้าาาา
ขึ้นรถบัสมาข้างในจะเป็นแบบในรูปคือ น่ารักอ่ะ



ในที่สุดก็มาถึงทางเข้า panda research base กันแล้ว ลุยยยย


จริงๆแล้วที่ Panda base นอกจากเราจะสามารถไปดูแพนด้าแล้ว เราก็สามารถเดินรอบๆ ชมสวนไผ่ ถ่ายรูปข้างทาง นั่งเล่นริมบึงได้ เพราะว่าที่สวนนี้ขนาดใหญ่มาก


เดินไปเจอะ ต้นไผ่ อ่ะ แชะซะรูปสองรูป

สักพักเราก็เจอแพนด้า ตัวกลมๆ น่ารักๆ

เดินไปอีกนิดเจอดอกบ๊วย สวยอ่าาาาา!!!


ในที่สุดดดดดดดด

แพร๋บๆ บ่ายสอง ลืมหิวไปเลยทีเดียว
อาหารมื้อเที่ยงวันนี้
เรามากินตรงสถานีรถใต้ดิน Chunxi Rd. เพราะว่าเราจะมาเดินเที่ยวแถวๆนี้ด้วย เป็นแหล่งรวม อารมณ์แบบสยามบ้านเราว่างั้น
เมนูแรก อันนี้เป็นผักหรือเนื้อสัตว์ เค้าเอามาเสียบไม้แล้วก็แช่ไว้ เหมือนเป็นซอสที่ปรุงรสมาแล้ว ผสมพริกไทยแบบเสฉวนก็จะชา ชา ลิ้นสักหน่อย เมนูนี้เราชอบ ลิ้นชาดี ซาดิสต์ 555 อันนี้ราคาไม้ละ 1 หยวน กินเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น นับไม้เอา

เมนูที่สอง ข้าวผัด เป็นเมนูที่เรียกว่า safe สุดๆ ละสำหรับคนที่ไม่อยากเสี่ยงเรื่องรสชาดอาหาร เพราะอันนี้รสชาดจะเหมือนข้าวผัดบ้านเราแหละ แล้วคือราคาไม่แพงด้วยจานละ 10-15 หยวน
เมนูที่สาม พุดดิ้ง เป็นเหมือนแป้งดึ๋งๆ แล้วก็ราดด้วยน้ำตาลทรายแดงเคี้ยวหอมๆ อันนี้ไม่ได้แย่ ลองดู อันนี้เพื่อนซื้อมาให้ลอง ลืมถามราคา
เมนูที่สี่ เราเรียกว่าเต้าทึงข้าวหมากแล้วกัน คือมันเป็นขนมหวานที่มีลักษณะคล้ายเต้าทึงบ้านเรานี่แหละ มีเฉาก๋วย มีเยลลี่ แล้วก็เม็ดธัญพืช แล้วก็มีข้าวหมากโป๊ะท้าย อันนี้กินไปก็แปลกดี กินเยอะๆไม่รู้จะเมาไหม 555

กินข้าวเสร็จก็เดินเล่นนิดหน่อย มาเจอเจ้าหมีแพนด้ายัก ปีนตึก IFS อยู่

เดินมาสักพักเจอรถแพนด้าน่ารักเชียววว ที่นี่เค้าไว้สำหรับรับส่งลูกค้าที่จะเดินทางมาที่ห้างนี้

ที่นี้ก็หมดเวลาสำหรับวันแรก เราต้องเดินทางไป Emeishan โดยรถไฟความเร็วสูง เพื่อว่าพรุ่งนี้เราจะได้ออกไปปีนเขาแต่เช้าได้
สถานีรถไฟด้านข้าง คือถ่ายด้านหน้าไม่ทันรีบบบบบ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ทีนี้มาถึงช่วงเวลาตื่นเต้นแล้วจ้าาาาาา ด้วยความไม่คาดฝันว่ารถจะติด เวลาก็กระชั้นชิด เหลือเวลา 20 นาที รถไฟจะออก ต้องไปแลกตั๋วรถไฟก่อนเข้าชานชาลาอีก คือสายชิววว อย่างเราก็ไม่คิดว่าแถวจะยาวขนาดนี้
พอถึงก็วิ่งหูตูบเลยจ้าาา เพื่อนไปแลกตั๋วให้ นางก็แบบตื่นเต้นทันไม่ทัน ทันไม่ทัน ต่อคิวแล้วผ่านไปเหลืออีก 10 นาที มีคนข้างหน้าอีกสี่ห้าคน อิตาคนแรกสุดด้านหน้าก็ถามอารายก็ไม่รู้นักหนา นานสองนาน ตรูรีบบบบบ จะตกรถแล้วนี่
สุดท้ายเพื่อนทนไม่ไหวนางไปพูดกับคนข้างหน้าถามว่าเค้าจะซื้อตั๋วหรือเปล่า นางจะขอแลกคิวได้ไหมเพราะว่าเพื่อนซื้อตั๋วมาแล้วอีก 10 นาทีรถจะออกแล้ว เอ้ออ เฮ้ยย เค้าก็ใจดีกันนะ ยอมกันหมดเลยสี่ห้าคน
ได้ตั๋วมาแล้ววิ่งงงงงง หางหดเลยจ้าาาา ผ่านจุดตรวจกระเป๋า ไปที่ชานชาลา
อันนี้เป็นบรรยากาศในรถไฟความเร็วสูงนะค่ะ เป็นแบบ 5 ที่นั่งต่อ 1 แถว มีโต๊ะวางอาหารแบบที่ป้าคนข้างๆกางอยู่ แล้วก็มีที่ชาร์ตแบตโทรศัพท์อยู่ข้างหน้าด้านล่าง จริงๆอารมณ์ก็เหมือนรถไฟที่ญี่ปุ่น

ค่าตั๋ว 65 หยวน ไปถึง Emeishan station

พอมาถึงสถานีรถไฟ Emeishan เราก็เดินออกมาตามป้ายมาหารถเมล์ ไปที่โรงแรม

เรานั่งรถเมล์ สาย 12 ไปที่โรงแรม ดูจาก google แล้ว search ชื่อโรงแรมแล้วมันก็แนะนำให้ขึ้นรถเมล์เบอร์นี้ พอขึ้นไปก็เอาชื่อที่โรงแรมให้คนขับดู เค้าก็พยักหน้าหงึกๆ ใช่ๆ ถูกคันละ เราก็เดินเข้าไปนั่ง
พอไปถึงป้ายที่ใกล้ๆ คนขับก็จอดแล้วก็มองมาที่เราแล้วพูดภาษาจีนยาวๆไป ฟังไม่รู้เรื่อง 5555 เราก็จ่ายค่ารถเมล์คนละ 1 หยวน (พี่คนข้างหลังแกพูดภาษาอังกฤษได้ แกบอกมานั่งรถเมล์แบบนี้ป้ายใหนๆ ก็จ่ายเลย 1 หยวน ว่างั้น)
ถึงแล้วจ้าา วันนี้เรานอนที่นี่แหละ
Hotel : Emeishan Jixiang Hotel
Rate : THB 547.56
ภายในห้องเป็นเตียงคิงไซต์ ไดร์ ทีวี อินเตอร์เน็ต ในห้องน้ำก็มีอุปกรณ์ครบ หมวกอาบน้ำ แปรงสีฟัน โรงแรมที่จีนจะมีแปรงสีฟันให้เป็นพื้นฐานเลยทุกโรงแรม


มาถึงเวลาของมื้อเย็นแล้ว ที่นี่ตอนเย็นๆเรียกได้ว่าหนาวมาก ร้านข้าวก็เลยมีพัดลมไอร้อนมาเป่าให้ คุณป้าก็มาจัดแจงเอาพัดลมมาวาง ปรับไฟให้ กลัวลูกค้าจะหนาว

เย็นนี้เรากิน หมูเค็ม ผัดถั่วเสฉวน ตำแตงแบบจีน แล้วก็หมาล่าไม้ๆ รวมๆแล้ว 111 หยวน เค้าคิด 110 หยวน

ข้าวถังนึง ที่จีนถ้าเป็นร้านแบบนี้ เค้าจะเสิร์ฟข้าวเป็นถังๆ ตักเท่าไหร่ก็แล้วแต่เรา

กินอิ่มแล้ว ก็นอนเอาแรง เพราะพรุ่งนี้ท่าทางจะต้องใช้กำลังเยอะ
[CR] [บันทึกการเดินทาง] สุดประทับใจ!! เฉิงตู-เอ้อเหม่ยซาน-เล่อซาน 4 วัน 3 คืน [Explored China]
สำหรับตัวของเจ้าของกระทู้เองก่อนหน้าไม่เคยมีความคิดที่จะไปเที่ยวจีนมาก่อนเลย (- -" ฟังนิทานเขาเล่าว่ามาแต่นานนม ห้องน้ำแบบลางบ้าง ขี้หน้าส้วมบ้าง คาก
แต่แล้นนน ก็เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ดั้นดันไปปากลั่น รับปากรับคำพี่ที่ทำงานว่า เดี๋ยวไปเที่ยวเมืองจีนด้วย หลังจากที่พี่เค้าไปแล้วประทับใจมากกกก ก.ไก่หลายล้านตัว เลยอยากรู้มั่งว่าที่นั่นมีดีอะไร ทำใมพี่แกไปทุกปีเลย
เอาละ เกริ่นมาก็ประมาณนึง เพื่อไม่ให้มันยืดยาวเรามาเข้าเรื่องราวของทริปนี้กันเลยดีกว่า แผนการเที่ยวเป็นยังไง ค่าใช้จ่ายเป็นเท่าไหร่ รีวิวสถานที่สวยงามต่างๆ อาหารการกิน และสิ่งที่เราจักต้องเตรียมตัว ตามมาดูกันเลยจ้าาาาา
การเดินทาง
เครื่องบิน : ทริปนี้เราเดินทางด้วยหางแดง ราคาไม่แรงมาก รวมแล้วสองคน 9,440 บาท แต่ไฟล์เวลาอาจจะไม่ค่อยงาม ขึ้นเครื่องสามสี่ทุ่ม ถึงเฉิงตู ตีสอง กว่าจะออกจากสนามบินก็ตีสามกว่า
เดินทางระหว่างเมือง : High speed train สะดวกและรวดเร็วมากๆ เราจะจองล่วงหน้าก่อนไป สักประมาณอาทิตย์นึง ส่วนการเดินทางในสถานที่ต่างๆ เราก็นั่ง subway รถเมล์ แล้วแต่สถานที่ ค่าโดยสารในการเดินทางที่เมืองจีนไม่แพง รถเมล์ก็อยู่ที่ 1 หยวน แล้วก็ subway เริ่มต้นที่ 2 หยวน แล้วแต่สถานี แต่ย้ำว่าไม่แพงงงง
โรงแรม
เราจองผ่านเวป คือจะบอกว่าโรงแรมที่จีนค่อนข้างที่จะราคาถูกเมื่อเทียบกับที่อื่นๆ แต่สิ่งที่เราต้องทำใจคือโรงแรมจะมีกลิ่นบุหรี่ ติดที่พรม ติดผ้าม่าน
อาหารการกิน
การสั่งอาหารที่จีนถือว่าเป็นระบบ touch screen อย่างแท้ทรู 5555 อ่านก็ไม่ออก ภาษาอังกฤษก็ไม่มี ได้เมนูมาถ้ามีรูปก็จิ้มๆรูป แล้วก็บอกว่าเอาอันนี้ ชูนิ้วนึงแล้วบอก อี้เก้อ นั่นแหละ ได้ตรงที่สั่งมั่งไม่ตรงมั่ง เซอร์ไพรซ์!!!!! ^^
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
สำหรับแผนการท่องเที่ยวของเราวางไว้คร่าวๆ ตามนี้ คร่าวจริงๆ แผนย่อยไปดูกันวันต่อวันหน้างานเลยทีเดียว
เราเดินทางช่วงวันที่ 7-12 มีนาคม ที่ผ่านมานี้เอง เรียกได้ว่าทริปนี้ที่ไปมีครบทุกฤดูจริงๆ ลุยฝน ทนหิมะ ปะทะแดดร้อน แต่สนุกสุดๆ
Day 1 : BKK -> Chengdu ไปตามหาอาโป (กังฟูแพนด้า)
Day 2 : Emeishan Mt ขึ้นเขาไปกราบบนยอดเขา Golden Summit
Day 3 : Leshan Giant Buddha ชมพระใหญ่เลอซ่าน เดินชมนกชมไม้ริมแม่น้ำ
Day 4 : Chengdu ชมบ้านชมเมือง ไปกินชาบูหม้อไฟสไตล์เสฉวน แล้วก็บินกลับ BKK
วันแรกของเรา
เดินทางจากสนามบิน ไปบ้านเพื่อนอยู่แถวๆมหาลัยเสฉวนด้วยแท็กซี่สนามบิน นอนหลับไปได้สามสี่ ชม เพื่อนก็มาปลุกบอกได้เวลาไปหาอาโป แล้ววววววว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เติมพลังก่อนออกไปเรียนกังฟูกับอาโป
มื้อเช้าเรากินก๋วยเตี๋ยวแถวๆบ้านเพื่อนจ๊ะ หน้าตาตามที่เห็น ส่วนรสชาดนั้น เราคิดว่าเราเริ่มชินกับอาหารจีนละ มันก็เลยอร่อยอยู่เหมือนกัน ^^
Subway : Panda Avenue
Exit : A
ทีนี้เดินออกมาทางขวาจะมีรสบัสกับเหล่าแพนด้าสีสันสดในรออยู่ ขึ้นรถบัสเพื่อไปต่อที่ศูนย์เพาะเลี้ยงแพนด้ากันเลยจ้าาาา
ขึ้นรถบัสมาข้างในจะเป็นแบบในรูปคือ น่ารักอ่ะ
อาหารมื้อเที่ยงวันนี้
เรามากินตรงสถานีรถใต้ดิน Chunxi Rd. เพราะว่าเราจะมาเดินเที่ยวแถวๆนี้ด้วย เป็นแหล่งรวม อารมณ์แบบสยามบ้านเราว่างั้น
เมนูแรก อันนี้เป็นผักหรือเนื้อสัตว์ เค้าเอามาเสียบไม้แล้วก็แช่ไว้ เหมือนเป็นซอสที่ปรุงรสมาแล้ว ผสมพริกไทยแบบเสฉวนก็จะชา ชา ลิ้นสักหน่อย เมนูนี้เราชอบ ลิ้นชาดี ซาดิสต์ 555 อันนี้ราคาไม้ละ 1 หยวน กินเท่าไหร่จ่ายเท่านั้น นับไม้เอา
ที่นี้ก็หมดเวลาสำหรับวันแรก เราต้องเดินทางไป Emeishan โดยรถไฟความเร็วสูง เพื่อว่าพรุ่งนี้เราจะได้ออกไปปีนเขาแต่เช้าได้
สถานีรถไฟด้านข้าง คือถ่ายด้านหน้าไม่ทันรีบบบบบ
อันนี้เป็นบรรยากาศในรถไฟความเร็วสูงนะค่ะ เป็นแบบ 5 ที่นั่งต่อ 1 แถว มีโต๊ะวางอาหารแบบที่ป้าคนข้างๆกางอยู่ แล้วก็มีที่ชาร์ตแบตโทรศัพท์อยู่ข้างหน้าด้านล่าง จริงๆอารมณ์ก็เหมือนรถไฟที่ญี่ปุ่น
พอไปถึงป้ายที่ใกล้ๆ คนขับก็จอดแล้วก็มองมาที่เราแล้วพูดภาษาจีนยาวๆไป ฟังไม่รู้เรื่อง 5555 เราก็จ่ายค่ารถเมล์คนละ 1 หยวน (พี่คนข้างหลังแกพูดภาษาอังกฤษได้ แกบอกมานั่งรถเมล์แบบนี้ป้ายใหนๆ ก็จ่ายเลย 1 หยวน ว่างั้น)
ถึงแล้วจ้าา วันนี้เรานอนที่นี่แหละ
Hotel : Emeishan Jixiang Hotel
Rate : THB 547.56
ภายในห้องเป็นเตียงคิงไซต์ ไดร์ ทีวี อินเตอร์เน็ต ในห้องน้ำก็มีอุปกรณ์ครบ หมวกอาบน้ำ แปรงสีฟัน โรงแรมที่จีนจะมีแปรงสีฟันให้เป็นพื้นฐานเลยทุกโรงแรม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ข้อมูลเพิ่มเติม