หลังจากกระทู้ที่แล้วก็ถามเกี่ยวกับเรื่องปัญหาชาวบ้าน กระทู้นี้ขอถามเกี่ยวกับปัญหาตัวเองบ้าง เนื่องจากญาติฝั่งแม่ลูกของแฟนต้องการเอาเด็กไปเลี้ยงเอง แฟนก็ตกลงยินยอมให้ไป แต่... แต่แม่แฟนไม่ยอมให้ไป แล้วเหมือนกับว่าแม่จะโทรไปปรึกษาหารือกับพวกพี่ๆแฟน แล้วพี่แฟนก็หาว่าเราไปยุให้แฟนส่งลูกไปหาแม่เขา (อันนี้แฟนเล่าให้ฟัง) เราก็แบบเอ้า! เกี่ยวไรกับเราเนี่ย? ปกติลูกแฟน แม่แฟนจะเป็นคนเลี้ยง แฟนทำงานไกลนานๆที่จะกลับมาบ้าน แต่ตอนนี้คือมาอยู่ด้วยกัน วันก่อนได้ยินแฟนคุยกับแม่ประมาณว่าส่งเด็กไปเถอะ เผื่อเด็กจะมีอนาคตที่ดีกว่านี้ แล้วแม่แฟนก็ร้องไห้แบบทำใจไม่ได้ อาจจะเพราะเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กๆ ความรัก ความผูกพันธ์มันต้องมีอยู่แล้ว จับใจความได้ว่าแม่ยอมส่งเด็กให้กลับไปอยู่กับญาติฝั่งแม่ ลูกแฟนรู้ก็โวยวายว่าไม่เอา ไม่ไปอยู่ แม่แฟนก็บอกว่าไม่ส่งกลับไปหรอก เลี้ยงมาจนขนาดนี้แล้ว (แต่แม่แฟนตกลงกับฝั่งนู้นไว้แล้ว ว่าถ้าเด็กปิดเทอมจะพาไปส่งให้ทันที ถ้าถามว่าทำไมให้แม่พาไปส่ง ทำไมไม่ให้แฟนเราไปส่งเอง เพราะว่าแฟนเพิ่งได้งานใหม่ เป็นช่วงทดลองงาน ลาไม่ได้ก่อน) ความสัมพันธ์ระหว่างแฟนกับลูกเขาก็เป็นไปในทางที่แย่ขึ้น อันนี้น่าจะผลมาจากลูกแฟนที่ไม่ค่อยให้ความเคารพมั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ลูกแฟนถามอะไรแฟนสักอย่าง แล้วแฟนไ่ม่ตอบ (ตอนนั้นแฟนดูข่าวการเมืองอย่างเมามัน) ลูกแฟนก็ล้อเลียนกับเพื่อนแบบเรียกไม่ได้ยินสงสัยหูหนวก แล้วก็หัวเราะขำๆกับเพื่อน และจากกรณีที่แฟนไม่สนใจลูกเขา เราก็เลยถูกเม้งจากแม่แฟน และลูกแฟนบ่อยๆ คือเราเหมือนเป็นคนผิดอ่ะ เคยถามแฟนนะว่าทำไมไม่สนใจลูกบ้าง แฟนก็บอกนะว่าเด็กมันดื้อ เอาแต่ใจ (แม่แฟนเลี้ยงแบบตามใจ เอาง่ายๆว่าเด็กแค่เรียน กิน เที่ยว นอน เท่านั้น อารมณ์แบบลูกคุณหนูไม่ต้องทำอะไร) และบอกเราว่าอย่าไปสนใจ เพราะแฟนกับเราไม่ได้เลี้ยงมาตั้งแต่แรกแล้ว ไปสั่งสอนมากๆเดี๋ยวขัดใจแม่อีก ส่วนตัวเรื่องส่งไปให้แม่เด็กเลี้ยง เราว่าก็ดีนะ คือมันก็ดีกว่าให้เด็กอยู่ที่นี่อ่ะ เข้าใจสภาพตึกแถวหนึ่งชั้นติดๆกัน ฝาผนังกันบางๆ เรียกบ้านๆว่าห้องแถว ตื่นเช้ามาก็ได้ยินแต่เสียงป้าข้างบ้านก่นด่าลูกหลานด้วยคำหยาบ แต่ละคำนี่แบบช่างสรรหาคำมาด่า แล้วก็เรื่องฝุ่นละออง ที่ฟุ้งกระจายตลอดเวลา ปากซอยก็จะมีร้านคาราโอเกะเล็กๆแบบบ้าน ปน่นอนว่าต้องมีพวกขี้เมาอยู่แล้ว แล้วลูกแฟนก็ชอบออกไปเที่ยวเล่นกลางคืน ดึกๆ แต่งตัวใส่เสื้อยืดรัดรูปบ้าง โปร่งๆบ้าง แต่กางเกงนี่คือเสมอหูเลยค่ะ (เสมอจริงๆ) เคยบอกแม่แฟนเรื่องการแต่งตัวของลูกแฟน แม่แฟนก็เฉย บอกแฟนให้ตักเตือนลูก ลูกแฟนก็แบบทำเฉยๆ โนสนโนแคร์ (เราก็ใส่สั้นนะเวลาอยู่ในบ้าน ถ้าออกนอกบ้านก็ต้องใส่ขายาว แฟนไม่ให้ใส่สั้น) เราคิดว่ามันดีกว่าที่นี่อ่ะในความคิดส่วนตัวอ่านะ อาจเป็นเพราะเราไม่เคยอยู่ร่วมกับคนหมูมาก อีกอย่างก็สงสารแม่แฟน ที่ต้องมาคอยทำงานเหมือนคนรับใช้ลูกแฟนอ่ะ อันนี้คือจริงนะๆ ลูกแฟนก็โตเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นแล้ว แต่แม่แฟนอายุจะแปดสิบแล้วอ่ะ ยังต้องมาคอยซักผ้าให้ แม้แต่กระทั่งถุงเท้า ชุดชั้นใน แม่แฟนเป็นคนซักให้ทุกอย่าง แม่แฟนก็เคยพูดนะว่าคงเป็นเวรกรรมของแกที่ดึงดันไปเอาเด็กมาเลี้ยง เราเองก็อึดอัดกับเรื่องนี้นะ เพราะกลัวว่าคนอื่นจะมองเราเป็นคนไม่ดี เพราะเขาก็รู้ๆกันว่าลูกแฟนกับเรามีเรื่องกันตลอด ตอนนี้คืออึดอัดมากๆ ที่อึดอัดอีกเรื่องคือแฟนเหมือนเป็นคนหาเลี้ยงทั้งครอบครัวทั้งแม่ ลูกแฟน พี่ชายแฟน(สติไม่ค่อยดี) เงินเดือนเกินครึ่งของแฟนก็ต้องเป็นค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูครอบครัวเขา ก็เคยพูดๆกับแฟนนะว่า ถ้าเกิดเป็นแบบนี้อย่าหวังเลยว่าจะเก็บเงินสร้างอนาคตกันได้ เคยมีอยู่ครั้งหนึ่ง แฟนได้เงินเดือน 10,000 ต้องให้แม่+ค่าซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า 8,000 ก็เหลือติดตัว 2,000 แล้วต้องจ่ายค่าโทรศัพท์ฯ ค่าเน็ต สรุปว่าเดือนนั้น แทบไม่เหลือเงินเลย บางทีเงินที่แฟนให้แม่ แม่แฟนก็เอาเก็บไว้นะ แต่เก็บไว้ให้พี่สาวแฟน (บางครั้งพี่สาวแฟนเขาโทรมายืม) ในตรงนี้เราก็ไม่โอเคนะ แต่ก็ดูเหมือนแฟนจะไม่สนอะไร บางครั้งแม่แฟนพูดไม่ว่าเรื่องอะไรแฟนก็จะเออออตามไปด้วย จนเราบอกกับแฟนว่าไม่ใช้เด็กแล้วนะที่จะต้องให้พ่อแม่มาคอยบงการ (พ่อแม่เราเลี้ยงแบบปล่อยให้คิดเอง ผิดถูกก็ช่าง มาตั้งแต่อยู่ป.3 แล้ว) เรากลัวว่าสักวันเราจะทนไม่ไหวแล้วเลิกกับแฟน ทุกวันนี้ก็ปวดหัวกับลูกแฟนจะแย่อยู่แล้ว เราไม่อยากปวดหัวกับแม่แฟนแล้วก็ญาติพี่น้องแฟนเพิ่มอีกแล้ว
ญาติฝ่ายแม่จะเอาลูกแฟนไปเลี้ยงเอง แฟนยอมให้ไปแต่แม่แฟนไม่ยอม และกลายเป็นว่าเราเป็นคนผิด