ธรรมเป็นเรื่องที่แสนง่าย
ขอเกริ่นก่อนนะครับ ว่าผมเป็นคนโง่เขลาคนหนึ่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับศาสนาพุทธมาน้อย หนังสือที่ผมอ่านมาหลักๆ มีแค่ 2 เล่ม ก็คือ นวโกวาท กับธรรมวิภาคแต่จำไม่ได้ว่าตรีหรือโท อีกทั้งผมเป็นคนความจำสั้นอ่านแล้วก็ลืม ผมจึงไม่ค่อยเข้าใจเมื่อมีคนชอบยกเรื่องพระไตรปิฎก หรืออะไรยากๆ จากที่ผมเคยอ่าน
อย่างที่ผมได้เกริ่นไปแล้วผมจะขอโม้สักหน่อยต่อจากนี้
ผมบวชพระมา เพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น บวชเพราะถึงเวลาบวชอายุ 20 ผมไม่เห็นว่าการนั่งให้ได้สมาธิสำหรับผมจะยากอะไรเลยแค่นั่งหลับตา ผมก็นิ่งไม่ฟุ้งซ่าน หากจิตไม่นิ่งก็แค่มีสติ หากรู้สึกสบายหรือเพลินผมก็แค่ปล่อยผ่านเดียวมันก็เข้ามาสู้ความสงบ หากรู้สึกตื่นเต้นเวลามีความสุขจากการนั่งก็แค่เห็นว่ามันมีแล้วก็หาย อยากให้มีความจางคล้ายมีตัวตนก็กำหนดได้ การทำสมาธิสำหรับผมเป็นเรื่องกล้วยๆ เหมือนปลอกก้วยเข้าปากเพียงแค่หลับตาก็สามารถเข้าฌาณได้ดังใจนึก
ขอโม้เพิ่มอีกหน่อยนะครับ ว่าด้วยเรื่องต่อไปนี้
1. พุทธศาสนาว่าด้วยเรื่องการหลุดพ้น มีหลักสำคัญคือ ศีล สมาธิและปัญญาเป็นแก่นของพุทธ หลักสามประการนี้สามารถรวมเป็นหลักใหญ่ได้ดังนี้นั่นก็คือ
มรรคมีองค์ 8 ประกอบด้วย
ปัญญา -----> 1. สัมมาทิฐิ (ความเห็นที่ถูกต้อง) หมายถึง ความรู้ในอริยสัจ 4
2. สัมมาสังกัปปะ (ความคิดที่ถูกต้อง)
ศีล----------->3. สัมมาวาจา (วาจาที่ถูกต้อง) หมายถึง การเว้นจากการพูดเท็จ หยาบคาย ส่อเสียด และเพ้อเจ้อ
4. สัมมากัมมันตะ (การปฏิบัติที่ถูกต้อง) หมายถึง เจตนาละเว้นจากการฆ่า โจรกรรม และการประพฤติผิดในกาม
5. สัมมาอาชีวะ (การหาเลี้ยงชีพที่ถูกต้อง) หมายถึง การเว้นจากมิจฉาชีพ
6. สัมมาวายามะ (ความเพียรที่ถูกต้อง) หมายถึง สัมมัปปธาน 4 คือ ความพยายามป้องกันอกุศลที่ยังไม่เกิด ละอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ทำกุศลที่ ยังไม่เกิด และดำรงรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้ว
สมาธิ------->7. สัมมาสติ (การมีสติที่ถูกต้อง) หมายถึง สติปัฏฐาน 4
8. สัมมาสมาธิ (การมีสมาธิที่ถูกต้อง) หมายถึง ฌาน 4
ปัญญา ข้อ 1,2 หาไม่ยากครับเพียงแค่ท่านอ่านคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วน้ำไปพิจารณาหาข้อเท็จจริงด้วยตัวท่านเองก็สามารถตอบข้อสงสัยทุกอย่างบนโลกนี้ได้อย่างไร้ความกังขา ยกตัวอย่างเช่น ทุกสิ่งบนโลกนี้ความจริงไม่มีตัวไม่มีตน ตัวเราไม่ใช่ของเราไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ก็คือล้วนแล้วแต่คนสมมติให้มันเกิดขึ้น เพราะโลกของธรรมมีเพียงโลกขันธ์ นั่นก็คือ มีแค่รูปกับนาม ง่ายเนาะ
ศีล 3 4 5 6 ถือครองสมณะ สงฆ์โดยสมบรูณ์ ก็ได้ละ
สมาธิ ง่ายนิดเดียวมีความเพียรเห็นตามเป็นจริงโดยมีปัญญาตัวชี้นำ ง่ายจริ๊งๆ ขอบอก
ขี้โม้ข้อ 2 ไม่มีเรื่องอะไรหรอกครับแค่อยากจะบอกว่าปฏิบัติเยอะๆ ครับมีความเพียรเป็นที่ตั้ง ทำให้พละ 5 ให้สมบรูณ์ จบขอบคุณครับเราไปนั่งสมาธิกันครับ
ปล. แค่อยากจะบอกว่าผมขี้โม้ครับ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร ขอบคุณครับทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ
ธรรมง่ายๆ ขี้โม้เรื่อยเปื่อย
ขอเกริ่นก่อนนะครับ ว่าผมเป็นคนโง่เขลาคนหนึ่งอ่านหนังสือเกี่ยวกับศาสนาพุทธมาน้อย หนังสือที่ผมอ่านมาหลักๆ มีแค่ 2 เล่ม ก็คือ นวโกวาท กับธรรมวิภาคแต่จำไม่ได้ว่าตรีหรือโท อีกทั้งผมเป็นคนความจำสั้นอ่านแล้วก็ลืม ผมจึงไม่ค่อยเข้าใจเมื่อมีคนชอบยกเรื่องพระไตรปิฎก หรืออะไรยากๆ จากที่ผมเคยอ่าน
อย่างที่ผมได้เกริ่นไปแล้วผมจะขอโม้สักหน่อยต่อจากนี้
ผมบวชพระมา เพียงแค่ 3 เดือนเท่านั้น บวชเพราะถึงเวลาบวชอายุ 20 ผมไม่เห็นว่าการนั่งให้ได้สมาธิสำหรับผมจะยากอะไรเลยแค่นั่งหลับตา ผมก็นิ่งไม่ฟุ้งซ่าน หากจิตไม่นิ่งก็แค่มีสติ หากรู้สึกสบายหรือเพลินผมก็แค่ปล่อยผ่านเดียวมันก็เข้ามาสู้ความสงบ หากรู้สึกตื่นเต้นเวลามีความสุขจากการนั่งก็แค่เห็นว่ามันมีแล้วก็หาย อยากให้มีความจางคล้ายมีตัวตนก็กำหนดได้ การทำสมาธิสำหรับผมเป็นเรื่องกล้วยๆ เหมือนปลอกก้วยเข้าปากเพียงแค่หลับตาก็สามารถเข้าฌาณได้ดังใจนึก
ขอโม้เพิ่มอีกหน่อยนะครับ ว่าด้วยเรื่องต่อไปนี้
1. พุทธศาสนาว่าด้วยเรื่องการหลุดพ้น มีหลักสำคัญคือ ศีล สมาธิและปัญญาเป็นแก่นของพุทธ หลักสามประการนี้สามารถรวมเป็นหลักใหญ่ได้ดังนี้นั่นก็คือ
มรรคมีองค์ 8 ประกอบด้วย
ปัญญา -----> 1. สัมมาทิฐิ (ความเห็นที่ถูกต้อง) หมายถึง ความรู้ในอริยสัจ 4
2. สัมมาสังกัปปะ (ความคิดที่ถูกต้อง)
ศีล----------->3. สัมมาวาจา (วาจาที่ถูกต้อง) หมายถึง การเว้นจากการพูดเท็จ หยาบคาย ส่อเสียด และเพ้อเจ้อ
4. สัมมากัมมันตะ (การปฏิบัติที่ถูกต้อง) หมายถึง เจตนาละเว้นจากการฆ่า โจรกรรม และการประพฤติผิดในกาม
5. สัมมาอาชีวะ (การหาเลี้ยงชีพที่ถูกต้อง) หมายถึง การเว้นจากมิจฉาชีพ
6. สัมมาวายามะ (ความเพียรที่ถูกต้อง) หมายถึง สัมมัปปธาน 4 คือ ความพยายามป้องกันอกุศลที่ยังไม่เกิด ละอกุศลที่เกิดขึ้นแล้ว ทำกุศลที่ ยังไม่เกิด และดำรงรักษากุศลที่เกิดขึ้นแล้ว
สมาธิ------->7. สัมมาสติ (การมีสติที่ถูกต้อง) หมายถึง สติปัฏฐาน 4
8. สัมมาสมาธิ (การมีสมาธิที่ถูกต้อง) หมายถึง ฌาน 4
ปัญญา ข้อ 1,2 หาไม่ยากครับเพียงแค่ท่านอ่านคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วน้ำไปพิจารณาหาข้อเท็จจริงด้วยตัวท่านเองก็สามารถตอบข้อสงสัยทุกอย่างบนโลกนี้ได้อย่างไร้ความกังขา ยกตัวอย่างเช่น ทุกสิ่งบนโลกนี้ความจริงไม่มีตัวไม่มีตน ตัวเราไม่ใช่ของเราไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ก็คือล้วนแล้วแต่คนสมมติให้มันเกิดขึ้น เพราะโลกของธรรมมีเพียงโลกขันธ์ นั่นก็คือ มีแค่รูปกับนาม ง่ายเนาะ
ศีล 3 4 5 6 ถือครองสมณะ สงฆ์โดยสมบรูณ์ ก็ได้ละ
สมาธิ ง่ายนิดเดียวมีความเพียรเห็นตามเป็นจริงโดยมีปัญญาตัวชี้นำ ง่ายจริ๊งๆ ขอบอก
ขี้โม้ข้อ 2 ไม่มีเรื่องอะไรหรอกครับแค่อยากจะบอกว่าปฏิบัติเยอะๆ ครับมีความเพียรเป็นที่ตั้ง ทำให้พละ 5 ให้สมบรูณ์ จบขอบคุณครับเราไปนั่งสมาธิกันครับ
ปล. แค่อยากจะบอกว่าผมขี้โม้ครับ ผมไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร ขอบคุณครับทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ