ผมพึ่งเข้ามาขายตลาดออนไลน์ได้ 6 เดือน พรบ.นี้ก็คลอดออกมารับน้องในทันที
ในมุมของผมการที่รัฐบาลออกกฏหมายนี้มา ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และเป็นเรื่องที่ดี
และควรจะมีมาตั้งนานแล้ว ในเมื่อเรามีรายได้ก็ควรจะต้องจ่ายภาษีเพื่อมาพัฒนาประเทศชาติของเรา
แถมเรายังนำข้อมูลจากการเสียภาษีตรงนี้ มาสร้างเครดิตกับสถาบันทางการเงินต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อต่างๆ การกู้เพื่อซื้อรถ,บ้าน การทำบัตรเครดิต ก็จะง่ายขึ้น
แต่ตอนนี้การค้าขายออนไลน์ร้านค้าอาการเริ่มน่าเป็นห่วงเพราะร้านค้าจากจีนเข้ามาตีตลาดผู้ประกอบการไทย
หนำซ้ำไทยและจีนอยู่ในข้อตกลง FTA (Free Trade Agreement) ซึ่งคือ “เขตการค้าเสรี”
ที่ทำให้การนำสินค้าเข้ามาขายระหว่างประเทศไม่มีภาษีนำเข้าหากสินค้าที่นำเข้ามานั้นมีมูลค่าไม่เกิน 1,000 บาท
จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระภาษี จึงทำให้ร้านค้าจากจีนไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า(ประเทศไทยไม่ได้อะไรเลย)
ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ที่เราขายกันก็ผลิตมาจากจีนทั้งนั้น และในเมื่อการสื่อสารพัฒนาขึ้นมากกว่าแต่ก่อน
ช่องทางการค้ามากมาย ทั้งเว็บไซต์ ทั้งแอฟพลิเคชั่น หลากหลายแพลตฟอร์มที่มีอยู่และกำลังจะเกิดใหม่
เอื้อประโยชน์ต่อร้านค้าจากจีนโดยตรง เพราะสามารถลงมาขายเองโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง(คนไทย)
ทำให้เกิดการแข่งขันทางด้านราคาอย่างหนัก ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ตายกันเป็นแทบๆ จะดั้มราคาสู้ผู้ผลิตยังไงไหว
แถมรัฐบาลจีนสนับสนุนการส่งสินค้าขายออกต่างประเทศ ทำให้ร้านค้าจากจีนส่งสินค้ามาขายคนไทยได้ฟรี
เคยงงไหมสั่งของจากจีนแค่ 10 บาท(คนไทยขาย 15 บาท) แถมค่าส่งฟรี ร้านค้าจีนทำไมถึงยังอยู่กันได้
ร้านไทยส่งไปรษณีย์,เคอรี่ค่าจัดส่ง 40-50 บาท ส่งจากจีนถึงหน้าบ้านค่าส่ง 15-30 บาท ตายแน่ๆ ร้านไทย
ด้านผู้บริโภคคนไทยก็ดีใจเย้วๆ กันว่าได้ของถูก ยอมรอของนานหน่อย 10-15 วันแล้วได้ของถูก
จะโง่ยอมซื้อของที่เหมือนกัน แต่ราคาแพงกว่าจากร้านค้าคนไทย ทำไมกันหล่ะ คิดแบบนี้กันใช่ไหม
โดยไม่ตระหนักถึงวงจรการค้าและต้นทุนด้านต่างๆ ของผู้ประกอบการคนไทยเช่นค่านำเข้า ค่าขนส่ง
ทำให้ตลาดออนไลน์ตอนนี้สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยในไทย ผมมองว่ากำลังจะล่มสลายในไม่ช้านี้
และในเมื่อสินค้าอุปโภคถึงทางตัน ก็จะแห่ไปแข่งสินค้าบริโภคกันแทน สังเกตได้เลยเดี๋ยวนี้คนไทย
คิดอะไรไม่ออกไม่รู้จะขายอะไร จะไปของกินเป็นอันดับแรกซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องนะ
เพราะตลาดของกินสินค้าจากจีนคงเข้ามาเจาะตลาดไทยคงจะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ
แต่สุดท้ายคุณก็ต้องมาสู้รบกับนายทุนผู้ผูกขาดตลาดของกิน 24 ชั่วโมงของเมืองไทยแทน
เลยไม่รู้ว่า พรบ.นี้ออกมาถูกจังหวะจริงๆ หรือรัฐบาลควรมีมาตราการดูแลผู้ประกอบการคนไทยมากกว่านี้ไหม
เพื่อนๆ มีความคิดเห็นอย่างไรกับ พรบ.นี้ อาจจะมีข้อดีอื่นๆ อีกที่ผมคาดไม่ถึง มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ
จากใจคนขายของออนไลน์ เกี่ยวกับ พรบ.ภาษีผู้ค้าออนไลน์
ในมุมของผมการที่รัฐบาลออกกฏหมายนี้มา ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และเป็นเรื่องที่ดี
และควรจะมีมาตั้งนานแล้ว ในเมื่อเรามีรายได้ก็ควรจะต้องจ่ายภาษีเพื่อมาพัฒนาประเทศชาติของเรา
แถมเรายังนำข้อมูลจากการเสียภาษีตรงนี้ มาสร้างเครดิตกับสถาบันทางการเงินต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นการขอสินเชื่อต่างๆ การกู้เพื่อซื้อรถ,บ้าน การทำบัตรเครดิต ก็จะง่ายขึ้น
แต่ตอนนี้การค้าขายออนไลน์ร้านค้าอาการเริ่มน่าเป็นห่วงเพราะร้านค้าจากจีนเข้ามาตีตลาดผู้ประกอบการไทย
หนำซ้ำไทยและจีนอยู่ในข้อตกลง FTA (Free Trade Agreement) ซึ่งคือ “เขตการค้าเสรี”
ที่ทำให้การนำสินค้าเข้ามาขายระหว่างประเทศไม่มีภาษีนำเข้าหากสินค้าที่นำเข้ามานั้นมีมูลค่าไม่เกิน 1,000 บาท
จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระภาษี จึงทำให้ร้านค้าจากจีนไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า(ประเทศไทยไม่ได้อะไรเลย)
ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ที่เราขายกันก็ผลิตมาจากจีนทั้งนั้น และในเมื่อการสื่อสารพัฒนาขึ้นมากกว่าแต่ก่อน
ช่องทางการค้ามากมาย ทั้งเว็บไซต์ ทั้งแอฟพลิเคชั่น หลากหลายแพลตฟอร์มที่มีอยู่และกำลังจะเกิดใหม่
เอื้อประโยชน์ต่อร้านค้าจากจีนโดยตรง เพราะสามารถลงมาขายเองโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง(คนไทย)
ทำให้เกิดการแข่งขันทางด้านราคาอย่างหนัก ยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ตายกันเป็นแทบๆ จะดั้มราคาสู้ผู้ผลิตยังไงไหว
แถมรัฐบาลจีนสนับสนุนการส่งสินค้าขายออกต่างประเทศ ทำให้ร้านค้าจากจีนส่งสินค้ามาขายคนไทยได้ฟรี
เคยงงไหมสั่งของจากจีนแค่ 10 บาท(คนไทยขาย 15 บาท) แถมค่าส่งฟรี ร้านค้าจีนทำไมถึงยังอยู่กันได้
ร้านไทยส่งไปรษณีย์,เคอรี่ค่าจัดส่ง 40-50 บาท ส่งจากจีนถึงหน้าบ้านค่าส่ง 15-30 บาท ตายแน่ๆ ร้านไทย
ด้านผู้บริโภคคนไทยก็ดีใจเย้วๆ กันว่าได้ของถูก ยอมรอของนานหน่อย 10-15 วันแล้วได้ของถูก
จะโง่ยอมซื้อของที่เหมือนกัน แต่ราคาแพงกว่าจากร้านค้าคนไทย ทำไมกันหล่ะ คิดแบบนี้กันใช่ไหม
โดยไม่ตระหนักถึงวงจรการค้าและต้นทุนด้านต่างๆ ของผู้ประกอบการคนไทยเช่นค่านำเข้า ค่าขนส่ง
ทำให้ตลาดออนไลน์ตอนนี้สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยในไทย ผมมองว่ากำลังจะล่มสลายในไม่ช้านี้
และในเมื่อสินค้าอุปโภคถึงทางตัน ก็จะแห่ไปแข่งสินค้าบริโภคกันแทน สังเกตได้เลยเดี๋ยวนี้คนไทย
คิดอะไรไม่ออกไม่รู้จะขายอะไร จะไปของกินเป็นอันดับแรกซึ่งก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องนะ
เพราะตลาดของกินสินค้าจากจีนคงเข้ามาเจาะตลาดไทยคงจะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ
แต่สุดท้ายคุณก็ต้องมาสู้รบกับนายทุนผู้ผูกขาดตลาดของกิน 24 ชั่วโมงของเมืองไทยแทน
เลยไม่รู้ว่า พรบ.นี้ออกมาถูกจังหวะจริงๆ หรือรัฐบาลควรมีมาตราการดูแลผู้ประกอบการคนไทยมากกว่านี้ไหม
เพื่อนๆ มีความคิดเห็นอย่างไรกับ พรบ.นี้ อาจจะมีข้อดีอื่นๆ อีกที่ผมคาดไม่ถึง มาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ