มันเริ่มจากหลายๆเรื่องจนเราซึมอย่างวันนี่
1.เวลาพี่เราอยากจะได้อะไรพี่เรามักจะได้เสมอที่บ้านไม่กล้าว่าเขา
2.เวลาเราอยากได้อะไรเอามาใช้ประโยชน์เราจะขอให้เขาช่วยออกครึ่งหนึ่งเขามักจะทำเหมือนไม่อยากช่วย
3.ไม่ว่าพี่หรือเราจะผิดเขามักจะบอกให้เรายอมเสมอแล้วยอมให้พี่ด่าเรา
4.ยิ่งโตเรายิ่งเข้าสังคมครอบครัวไม่ค่อยดีเราไม่ค่อยคุยไม่ค่อยอ้อน (ทัศนคติไม่ตรงกันหลายๆเรื่อง)
5.เรามักจะทำอะไรเงียบโดยที่คนอื่นไม่รู้พอเราไม่ทำเขามักจะมาว่า ว่าจะให้พวกเขาทำทำไมเราไม่ทำทั่งที่ตอนเราทำมักไม่มีคนเห็น
6.เราทำสิ่งดีๆแต่พวกเขาไม่เห็นไม่ขอบคุณเราก็ไม่ได้สนใจมากแต่ยิ่งนับวันเรายิ่งรู้สึกน้อยใจทำไมไม่มีใครเห็นความดีเราบ้าง
7.ไม่ว่าเราจะพยายามเรียนหรือทำกิจกรรมแค่ไหนมักจะไม่มีคำชมหรือชมแบบส่งๆขอไปที
8.เวลาเราทำอะไรได้เขาจะพูดว่าพี่ทำได้ดีกว่านี่หรือว่าขนาดนี่พี่ยังได้แค่นี่ หรือไม่ก็หันมามองมาฟังแล้วก็ไม่สนใจ
9.เขาบอกว่าถ้าพี่จบเขาเหนื่อยแล้วเขาจะหยุดแล้วให้พ่อแม่เราส่งต่อ(ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่)
เราก็เข้าใจที่เขาเหนื่อยแต่ยิ่งนับวัน ความเข้าใจของเรามันกับแปรเปลี่ยนเป็นความน้อยใจ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันผิดที่ตัวเราพกเงินสำรองไม่มากไปโอนเงินแต่ที่นี่พอเก็บค่าธรรมเราเหลือเงินติดตัวอยู่ 2 บาท บาทแรกเราโทรกลับมาไม่มีคนรับ บาทที่สองเราโทรหาที่บ้านอีกคนรับแต่คุยแล้วเขาฟังเราไม่รู้เรื่องแล้วเงินถูกตัดไปก่อน จากนั้นเรามืดแปดด้านที่บ้านไม่โทรกลับมา จังหวะนั้นเราคิดว่า กูต้องขอทานไหม ยืมคนแถวนี่ไหม แต่ดีที่เรานึกได้ว่ามีเพื่อนอยู่แถวนี่ เลยวิ่งไปที่ โรงเรียนเพื่อไปต่อสัญญาณเน็ตเมื่อเรายืมเงินเะื่อนและกลับถึงบ้าน เราถามว่าทำไมไม่รับสายเขาบอกเห็นเบอร์แปลกเลยไม่รับ(ส่วนบาทที่สองเขาไปทำงานแล้ว)
แล้วเขาก็พูดกันว่า
จะเป็นไปได้ไงอย่างน้อยก็ต้องมีติดตัว
เขาไม่ถามอะไรเราสักอย่างเขาทำเป็นเหมือนเรื่องธรรมดา แล้วเขาก็หันไปคุยเรื่องอื่นต่อ
เราบอกว่าก็ ไม่มีเงินสักบาทจะกลับได้ไง ถ้าไม่ได้เพื่อนก็คงนอนโรงเรียน
เขาเลยบอกว่า ก็นอนโรงเรียน
คือหลังจากคำพูดนั้นเราก็น้ำตาคลอ แล้วก็ร้องไห้ คือมันเป็นความรู้สึกแบบมีใครเป็นห่วงเราบ้างไหม ตอนเรารู้ว่าไม่มีเงินเลยหลังจากโทรศัพท์ตู้
เรรู้สึกเควงเราต้องการที่พึ่ง เรากลัว กลัวมากว่าเราจะไม่ได้กลับบ้าน แต่พอกลับมาเขาไม่ได้ถามความรู้สึกเราเลย เขาไม่เคยปลอบเราไม่ว่าตอนไหน
เราไม่เคยวรู้สึกว่าเรามีที่พึ่ง บางครั้งเราก็รู้สึกเหมือนเราไม่ใช่คนในบ้าน เราอยากจะมาเล่าให้ทุกคนฟัง
เราต้องการคนที่อยู่ข้างเราถามเราบ้าง บางครั้งเราก็รู้สึกอ่อนแอแอบร้องไห้คน้ดียวซ้ำๆ
จนเรารู้สึกว่าตายดีไหม
เราพิมพ์ไปในขณะที่เราร้องไห้พิมพ์ผิดขออภัย ยิ่งได้ยินเขาหัวเราะกันโดยไม่ถามความรู้สึกเราเรายิ่งน้อยใจ ไม่เข้าใจ จะหันไปพึ่งพ่อแม่ก็ไม่ได้เขาอยู่ตจว.ไม่ค่อยสนิทกัน พ่อแม่ก็ทะเลาะกันบ่อย
เราไม่เคยรู้สึกมั่นคงอะไรเลย เราพยายามแล้วพยามไม่อ่อนแอ พยายามเป็นคนที่ดีไม่นอกลู่นอกทาง
บางครั้งเราต้องการแค่คำชม แต่มันก็ไม่มี เราไม่รู้อนาคตจะเป็นยังไง แต่เรารู้สึกว่าตอนนี่เราไม่มีที่ไปยิ่งเวลาผ่านไปเรายิ่งรู้สึกว่ามันไม่ใช่ที่ของเรา
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน
เคยรู้สึกว่าเราไม่สำคัญในสายตาครอบครัวไหม
1.เวลาพี่เราอยากจะได้อะไรพี่เรามักจะได้เสมอที่บ้านไม่กล้าว่าเขา
2.เวลาเราอยากได้อะไรเอามาใช้ประโยชน์เราจะขอให้เขาช่วยออกครึ่งหนึ่งเขามักจะทำเหมือนไม่อยากช่วย
3.ไม่ว่าพี่หรือเราจะผิดเขามักจะบอกให้เรายอมเสมอแล้วยอมให้พี่ด่าเรา
4.ยิ่งโตเรายิ่งเข้าสังคมครอบครัวไม่ค่อยดีเราไม่ค่อยคุยไม่ค่อยอ้อน (ทัศนคติไม่ตรงกันหลายๆเรื่อง)
5.เรามักจะทำอะไรเงียบโดยที่คนอื่นไม่รู้พอเราไม่ทำเขามักจะมาว่า ว่าจะให้พวกเขาทำทำไมเราไม่ทำทั่งที่ตอนเราทำมักไม่มีคนเห็น
6.เราทำสิ่งดีๆแต่พวกเขาไม่เห็นไม่ขอบคุณเราก็ไม่ได้สนใจมากแต่ยิ่งนับวันเรายิ่งรู้สึกน้อยใจทำไมไม่มีใครเห็นความดีเราบ้าง
7.ไม่ว่าเราจะพยายามเรียนหรือทำกิจกรรมแค่ไหนมักจะไม่มีคำชมหรือชมแบบส่งๆขอไปที
8.เวลาเราทำอะไรได้เขาจะพูดว่าพี่ทำได้ดีกว่านี่หรือว่าขนาดนี่พี่ยังได้แค่นี่ หรือไม่ก็หันมามองมาฟังแล้วก็ไม่สนใจ
9.เขาบอกว่าถ้าพี่จบเขาเหนื่อยแล้วเขาจะหยุดแล้วให้พ่อแม่เราส่งต่อ(ไม่ได้อยู่กับพ่อแม่)
เราก็เข้าใจที่เขาเหนื่อยแต่ยิ่งนับวัน ความเข้าใจของเรามันกับแปรเปลี่ยนเป็นความน้อยใจ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันผิดที่ตัวเราพกเงินสำรองไม่มากไปโอนเงินแต่ที่นี่พอเก็บค่าธรรมเราเหลือเงินติดตัวอยู่ 2 บาท บาทแรกเราโทรกลับมาไม่มีคนรับ บาทที่สองเราโทรหาที่บ้านอีกคนรับแต่คุยแล้วเขาฟังเราไม่รู้เรื่องแล้วเงินถูกตัดไปก่อน จากนั้นเรามืดแปดด้านที่บ้านไม่โทรกลับมา จังหวะนั้นเราคิดว่า กูต้องขอทานไหม ยืมคนแถวนี่ไหม แต่ดีที่เรานึกได้ว่ามีเพื่อนอยู่แถวนี่ เลยวิ่งไปที่ โรงเรียนเพื่อไปต่อสัญญาณเน็ตเมื่อเรายืมเงินเะื่อนและกลับถึงบ้าน เราถามว่าทำไมไม่รับสายเขาบอกเห็นเบอร์แปลกเลยไม่รับ(ส่วนบาทที่สองเขาไปทำงานแล้ว)
แล้วเขาก็พูดกันว่า
จะเป็นไปได้ไงอย่างน้อยก็ต้องมีติดตัว
เขาไม่ถามอะไรเราสักอย่างเขาทำเป็นเหมือนเรื่องธรรมดา แล้วเขาก็หันไปคุยเรื่องอื่นต่อ
เราบอกว่าก็ ไม่มีเงินสักบาทจะกลับได้ไง ถ้าไม่ได้เพื่อนก็คงนอนโรงเรียน
เขาเลยบอกว่า ก็นอนโรงเรียน
คือหลังจากคำพูดนั้นเราก็น้ำตาคลอ แล้วก็ร้องไห้ คือมันเป็นความรู้สึกแบบมีใครเป็นห่วงเราบ้างไหม ตอนเรารู้ว่าไม่มีเงินเลยหลังจากโทรศัพท์ตู้
เรรู้สึกเควงเราต้องการที่พึ่ง เรากลัว กลัวมากว่าเราจะไม่ได้กลับบ้าน แต่พอกลับมาเขาไม่ได้ถามความรู้สึกเราเลย เขาไม่เคยปลอบเราไม่ว่าตอนไหน
เราไม่เคยวรู้สึกว่าเรามีที่พึ่ง บางครั้งเราก็รู้สึกเหมือนเราไม่ใช่คนในบ้าน เราอยากจะมาเล่าให้ทุกคนฟัง
เราต้องการคนที่อยู่ข้างเราถามเราบ้าง บางครั้งเราก็รู้สึกอ่อนแอแอบร้องไห้คน้ดียวซ้ำๆ
จนเรารู้สึกว่าตายดีไหม
เราพิมพ์ไปในขณะที่เราร้องไห้พิมพ์ผิดขออภัย ยิ่งได้ยินเขาหัวเราะกันโดยไม่ถามความรู้สึกเราเรายิ่งน้อยใจ ไม่เข้าใจ จะหันไปพึ่งพ่อแม่ก็ไม่ได้เขาอยู่ตจว.ไม่ค่อยสนิทกัน พ่อแม่ก็ทะเลาะกันบ่อย
เราไม่เคยรู้สึกมั่นคงอะไรเลย เราพยายามแล้วพยามไม่อ่อนแอ พยายามเป็นคนที่ดีไม่นอกลู่นอกทาง
บางครั้งเราต้องการแค่คำชม แต่มันก็ไม่มี เราไม่รู้อนาคตจะเป็นยังไง แต่เรารู้สึกว่าตอนนี่เราไม่มีที่ไปยิ่งเวลาผ่านไปเรายิ่งรู้สึกว่ามันไม่ใช่ที่ของเรา
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน