สำหรับผมคิดว่าเป็นเพราะโชคชะตาที่กำหนดมาให้โสด ตอนหนุ่มๆหน้าที่การงานดี แต่ก็ต้องไปทำงานต่างประเทศ เจอแต่สาวๆต่างชาติ ไม่อยากได้มาเป็นคู่ครองเพราะเกรงว่าเอากลับมาอาจปรับตัวเข้ากับเมืองไทยไม่ได้ และอาจจะมีปัญหากับญาติๆของเราด้วย เพราะสไตล์ความเป็นอยู่ต่างกันมาก
พอกลับเมืองไทยมาหวังว่าจะหาผู้หญิงไทยเป็นคู่ แต่หน้าที่การงานก็ไม่ดีเหมือนก่อน หาผู้หญิงดีๆที่สนใจเรายาก จีบไม่ค่อยติด พอเริ่มปักหลักในหน้าที่การงานดีๆได้แล้ว เริ่มจะจีบสาวได้แล้ว แต่ก็มีอุปสรรคเรื่องการแบ่งชนชั้นในองค์กรตามค่านิยมโบราณของสังคมไทยทำให้คบกันไม่ได้อีก เลยต้องลาออกจากงานอีกครั้ง
พอตั้งตัวได้อีกครั้งอายุก็จะ50แล้ว ทีนี้ผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตก็มีแต่แม่ม่ายลูกติด ซึ่งถ้ารับเขาเข้ามาก็ต้องเอาลูกเขามาเป็นภาระด้วย(บางคนติด3เลย) ซึ่งเราอยากมีลูกที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองมากกว่า ซึ่งเราจะได้ทุ่มเทกับการเลี้ยงดูกับลูกของเราได้อย่างเต็มที่
สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าโชคชะตากำหนดให้ต้องโสด เริ่มเข้าหาธรรมะ เอานิพพานเป็นเป้าหมาย ไม่งั้นคงอยู่แบบเลื่อนลอยไร้จุดหมาย เหงาและคิดมากจนโรคทางจิตเวชถามหาเข้าสักวัน
ท่านอื่นล่ะครับ ที่ตัวเองต้องเป็นโสดทั้งที่ไม่อยากโสดเป็นเพราะสาเหตุใดกันบ้าง
อยากทราบว่าแต่ละท่านที่ยังเป็นโสดทั้งที่ตัวเองไม่อยากจะโสดว่าเป็นเพราะอะไร
พอกลับเมืองไทยมาหวังว่าจะหาผู้หญิงไทยเป็นคู่ แต่หน้าที่การงานก็ไม่ดีเหมือนก่อน หาผู้หญิงดีๆที่สนใจเรายาก จีบไม่ค่อยติด พอเริ่มปักหลักในหน้าที่การงานดีๆได้แล้ว เริ่มจะจีบสาวได้แล้ว แต่ก็มีอุปสรรคเรื่องการแบ่งชนชั้นในองค์กรตามค่านิยมโบราณของสังคมไทยทำให้คบกันไม่ได้อีก เลยต้องลาออกจากงานอีกครั้ง
พอตั้งตัวได้อีกครั้งอายุก็จะ50แล้ว ทีนี้ผู้หญิงที่เข้ามาในชีวิตก็มีแต่แม่ม่ายลูกติด ซึ่งถ้ารับเขาเข้ามาก็ต้องเอาลูกเขามาเป็นภาระด้วย(บางคนติด3เลย) ซึ่งเราอยากมีลูกที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองมากกว่า ซึ่งเราจะได้ทุ่มเทกับการเลี้ยงดูกับลูกของเราได้อย่างเต็มที่
สุดท้ายก็ต้องยอมรับว่าโชคชะตากำหนดให้ต้องโสด เริ่มเข้าหาธรรมะ เอานิพพานเป็นเป้าหมาย ไม่งั้นคงอยู่แบบเลื่อนลอยไร้จุดหมาย เหงาและคิดมากจนโรคทางจิตเวชถามหาเข้าสักวัน
ท่านอื่นล่ะครับ ที่ตัวเองต้องเป็นโสดทั้งที่ไม่อยากโสดเป็นเพราะสาเหตุใดกันบ้าง