ฝรั่งทางอเมริกันส่วนมากนี่เขาอยากให้ลูกออกจากบ้านไปเผชิญชีวิตด้วยตัวเองเหมือนในหนังจริงไหมครับ?

แสดงว่าที่เมกา ค่าครองชีพ และบ้านราคาถูกกว่าออสฯ  เลยยังมีธรรมเนียมลูกออกไปสร้างตัวตั้งแต่อายุยังน้อยอยู่

      ออสเตรเลีย เมื่อก่อนเป็นแบบเมกาค่ะ คือลูกอายุ 16 ก็ย้ายออก  แต่ปัจจุบัน ไม่ใช่แล้ว  เคยเป็นข่าวออกทีวีช่อง 7 ที่ออสฯ มาหลายปีแล้ว  มีการไปสัมภาษณ์ผู้คนตามสถานที่ต่างๆ  เรื่องการย้ายออกจากบ้านพ่อแม่ มีอยู่คนนึงบอกว่า เคยทดลองไปแชร์อพาร์ทเม้นต์อยู่กับเพื่อนๆๆ  อยู่ได้แค่สองอาทิตย์ก็รีบย้ายกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่เหมือนเดิม เพราะ คชจ สูงมาก แถมต้องทำกับข้าวเอง อยู่บ้านพ่อแม่ แม่เป็นคนทำกับข้าวให้กินทุกมื้อ  แล้วยังมีการถามช่างกล้องในรายการด้วย เพราะช่างกล้องอายุจะสี่สิบแล้ว ยังอยู่กับพ่อแม่เช่นกัน

     ส่วนตัวเรา เจอมาหลายคนแล้วที่อยู่บ้านพ่อแม่ไปเรื่อยๆ  ล่าสุดที่เจอคืออายุเกือบสามสิบ ทดลองออกไปอยู่ข้างนอกเอง ทีแรกไปทำสัญญาเช่าสองปี พออยู่ไปๆ เริ่มไม่ไหวกับค่าเช่าแพงลิบลิ่ว กับ คชจ อื่นๆ  ชักหน้าไม่ถึงหลัง เลยต้องย้ายกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่เหมือนเดิม

      มีอยู่ราย พ่อแม่ไล่ออกไปอยู่เองตอนอายุยี่สิบ เพราะอยากจะอยู่กันสองสามีภรรยา  เราฟังแล้วงงมาก เพราะพ่อเขาบอกว่า ตัวเขาเองออกจากบ้านตอนอายุสิบหก ไปสร้างตัวเอง  ซึ่งยุคเมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้ว บ้านสามห้องนอน ราคาไม่ถึงแสน เป็นยุคที่พ่อออกไปทำงานคนเดียว แม่เป็นแม่บ้านอยู่บ้านเลี้ยงลูก ทำงานบ้านไป  พ่อบ้านใช้เงินเดือนหนึ่งในสี่เป็นค่าผ่อนบ้านได้  แต่ยุคนี้ บ้านสามห้องนอน ราคาเหยียบล้านเหรียญ  ต้องทำงานกันทั้งสองสามีภรรยา ห้ามตกงานเด็ดขาด เพราะเงินเดือนคนใดคนหนึ่งต้องจ่ายค่าผ่อนบ้านทั้งก้อน  อีกคนจ่ายค่ากับข้าว ค่าน้ำค่าไฟฯลฯ  ผลสุดท้ายพ่อคงตระหนักว่า ยุคสมัยเปลี่ยนไป อสังหาฯ ถูกคนจีนเข้ามาปั่นราคาจน over valued ไปหลายเท่าตัว ต่อให้ตัวเขาที่เงินเดือนสูงมากในตอนนี้ไปผ่อนบ้านเอง ยังเป็นไปได้ยาก   เลยยอมให้ลูกกลับมาอยู่บ้านเหมือนเดิม เพราะไล่ออกไปแล้ว ไปไม่รอด

     อีกเคสคือ อายุห้าสิบกว่า  มีลูกสาวคนเดียว ยังต้องอยู่บ้านแม่ที่เป็นยูนิตเล็กๆ สองห้องนอน ลูกสาวก็โตมาในบ้านย่านั่นแหละ

      ยุคนี้คนรุ่นหนุ่มสาวที่สามารถผ่อนอสังหาได้  ส่วนใหญ่คือมีพ่อแม่ช่วยเรื่อง down payment  ซึ่งเป็นเงินก้อนโตทีเดียว