สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมขอเล่ารายละเอียดเพื่อประกอบการพิจาณาก่อนนะครับ
ผมกับพี่สาวได้เซ็นสัญญาซื้อขายคอนโด ซึ่งโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จอีก 5 ปี นับจากวันที่เซ็นสัญญา ซึ่งตอนนั้นคือปี 2557 แต่ปรากฎว่าโครงการคอนโดไม่สามารถแล้วเสร็จ และผู้รับเหมาหนีงาน เจ้าของโครงการก็หนีหาย แม้กระทั่งบริษัทก็หายไป แต่ลูกบ้านที่ถือสัญญาก็รับรู้ว่าเจ้าของโครงการเป็นใคร พูดกันง่าย ๆ คือพวกเราโดนฉ้อโกง
เรื่องราวการแก้ปัญหาที่ทำให้เหล่าลูกบ้านว่าจะมีความหวังว่าจะได้เงินคือ ก็พอมีบ้าง แต่อยู่ดีดีก็เงียบหายไป มีคนนอกจะยื่นมือมาช่วยในการฟ้องร้องคดีความ แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า จน ณ วันนี้มีความหวังอีกครับ เดือนกุมภาพันธ์ 2562 (คดีฟ้องร้องดังกล่าวมีอายุความ 10 ปี) ทางลูกบ้านก็ต้องเร่งทำอะไรสักอย่างก่อนที่อายุความจะหมดลง ถึงตอนนี้พวกเราก็จะไม่ได้เงินคืนแม้แต่บาทเดียว แต่ละคนชำระเงินดาวน์ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 5 แสน ถึง 1 ล้านกว่าโดยที่ตอนนี้คอนโดก็ยังสร้างไม่เสร็จ ขับรถผ่านก็ยังเป็นตึกปูนเปลือยแบบนี้อยู่หลายปี คิดว่าคงหมดหนทางกันแล้ว
ขอกลับเข้าเหตุการณ์ปัจจุบันนะครับ คือมีบริษัทซึ่งอ้างว่าเขาจะเป็นตัวแทนในการดำเนินการฟ้องร้องคดีแพ่งกันอีกครั้ง โดยเรียกให้เหล่าลูกบ้านแจ้งชื่อ หมายเลขสัญญา และยอดเงินดาวน์ชำระไปแล้ว เพราะเขาให้เหตุผลว่า จะมีการเรียกเก็บเงินซึ่งเป็นค่าดำเนินการภายหลังการฟ้องร้องเสร็จสิ้น และเจ้าของโครงการคืนเงินให้กับลูกบ้าน ซึ่งคิดว่าอาจจะคืนได้ไม่เต็มจำนวน เพราะส่วนหนึ่งก็จะถูกหักให้กับบริษัทที่ดำเนินการฟ้องร้องไป
มาถึงประเด็นที่ผมต้องการขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ คือเขาจะมีการให้ลูกบ้านเซ็นยินยอมในหนังสือมอบอำนาจ เพื่อให้บริษัทดังกล่าวเป็นผู้ฟ้องร้องไปยังเจ้าของโครงการแต่เพียงผู้เดียว ผมมีข้อสงสัยนิดนึงว่าในหนังสือมอบอำนาจมิได้ระบุจุดประสงค์ว่าจะเอาไปฟ้องร้องใคร ผมแค่กังวลว่าบริษัทดังกล่าวจะบริสุทธิ์ใจ ที่จะเอาหนังสือมอบอำนาจที่ลูกบ้านยินยอมไปใช้ถูกกับวัตถุประสงค์หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาก็มีบุคคลซึ่งเป็นผู้แอบอ้างต่าง ๆ นา ๆ ทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจ
ยังไงผมขอแนบตัวอย่างแบบฟอร์มที่ทางบริษัทส่งมาให้เราเซ็นยินยอม บางหัวข้อก็ตีความยากเกินกว่าจะเข้าใจ ยังไงรบกวนผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำด้วยนะครับ
ขอขอบพระคุณล่วงหน้านะครับ
ขอความเห็นผู้รู้ด้านกฏหมายเรื่องหนังสือมอบอำนาจ
ผมกับพี่สาวได้เซ็นสัญญาซื้อขายคอนโด ซึ่งโครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จอีก 5 ปี นับจากวันที่เซ็นสัญญา ซึ่งตอนนั้นคือปี 2557 แต่ปรากฎว่าโครงการคอนโดไม่สามารถแล้วเสร็จ และผู้รับเหมาหนีงาน เจ้าของโครงการก็หนีหาย แม้กระทั่งบริษัทก็หายไป แต่ลูกบ้านที่ถือสัญญาก็รับรู้ว่าเจ้าของโครงการเป็นใคร พูดกันง่าย ๆ คือพวกเราโดนฉ้อโกง
เรื่องราวการแก้ปัญหาที่ทำให้เหล่าลูกบ้านว่าจะมีความหวังว่าจะได้เงินคือ ก็พอมีบ้าง แต่อยู่ดีดีก็เงียบหายไป มีคนนอกจะยื่นมือมาช่วยในการฟ้องร้องคดีความ แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า จน ณ วันนี้มีความหวังอีกครับ เดือนกุมภาพันธ์ 2562 (คดีฟ้องร้องดังกล่าวมีอายุความ 10 ปี) ทางลูกบ้านก็ต้องเร่งทำอะไรสักอย่างก่อนที่อายุความจะหมดลง ถึงตอนนี้พวกเราก็จะไม่ได้เงินคืนแม้แต่บาทเดียว แต่ละคนชำระเงินดาวน์ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 5 แสน ถึง 1 ล้านกว่าโดยที่ตอนนี้คอนโดก็ยังสร้างไม่เสร็จ ขับรถผ่านก็ยังเป็นตึกปูนเปลือยแบบนี้อยู่หลายปี คิดว่าคงหมดหนทางกันแล้ว
ขอกลับเข้าเหตุการณ์ปัจจุบันนะครับ คือมีบริษัทซึ่งอ้างว่าเขาจะเป็นตัวแทนในการดำเนินการฟ้องร้องคดีแพ่งกันอีกครั้ง โดยเรียกให้เหล่าลูกบ้านแจ้งชื่อ หมายเลขสัญญา และยอดเงินดาวน์ชำระไปแล้ว เพราะเขาให้เหตุผลว่า จะมีการเรียกเก็บเงินซึ่งเป็นค่าดำเนินการภายหลังการฟ้องร้องเสร็จสิ้น และเจ้าของโครงการคืนเงินให้กับลูกบ้าน ซึ่งคิดว่าอาจจะคืนได้ไม่เต็มจำนวน เพราะส่วนหนึ่งก็จะถูกหักให้กับบริษัทที่ดำเนินการฟ้องร้องไป
มาถึงประเด็นที่ผมต้องการขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ คือเขาจะมีการให้ลูกบ้านเซ็นยินยอมในหนังสือมอบอำนาจ เพื่อให้บริษัทดังกล่าวเป็นผู้ฟ้องร้องไปยังเจ้าของโครงการแต่เพียงผู้เดียว ผมมีข้อสงสัยนิดนึงว่าในหนังสือมอบอำนาจมิได้ระบุจุดประสงค์ว่าจะเอาไปฟ้องร้องใคร ผมแค่กังวลว่าบริษัทดังกล่าวจะบริสุทธิ์ใจ ที่จะเอาหนังสือมอบอำนาจที่ลูกบ้านยินยอมไปใช้ถูกกับวัตถุประสงค์หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาก็มีบุคคลซึ่งเป็นผู้แอบอ้างต่าง ๆ นา ๆ ทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจ
ยังไงผมขอแนบตัวอย่างแบบฟอร์มที่ทางบริษัทส่งมาให้เราเซ็นยินยอม บางหัวข้อก็ตีความยากเกินกว่าจะเข้าใจ ยังไงรบกวนผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำด้วยนะครับ
ขอขอบพระคุณล่วงหน้านะครับ