ยืมล็อคอินมานะครับ
สวัสดีครับ ตอนนี้ผมรู้สึกเครียดมาก ไม่มีทางออกเลย รบกวนทุกคนช่วยผมที
อายุ 23 ปีเพิ่งเรียนจบมาเมื่อปีที่แล้วครับ (วิศวะ) บ้านผมทำอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ผมเลยได้มีโอกาสทำงานช่วยแม่หลังเรียนจบ
ตั้งแต่ผมอยู่มหาลัย ผมช่วยแม่ทำงานตลอด ผมทำช่วยแม่เสมอ
จนกระทั่งผมเรียนจบ ผมก็มาทำงานช่วยที่บ้านอย่างเต็มที่ ผมทำทุกอย่างเพราะผมอยากให้แม่สบาย
แม่บอกว่า แม่จะให้เงินเดือนผมทุกๆเดือน เดือนละ 20000 บาท แม่บอกไม่ต้องไปไหนหรอก ให้มาทำงานกับแม่
ซึ่งมันทำให้ผมดีใจในระดับหนึ่งว่า ผมไม่ต้องไปสมัครงานเหมือนคนอื่นๆ เพราะบ้านผมมีงานให้ทำอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้ผมท้อคือ คำพูดของแม่ แม่ชอบด่าผมว่า ผมเป็นคนขี้เกียจ ทั้งๆที่ผมทำงานให้แม่ทุกวันตลอด 7 วัน ไม่มีหยุด
ตั้งแต่ 8 โมงถึง 2-3 ทุ่ม บางครั้ง ถึง 5 ทุ่มก็ทำมาแล้วครับ ตอนนั้นผมทำงานประมาณ 3 เดือน เงินเดือนไม่เคยตกถึงผมเลยครับ
แต่ผมก็ปลอบใจตัวเองว่า เอาวะ อย่างน้อยก็ได้อยู่บ้านฟรี มีข้าวกินฟรี แต่ผมไม่มีเงินเก็บเลยซักบาท ผมเคยคิดอย่างสร้างตัว
มีบ้านมีรถเป็นของตัวเอง แต่มันก็ทำได้แค่ฝัน ผมไม่มีเงินเดือนเลย แล้วผมจะสร้างตัวได้ยังไง
แม่ผมเป็นคนไม่ค่อยมีเหตุผล หรือถ้าแม่ทำผิด แม่ไม่เคยขอโทษผมเลยซักครั้ง
พอผมใช้เหตุผลในการอธิบายให้แม่ฟัง แม่ก็ด่า หาว่าเถียง
แม่ชอบบอกผมว่า ผมไม่น่าเกิดมาเป็นลูกแม่เลย ทุกครั้งที่ผมทำให้แม่ไม่พอใจ (เจ็บมากครับ)
แม่ผมไม่ค่อยชอบฟังเหตุผลของคนอื่น (ไม่ใช่แค่ผม) พูดง่ายๆก็มนุษย์ป้าดีๆนี่แหละครับ
ซึ่งมันทำให้ผมท้อกับคำพูดของแม่มาก มันบั่นทอนจิตใจผมทุกวัน
จากนั้น ผมพยายามสมัครเข้าทำงานหลายๆที่ เพื่อที่จะได้ออกไปทำงานที่อื่น ผมอยากมีเงิน อยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง
ผมไม่อยากทำงานกับแม่แล้ว บอกก่อนว่าผมเป็นเด็ก ตจว นะครับ
จนกระทั่งมีบริษัทหนึ่งในกรุงเทพ รับผมเข้าทำงาน ซึ่งผมก็อยากจะไปทำงานที่นั่น
แต่แม่ของผมบอกว่า ไม่อยากให้ผมไป อยากให้ทำงานช่วยแม่ แม่สัญญาว่าจะให้เงินเดือนผมทุกเดือนแล้วจริงๆ
ซึ่งมันเป็นการทำให้ผมมีความหวังขึ้นมาทันที
ซึ่งแม่ก็ให้จริงๆครับ 3 เดือนที่ผมทำ แม่ให้มา 10000 บาท แต่ไม่ทันไร แม่ก็บอกผมว่า
ขอเงินผมไปลงกับงาน (ใครทำรับเหมาจะทราบดีครับ ว่ามันต้องเอาเงินไปลงงานตลอด)
ซึ่งผมก็ให้แม่ทุกครั้ง มีเท่าไหร่ให้หมด มันเหมือนผมไม่ได้อะไรเลยครับ ผมมีเงินเท่าไหร่แม่เอาเงินไปลงงานหมด
มันก็ไม่ต่างจากผมทำงานฟรี จนตอนนี้ผมทำงานกับแม่มาครึ่งปี มีเงินเก็บ ไม่ถึง 5 พัน เรื่องเก็บเงินสร้างตัวลืมไปได้เลยครับ
เมื่อเดือนที่แล้ว มันทำให้ผมเครียดมากครับ ผมได้รับการผ่าตัด
จากนั้น หมอวินิจฉัยว่า ที่ผ่าออกไปนั้น พบเซลล์มะเร็ง ซึ่งเป็นระยะแรกครับ มีโอกาสหายได้ ถ้าได้ฉายแสง
ใช่ครับ ผมเป็นมะเร็ง ผมเครียดมากๆ ซึ่งแม่ก็รู้ว่าผมเป็นมะเร็ง แต่แม่ก็พูดบั่นทอนจิตใจผมเหมือนเดิมทุกวัน
หลังจากผมผ่าตัด ออกจาก รพ ได้ 3 วัน แม่ก็ให้ผมทำงานเลยครับ ผมขอพักฟื้นก่อนแม่ก็ไม่ยอม แม่ด่าผมว่าขี้เกียจ
ผมก็ต้องจำใจไปทำงาน ทั้งๆที่ แผลผมก็ยังไม่หายดี ตอนนั้นผมท้อมากจริงๆครับ แต่ก็ต้องยอม
คนในครอบครัวที่ผมจะเอาเป็นที่พึ่ง ผมพึ่งใครไม่ได้เลย พ่อกับแม่ผมเพิ่งแยกกันอยู่เมื่อปีก่อนครับ
ตอนนี้เหมือนผมไม่มีใคร ผมอยู่ตัวคนเดียว ผมไม่สามารถระบายกับใครได้เลย ผมไม่อยากเครียด
ผมอยากไม่อยากให้มันกระทบกับมะเร็ง
ผมจะต้องทำยังไง ผมไม่มีทางออก ผมไปไหนไม่ได้ ผมรักแม่มาก แต่ผมก็ท้อกับคำพูดแม่ทุกครั้ง
บางครั้งผมคิดว่าถ้าผมตายไปมันก็คงจะดี แต่ก็ได้แค่คิดแหละครับ
ผมคงจะบาปมาก ที่คิดว่าผมไปทำเวรกรรมอะไรไว้ ถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
ขอบคุณพื้นที่ที่ทำให้ผมได้ระบายนะครับ ผมไม่รู้จะไปพึ่งใครได้จริงๆ
ผมผิดมั้ย ที่คิดว่า บางครั้งเวรกรรมมันก็มาในรูปแบบของคนในครอบครัว ตอนนี้ผมท้อมากครับ
สวัสดีครับ ตอนนี้ผมรู้สึกเครียดมาก ไม่มีทางออกเลย รบกวนทุกคนช่วยผมที
อายุ 23 ปีเพิ่งเรียนจบมาเมื่อปีที่แล้วครับ (วิศวะ) บ้านผมทำอาชีพรับเหมาก่อสร้าง ผมเลยได้มีโอกาสทำงานช่วยแม่หลังเรียนจบ
ตั้งแต่ผมอยู่มหาลัย ผมช่วยแม่ทำงานตลอด ผมทำช่วยแม่เสมอ
จนกระทั่งผมเรียนจบ ผมก็มาทำงานช่วยที่บ้านอย่างเต็มที่ ผมทำทุกอย่างเพราะผมอยากให้แม่สบาย
แม่บอกว่า แม่จะให้เงินเดือนผมทุกๆเดือน เดือนละ 20000 บาท แม่บอกไม่ต้องไปไหนหรอก ให้มาทำงานกับแม่
ซึ่งมันทำให้ผมดีใจในระดับหนึ่งว่า ผมไม่ต้องไปสมัครงานเหมือนคนอื่นๆ เพราะบ้านผมมีงานให้ทำอยู่แล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้ผมท้อคือ คำพูดของแม่ แม่ชอบด่าผมว่า ผมเป็นคนขี้เกียจ ทั้งๆที่ผมทำงานให้แม่ทุกวันตลอด 7 วัน ไม่มีหยุด
ตั้งแต่ 8 โมงถึง 2-3 ทุ่ม บางครั้ง ถึง 5 ทุ่มก็ทำมาแล้วครับ ตอนนั้นผมทำงานประมาณ 3 เดือน เงินเดือนไม่เคยตกถึงผมเลยครับ
แต่ผมก็ปลอบใจตัวเองว่า เอาวะ อย่างน้อยก็ได้อยู่บ้านฟรี มีข้าวกินฟรี แต่ผมไม่มีเงินเก็บเลยซักบาท ผมเคยคิดอย่างสร้างตัว
มีบ้านมีรถเป็นของตัวเอง แต่มันก็ทำได้แค่ฝัน ผมไม่มีเงินเดือนเลย แล้วผมจะสร้างตัวได้ยังไง
แม่ผมเป็นคนไม่ค่อยมีเหตุผล หรือถ้าแม่ทำผิด แม่ไม่เคยขอโทษผมเลยซักครั้ง
พอผมใช้เหตุผลในการอธิบายให้แม่ฟัง แม่ก็ด่า หาว่าเถียง
แม่ชอบบอกผมว่า ผมไม่น่าเกิดมาเป็นลูกแม่เลย ทุกครั้งที่ผมทำให้แม่ไม่พอใจ (เจ็บมากครับ)
แม่ผมไม่ค่อยชอบฟังเหตุผลของคนอื่น (ไม่ใช่แค่ผม) พูดง่ายๆก็มนุษย์ป้าดีๆนี่แหละครับ
ซึ่งมันทำให้ผมท้อกับคำพูดของแม่มาก มันบั่นทอนจิตใจผมทุกวัน
จากนั้น ผมพยายามสมัครเข้าทำงานหลายๆที่ เพื่อที่จะได้ออกไปทำงานที่อื่น ผมอยากมีเงิน อยากมีชีวิตเป็นของตัวเอง
ผมไม่อยากทำงานกับแม่แล้ว บอกก่อนว่าผมเป็นเด็ก ตจว นะครับ
จนกระทั่งมีบริษัทหนึ่งในกรุงเทพ รับผมเข้าทำงาน ซึ่งผมก็อยากจะไปทำงานที่นั่น
แต่แม่ของผมบอกว่า ไม่อยากให้ผมไป อยากให้ทำงานช่วยแม่ แม่สัญญาว่าจะให้เงินเดือนผมทุกเดือนแล้วจริงๆ
ซึ่งมันเป็นการทำให้ผมมีความหวังขึ้นมาทันที
ซึ่งแม่ก็ให้จริงๆครับ 3 เดือนที่ผมทำ แม่ให้มา 10000 บาท แต่ไม่ทันไร แม่ก็บอกผมว่า
ขอเงินผมไปลงกับงาน (ใครทำรับเหมาจะทราบดีครับ ว่ามันต้องเอาเงินไปลงงานตลอด)
ซึ่งผมก็ให้แม่ทุกครั้ง มีเท่าไหร่ให้หมด มันเหมือนผมไม่ได้อะไรเลยครับ ผมมีเงินเท่าไหร่แม่เอาเงินไปลงงานหมด
มันก็ไม่ต่างจากผมทำงานฟรี จนตอนนี้ผมทำงานกับแม่มาครึ่งปี มีเงินเก็บ ไม่ถึง 5 พัน เรื่องเก็บเงินสร้างตัวลืมไปได้เลยครับ
เมื่อเดือนที่แล้ว มันทำให้ผมเครียดมากครับ ผมได้รับการผ่าตัด
จากนั้น หมอวินิจฉัยว่า ที่ผ่าออกไปนั้น พบเซลล์มะเร็ง ซึ่งเป็นระยะแรกครับ มีโอกาสหายได้ ถ้าได้ฉายแสง
ใช่ครับ ผมเป็นมะเร็ง ผมเครียดมากๆ ซึ่งแม่ก็รู้ว่าผมเป็นมะเร็ง แต่แม่ก็พูดบั่นทอนจิตใจผมเหมือนเดิมทุกวัน
หลังจากผมผ่าตัด ออกจาก รพ ได้ 3 วัน แม่ก็ให้ผมทำงานเลยครับ ผมขอพักฟื้นก่อนแม่ก็ไม่ยอม แม่ด่าผมว่าขี้เกียจ
ผมก็ต้องจำใจไปทำงาน ทั้งๆที่ แผลผมก็ยังไม่หายดี ตอนนั้นผมท้อมากจริงๆครับ แต่ก็ต้องยอม
คนในครอบครัวที่ผมจะเอาเป็นที่พึ่ง ผมพึ่งใครไม่ได้เลย พ่อกับแม่ผมเพิ่งแยกกันอยู่เมื่อปีก่อนครับ
ตอนนี้เหมือนผมไม่มีใคร ผมอยู่ตัวคนเดียว ผมไม่สามารถระบายกับใครได้เลย ผมไม่อยากเครียด
ผมอยากไม่อยากให้มันกระทบกับมะเร็ง
ผมจะต้องทำยังไง ผมไม่มีทางออก ผมไปไหนไม่ได้ ผมรักแม่มาก แต่ผมก็ท้อกับคำพูดแม่ทุกครั้ง
บางครั้งผมคิดว่าถ้าผมตายไปมันก็คงจะดี แต่ก็ได้แค่คิดแหละครับ
ผมคงจะบาปมาก ที่คิดว่าผมไปทำเวรกรรมอะไรไว้ ถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
ขอบคุณพื้นที่ที่ทำให้ผมได้ระบายนะครับ ผมไม่รู้จะไปพึ่งใครได้จริงๆ