TWO TOP สองอันตราย - [บทประจิมปะทะบูรพา] - ตอนที่ 37 : กลับ

ตอนที่แล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แนะนำตัวละคร




====================================================================================

ตอนที่ 37 : กลับ


    หนุ่มผมทองก้าวเดินผ่านประตูหน้าเข้าไปในโรงเรียน

    แน่นอนว่าหนุ่มผมทองผู้นี้คือ ยูยะ แต่ทว่าโรงเรียนที่เขาก้าวเข้าไปนั้นไม่ใช่โรงเรียนประจิมสวัสดิ์

    หากเป็นโรงเรียนเทคนิคจักรวรรดิบูรพา

    หลังจากยูยะได้ต่อสู้กับปรีและพรรคพวกที่โรงเรียนประจิมสวัสดิ์ วันรุ่งขึ้นเขาก็เดินทางมาที่โรงเรียนเทคนิคจักรวรรดิบูรพาต่ออย่างไม่เป็นปัญหา คล้ายกับว่าอาการบาดเจ็บจากการต่อสู้ที่ผ่านมาไม่มีอะไรเลย

    การต่อสู้ที่ดุเดือดกับปรีและสี่ขุนพลแห่งประจิมสวัสดิ์ไม่มีผลกับเขาเชียวหรือ..

    ยูยะก้าวเข้าไปโรงเรียนโดยที่สวมเสื้อช็อปหนึ่งแถบที่เป็นเครื่องหมายแสดงความเป็นหนึ่งในห้าผู้คุมกฎของจักรวรรดิบูรพาด้วย ทำให้เหล่านักเรียนเทคนิคเมื่อเห็นยูยะต่างรู้สึกยำเกรง หลายคนเบนหน้าหนี ไม่กล้าสบตาด้วย แต่ทว่าหนุ่มผมทองกลับไม่ได้แสดงสีหน้าหรือทำท่าทางข่มขู่ใช้อำนาจเลย เขาเพียงยิ้มอย่างยียวนทักทายนักเรียนที่พบเจอเหล่านั้นตามแบบฉบับของตน

    ยูยะเดินต่อไปเรื่อย ๆ ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแต่ก็แฝงความแน่วแน่ คล้ายกับมุ่งมั่นที่จะทำการอย่างหนึ่งอย่างใด แต่ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นเรื่องอันใด

    จนมาพบเจอชายไว้ผมทรงเดรดล็อคผู้หนึ่งที่ยืนพิงกำแพงด้านหน้าตึกคล้ายรอใครบางคน

    “นี่นายยังมาที่นี่อีกเหรอ?” เจ้าของทรงผมเดรดล็อคพูดกับยูยะ

    “อ้าว...ชา” ยูยะพูดพอเห็นหน้าคนผู้นี้

    คนผู้นี้คือ ซ่อนดาบในรอยยิ้ม ชา อดีตผู้คุมกฎที่โดนยูยะแย่งตำแหน่งนั่นเอง

    “ยูยะ..นายกลับมาที่นี่ทำไม?” ชาพูดต่อ

    “ทำไมฉันจะกลับมาไม่ได้ล่ะ ..ฉันเรียนอยู่จักรวรรดิบูรพานี่”

    “แต่นายต่อสู้กับจักรพรรดิประจิมฯแล้วแพ้มาอย่างนี้ ราชันบูรพาจะยังปล่อยให้นายอยู่ต่อไปหรือ?”

    ดูเหมือนว่าชาก็รู้เรื่องที่ยูยะบุกไปต่อสู้กับฝ่ายประจิมสวัสดิ์และพ่ายแพ้มา

    “เหรอ..” ยูยะทำหน้ายียวน “หรือว่านายจะมาจัดการฉันตามคำสั่งของราชันบูรพา”

    “ไม่ใช่หรอก” ซ่อนดาบในรอยยิ้ม ชาส่ายหน้า

    “หรือนายจะมาต่อสู้กับฉันอีกครั้ง เพื่อชิงตำแหน่งคืน”

    “ไม่ใช่”

    “แล้วที่มาขวางฉัน ต้องการอะไร?”

    ซ่อนดาบในรอยยิ้ม ชานิ่งมองหน้ายูยะ ซึ่งตอนนี้รอยยิ้มที่เคยมีอยู่จนเป็นเอกลักษณ์ไม่มีแล้ว เขาพูดขึ้นมาว่า

    “ฉันมาเตือนนาย... ราชันบูรพาไม่ใช่คนที่ให้โอกาสใครง่าย ๆ นายแพ้มาเขาย่อมไม่เอาไว้แน่”

    “งั้นเหรอ..” ยูยะยิ้มยียวน “ขอบใจที่เตือน แต่ยังไงฉันก็ต้องไปประชุม ฉันท๊อปสปีด ยูยะ หนึ่งในห้าผู้คุมกฎของจักรวรรดิบูรพา จะไม่เข้าร่วมประชุมได้ไง”

    “ตามใจนาย เพราะต่อให้ฉันจะขวางนาย ฉันก็สู้นายไม่ได้อยู่แล้ว”

    แล้วซ่อนดาบในรอยยิ้ม ชาก็เดินออกจากตรงนี้ไป

    ยูยะมองดูหนุ่มเดรดล็อคผู้เดินจากไป คล้ายนิ่งคิดบางอย่างด้วย แต่สักพักเขาก็ก้าวเดินต่อไป

        หนุ่มผมทองเดินไปเรื่อย ๆ จนมาถึงอาคารอเนกประสงค์แห่งหนึ่งที่อยู่ด้านหลังโรงเรียน ซึ่งอาคารนี้ แท้จริงแล้วคล้ายเป็นสำนักงานของฝ่ายจักรวรรดิบูรพาที่ภายในมีห้องที่ใช้ประชุมกันอยู่ประจำ

        เมื่อเป็นสถานที่สำคัญ ย่อมมีการดูแลเป็นพิเศษ ด้านหน้าจึงมีเหล่านักเรียนเทคนิคเฝ้าอยู่เกือบสิบคน แต่ละคนรูปร่างและลักษณะดุร้ายทั้งสิ้น

        แต่ว่าทันทีที่ยูยะเดินเข้ามา ทั้งหมดต่างหยุดพูดคุยกัน หันมองทางหนุ่มผมทองเป็นตาเดียว

        พอพวกเขามอง ยูยะกลับมิได้เกรงกลัวอันใด จ้องกลับแถมฉีกยิ้มอย่างยียวนตอบไปด้วย

        แล้วทั้งหมดก็พร้อมใจกันก้มโค้งลง พูดขึ้นว่า

        “สวัสดีครับพี่ยูยะ”

        “หวัดดี..” ยูยะยิ้มรับ

        จากนั้นสองในทั้งหมดก็เปิดประตู ให้ยูยะเดินเข้าไปข้างใน

        เมื่อเข้าไปภายในก็จะพบนักเรียนนักเลงของจักรวรรดิบูรพาอีกห้าคน และทันทีที่ยูยะก้าวเข้าไป ทั้งห้าต่างเอ่ยทักทาย แล้วหนึ่งในห้าก็พูดขึ้นว่า

        “พี่ยูยะ..เหลือแต่พี่คนเดียวแล้ว ทุกคนมาหมดแล้วครับ”

        “เหรอ... มาเร็วกันจัง” ยูยะพูดด้วยแย้มยิ้ม “เอาเถอะ มาคนสุดท้ายก็ยังดีกว่าไม่มา”

        แล้วยูยะก็เปิดประตูเข้าไปข้างในห้องประชุมที่อยู่ตรงหน้า

        ทันทีที่เข้าไปยูยะก็พบเห็นว่าเหล่าผู้คุมกฎ สองฑูตซ้ายขวาและราชันบูรพาต่างอยู่ภายในห้องประชุมแล้ว

        “ขอโทษที่มาช้า” ยูยะพูดขึ้นมา

         ราชันบูรพา บอสมองเขา พูดตอบว่า “ไม่เป็นไร นั่งที่เถอะ”

         “อืม..” ยูยะพยักหน้ารับ แล้วเดินไปนั่งลงที่เก้าอี้ตำแหน่งซ้ายสุด

         ซึ่งในวันนี้ทุกคนมาร่วมประชุมกันหมด โดยเบื้องขวาถัดจากยูยะเป็น โจ ชายหนุ่มผู้ถือขลุ่ยอยู่ในมือตลอดเวลา ถัดมาเป็นตำแหน่งที่นั่งของ เค ผู้มีฉายาว่า หมาป่าเดียวดาย ต่อจากนั้นเป็น หมวย ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่ม และสุดท้ายเป็นเจ้าของทรงผมสกินเฮด โอ นั่งอยู่

         แน่นอนว่าทั้งห้าคนสวมใส่เสื้อช็อปที่มีแถบคาดหนึ่งแถบที่แขนซ้าย

         ซึ่งเบื้องหน้าของทั้งห้าจะเป็นที่นั่งของราชันบูรพา และสองทูตซ้ายขวา บอสผู้มีตำแหน่งราชันจะนั่งอยู่ตรงกลาง โดยเบื้องขวาของเขาเป็นหนุ่มสวมแว่นหน้าตาหล่อเหลา กุนซือหน้าหยก จิว และเบื้องซ้ายเป็นนิรนาม ผู้สวมหน้ากากยิ้มตลอดเวลา

         พอยูยะนั่งลง บอสผู้สวมใส่เสื้อช็อปที่มีแถบคาดที่แขนซ้ายสามแถบก็พูดขึ้นว่า

         “เอาล่ะ เราเริ่มประชุมกันเลย”

         สิ้นเสียงบอส บรรยากาศในห้องก็พลันตึงเครียดขึ้นมาทันใด เพราะทุกคนเงียบเสียงหยุดกระทำทุกสิ่งหมด

         แล้วสักพักก็ผู้หนึ่งพูดขึ้นมา เป็นกุนซือหน้าหยก จิว เขาพูดขึ้นว่า

         “ทุกคนคงทราบเรื่องที่ยูยะไปบุกโรงเรียนประจิมสวัสดิ์ อย่างที่รู้ผลการต่อสู้ออกมา... คือ พ่ายแพ้”

         พอทุกคนได้ยินเรื่องนี้ต่างเหลือบมองยูยะวูบหนึ่ง แต่ก็ไม่มีใครหันจ้องมองตรง ๆ

         จิวพูดขึ้นต่อ “แต่เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะเรารู้ว่าทางฝ่ายประจิมฯมีกำลังกล้าแข็ง ฝีมือของสี่ขุนพลและจักรพรรดิไม่ใช่ธรรมดา ซ้ำยังฉลาดหลักแหลม ยากที่จะเอาชนะด้วยกำลังที่บุกไปแค่นั้นได้”

         แม้จิวจะพูดออกมาในเชิงอย่างนี้ ยูยะก็ยังฟังด้วยสีหน้าแน่วนิ่ง ไม่ไหวติง แต่ดูเหมือนเขาก็ไม่ได้วางใจเท่าไหร่ เพราะในใจเชื่อว่าผลไม่น่าจะออกอย่างไม่มีอะไร

    “...ทว่า” จิวเอ่ยต่อ “..ถ้าการพ่ายแพ้เหล่านั้นมาจากผลการต่อสู้จริงก็คงไม่เป็นไร ..แต่ความจริงแล้วมันกลับไม่ใช่น่ะสิ!”

    ยูยะสีหน้าแปรเปลี่ยนทันทีที่ได้ยิน แต่ก็ยังนั่งนิ่ง ไม่ได้ลุกขึ้นมาทำอะไร

    จิวหันจ้องหน้าหนุ่มผมทอง พูดเสียงดังว่า

    “ยูยะ นายขอยอมแพ้เอง!!”

    แม้เสียงของจิวจะดัง แต่ทว่ายูยะหาได้เกรงกลัวแม้แต่น้อย เขาจ้องหน้ากลับ แถมยิ้มอย่างยียวนใส่ พร้อมพูดขึ้นว่า

    “เหรอ... ทำไมถึงคิดอย่างนั้น”

    “นายคงคาดไม่ถึง” จู่ ๆ บอสก็พูดสวนขึ้นมา จิวจึงเงียบเสียง ปล่อยให้หัวหน้าตัวเองพูดแทน “..ว่าสิ่งที่นายทำที่โรงเรียนประจิมสวัสดิ์ตอนนั้น พวกเราจะรู้..”

         “หือ?” สีหน้าของยูยะแปรเปลี่ยนอีกทันที

         บอสยิ้มอย่างเฉียบลึก พูดต่อว่า “นายกำลังคิดว่าเป็นพวกลูกน้องนายสินะ มันไม่ใช่หรอก พวกมันไม่มีใครพูดอะไร แต่ถึงอย่างงั้น ฉันก็ยังรู้เรื่องทั้งหมด”

         ยูยะนิ่งฟัง คล้ายในใจครุ่นคิดว่าทำไมถึงเป็นอย่างนั้น

         “ยูยะ นายต้องการอะไร พูดความจริงมาดีกว่า”

         แต่ทันทีที่สิ้นเสียงของบอส ยูยะกลับพุ่งตัวด้วยความเร็วสูงเข้าหาบอสหมายโจมตีเข้าใส่

         ทว่าแข้งขาที่ยูยะเตะออกกลับชะงักงันหยุดลง เพราะว่ามีบุคคลสองคนออกตัวมาขวางก่อนที่ยูยะจะเข้าถึงตัวบอส

         แน่นอนว่าเป็นสองทูตซ้ายขวาที่ขวางหน้ายูยะไว้

         กุนซือหน้าหยก จิวตั้งท่าเตรียมพร้อมรับมือยูยะ เช่นเดียวกับนิรนามที่ควักมีดพกขึ้นมาพร้อมต่อสู้กับยูยะด้วย

         “ว่าแล้วต้องเป็นแบบนี้” ยูยะพูดขึ้นต่อ “คงต้องสู้กับพวกนายทุกคน”

         “ไม่ต้องทำแบบนั้นหรอก” บอสที่อยู่เบื้องหลังนิรนามและจิวพูดขึ้น เขาลุกขึ้นยืน พูดต่อว่า “ดูท่าที่นายมาอยู่ฝ่ายฉัน คงต้องการหาทางล้มฉันสินะ”
ยูยะนิ่ง เพียงพยักหน้าเล็กน้อย

         “ก็ได้ ฉันจะสู้กับนายตามที่ต้องการเอง ..ตัวต่อตัว” บอสพูดต่ออย่างมาดมั่น

         “เหรอ... งั้นก็ดี จะได้ไม่ต้องเสียเวลาวางแผน”

         “หึ” บอสยิ้ม พลางขยับเสื้อช็อปสามแถมที่เอาคลุมไหล่อยู่ให้ดี แต่ก็ยังไม่ได้สวมใส่แขนเสื้อ


(มีต่อครับ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่