ขอแชร์ประสบการณ์เงินหายจากบัญชีธนาคารสีฟ้าไว้เป็นอุทาหรณ์ให้ตัวเราเอง ผู้ที่อาจจะมีประสบการณ์เดียวกัน หรือผู้มีความเสี่ยง
ปล.ขออภัยหากมีการใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม แต่ก็นั่นแหละ ไม่เจอกับตัว ก็ไม่เข้าใจหรอก
ปล.2 อย่าซ้ำเติมกันนะคะ แค่นี้ก็เจ็บพอแล้ว
ปล.3 หากมีคำผิดขออภัยด้วยนะคะ
[เหตุการณ์] (ตอนแรกยังไม่รู้สาเหตุการเกิดที่แท้จริง)
เหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อเราจะโอนเงินให้พี่ชาย ซึ่งเราก็เข้าแอพธนาคารตามปกติ
แต่มันขึ้นแจ้งเตือนว่า ‘บัญชีของคุณได้ล็อกอินในเครื่องอื่น’ เราก็ไม่ได้อะไร
ล็อกอินเข้าตามปกติ แต่พอเข้าระบบได้ พบว่าเงินในบัญชีเราหายไป 85,000 บาท!!!
เราก็ตรวจสอบดูว่าเงินมันไปไหน ซึ่งมันแจ้งมาว่าโอนไปยังต่างธนาคารซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ที่เราไม่รู้จัก
เราจึงโทรหาธนาคารสีฟ้า (ซึ่งกว่าจะได้คุยกับเจ้าหน้าที่ก็นานมากกกก) พอได้คุยกับเจ้าหน้าที่
เล่าเรื่องราวให้ฟัง ว่าเงินถูกโอนผ่านทางแอพธนาคาร เราก็ยืนยันไปว่าเราไม่ได้เป็นผู้ทำรายการนั้น
ทางพนักงานจึงให้ข้อมูลของบัญชีปลายทาง พร้อมทั้งให้เราไปแจ้งความกับทางตำรวจ
(คาดการณ์กันว่าน่าจะโดนแฮกข้อมูล บอกก่อนบัญชีของเราเป็นบัญชีจังหวัดอุตรดิตถ์ แต่เราทำงานแถบปริมณฑล
ทางธนาคารแจ้งว่าสามารถแจ้งสถานีตำรวจที่ไหนก็ได้)
เราจึงไปแจ้งความสถานีตำรวจใกล้ ๆ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แถว ๆ รังสิต
ซึ่งทางตำรวจกลับบอกมาว่าต้องกลับไปแจ้งความที่บัญชีต้นทาง เนื่องจากว่ามีตัวคนร้าย
ซึ่งหากจะมีการจับกุมและต้องให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนเป็นผู้ดำเนินการ ซี่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นี่
ไม่มีอำนาจจะดำเนินเรื่องได้ เราถกเกียงกับทางตำรวจอยู่พักใหญ่ก็ถอดใจ
เดินไปธนาคารสีฟ้าในห้างไปปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าหากจะทำการอายัดบัญชีปลายทาง
ต้องมีเอกสารที่มีตราครุฑจากทางตำรวจ(เราไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไร)มาก่อนถึงจะดำเนินการต่อได้
เราจึงไปสถานีตำรวจแห่งที่ 2 ที่อยู่แถบมหาลัยของรัฐชื่อดังแถวรังสิต
(ขณะเดียวกันก็ให้ที่บ้านไปติดต่อกับทางสถานีตำรวจในพื้นที่ที่บัญชีอยู่ ซึ่งทางตำรวจ
ก็แจ้งว่าสามารถแจ้งความได้ทุกที่ แล้วให้ทางตำรวจที่รับเรื่องโอนเรื่องมาให้ได้)
พอมาถึง เราก็ได้ไปคุยกับทางร้อยเวร ซึ่งร้อยเวรได้รับเรื่องให้เรา แล้วเขาก็ออกใบบันทึกประจำวัน(มีครุฑอยู่ที่หัวกระดาษ)
ให้เราไปเอา statementของเรากับทางธนาคาร เราก็กลับไปเอา Statement และให้ใบบันทึกประจำวันให้ทางธนาคารดู
เรากลับไปธนาคารสีฟ้าอีกครั้ง ธนาคารแจ้งว่าให้ได้แค่ Statementของ เรา แต่ไม่สามารถดำเนินการกับบัญชีปลายทางได้
แถมมีการถามกลับด้วยนะว่าทางตำรวจจะดำเนินเรื่องให้จริง ๆ หรอ เรานี่ขึ้นเลยค่ะ แต่ก็ทำได้แค่พูดว่า ‘ค่ะ’ แล้วก็เดินจากธนาคาร
จากนั้นเราก็โทรกลับไปหาร้อยเวร เขาก็ให้เราเอาไปให้วันถัดไป ตอน16.00 น.
วันถัดมา ตอนเย็นเลิกงานก็เอาStatement ไปให้ร้อยเวร พอเขาดูเสร็จ
เขาก็บอกเราว่า “เขาไม่มีอำนาจในการดำเนินเรื่องให้ เรื่องนี้ต้องให้ทางธนาคารเป็นผู้ตรวจสอบซิ
เพราะนี่มันเป็นคดีแพ่งนะ ถ้าเป็นคดีอาญาว่าคุณโดนหลอกให้โอนเงินไป แล้วเงินมันหายไปจากตู้แถวนี้
ผมถึงจะมีอำนาจในการสืบสวนได้ ซึ่งในกรณีนี้ไม่สามารถดำเนินเรื่องให้ได้จริง ๆ” แล้วก็ให้เราไปติดต่อกับทางธนาคารเอง
ซึ่งเราก็ปรึกษากับพนักงานธนาคาร ทางธนาคารก็ยืนยันว่าจะต้องเอาใบครุฑที่ไม่ใช่ใบบันทึกประจำวัน
ซึ่งเป็นใบที่มีเลขอะไรซักอย่างทางตำรวจทราบอยู่แล้ว เราก็คิดละว่า อ่อ ตำรวจไม่ทำให้เรานี่เอง
พี่ที่ไปกับเราจึงพาไปสถานีตำรวจแห่งที่ 3 ที่อยู่แถวสนามบิน เราก็เล่าให้ทางตำรวจฟัง
เขาก็แนะนำให้กลับไปสถานีแห่งที่ 2 อีกครั้ง ในวันจันทร์ แล้วให้ไปหาหัวหน้าร้อยเวรคนนั้น
เพื่อสั่งให้ร้อยเวรคนนั้นออกใบครุฑให้
พอออกจากสถานีตำรวจมาเราก็ตัดสินใจโทรหาร้อยเวรคนนั้นอีกครั้ง
เขาก็ยังยืนยันว่าเขาไม่สามารถออกใบครุฑให้ได้ เนื่องจากเขาไม่มีอำนาจในสืบสวนสอบสวน
เรากับพี่จึงตัดสินใจไปสถานีตำรวจแห่งที่ 4 แถบต่างจังหวัดที่ติดปริมณฑล
ทางตำรวจแจ้งว่าต้องกลับไปแจ้งสถานีตำรวจที่บัญชีเราอยู่ เนื่องจากตำรวจมีการแบ่งเขตพื้นที่
ซึ่งถ้ามีการจับคนร้ายผู้ที่มีอำนาจจริง ๆ ก็ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ในพื้นที่บัญชีต้นทาง
แต่หากไม่สามารถไปแจ้งความด้วยตัวเองได้จริง ๆ ก็ให้มอบอำนาจให้ที่บ้านก็ได้
หลังจากออกจากสถานีตำรวจ พี่อยากรู้ว่าทางธนาคารจะช่วยเหลืออะไรเราอีกไหม
จึงให้เราโทรไปธนาคารอีกครั้ง ซึ่งคุยไปคุยมา เจ้าหน้าที่ก็ได้ถามว่าเราได้ยืนยันอีเมลพวก User กับ Password ไหม
มันเลยทำให้เราฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเราเคยทำไปนี่นา ซึ่งทางธนาคารก็แจ้งมาว่าทางธนาคารไม่มีอีเมลแบบนี้
และได้ขอให้เราส่งเมลที่เราได้รับให้ แต่พอดีไปหามันกลับหายไปแล้ว
จึงไม่สามารถส่งให้ได้ ธนาคารจึงแจ้งว่าจะยื่นดำเนินการให้ หากทราบเรื่องจะติดต่อกลับ
และให้ไปแจ้งความลงบันทึกประวันกับทางตำรวจ
วันจันทร์ของสัปดาห์ต่อมา
เราก็โทรกลับไปหาธนาคาร ทางธนาคารแจ้งว่าเนื่องจากเราไม่มีเมลที่เราเข้าไปยืนยันให้ จึงไม่สามารถดำเนินเรื่องได้
แต่แนะนำให้โทรไปหาสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เราก็โวยวายกับทางเจ้าหน้าที่ไปว่า
สรุปคือก็ต้องตามเรื่องเองซินะ ทางธนาคารจะไม่ช่วยอะไรมากกว่าแนะนำบ้างเลยหรอ บลา ๆ
(ก็สงสารพนักงานนะ แต่ตอนนั้นโมโหจริง ๆ )
จากนั้นเราก็โทรไปหา ปปง. เขาก็แจ้งว่าเราก็ต้องกลับไปแจ้งความสถานีตำรวจในพื้นที่บัญชีของเราจริง ๆ
โทรไปธนาคารแห่งไทย เขาก็ให้ข้อมูลเหมือนกัน
เราจึงตัดสินใจกลับบ้าน ไปแจ้งความด้วยตัวเอง ซึ่งทางตำรวจพื้นที่ก็ยังบอกอีกนะ มันแจ้งได้ทุกที่
เราก็เลยบอกไปแล้ว ไปที่ไหนเขาก็ให้กลับมาที่นี่ค่ะ ถ้าที่นี่ไม่รับแจ้งและดำเนินเรื่องให้ก็ไม่รู้จะไปที่ไหนแล้ว
ซึ่งตำรวจก็รับเรื่องพร้อมออกเอกสารอายัดบัญชีปลายทางและเรียกตัวพยานให้แล้ว
ตอนนี้อยู่ในระหว่างการรอธนาคารปลายทางส่งข้อมูลให้ทางตำรวจ คิดว่าวันจันทร์หน้าก็ต้องตามเรื่องต่อไป
[เมลที่เราได้ให้ยืนยันพวก User กับ Password]
มันก็หน้าเหมือนมาจากธนาคารสีฟ้านี่แหละ แล้วมันก็จะมีลิงค์ให้กด พอกดเข้าไปหน้าตาเว็บไซต์ก็เหมือนของธนาคารสีฟ้าหน้าตาปกติเลย
เราจึงกรอกข้อมูลเข้าระบบ พอซักพักมันก็ขึ้นช่องให้ใส่เลข OTP แล้ว SMSของธนาคารก็ส่งเลข OTPมาให้(ของธนาคารสีฟ้าเอง)
เรากรอกข้อมูลไป มันก็เข้าไม่ได้ซักที พอซักพักก็มีsms ว่ามีการล็อกอินเข้าสู่ระบบ เราก็คิดว่าเป็นใน browser ที่เรากรอกไป
ก็เลยไม่ได้เอะใจอะไร จนมารู้ตัวอีกทีก็เงินไปแล้ว ตามเหตุการณ์ข้างบนเลย (ที่ไม่รู้ว่าเงินหายไปเพราะไม่ได้สมัคร SMS แจ้งเตือน)
[ขอระบาย]
ก็เข้าใจนะว่ามันเป็นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเราเอง แต่เราอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือมากกว่านี้
เราก็ประชาชนทั่วไปไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายมากนัก ไปหาตำรวจก็โยนกันไปเรื่อย ๆ
ก็เข้าใจแหละว่าไม่ได้มีแค่เราคนเดียวที่เดือดร้อน เขาก็ต้องรับเรื่องจากคนอื่นที่เดือดร้อนเหมือนกัน
(แต่ถ้ากฎหมายบ้านเราดีจริง คดีก็อาจจะไม่เยอะขนาดนี้ก็ได้)
ธนาคารปลายทางก็รักษาข้อมูลของลูกค้าดีเกิน แค่อยากรู้ว่าเงินที่โอนไปยังอยู่ไหม จะให้ข้อมูลหน่อยก็ไม่ได้
ส่วนธนาคารสีฟ้าเราก็แสดงความรับผิดชอบ(บ้าง) โดยการ
1. ผ่านไป 2 วันโทรถามว่า “คุณลูกค้าแจ้งความแล้วหรือยังคะ
หากจะใช้แอพอยู่แนะนำให้เปลี่ยน User กับ Password นะคะ
เนื่องจากทางคนร้ายทราบข้อมูลของคุณลูกค้าแล้ว" เราก็ตอบได้แค่ว่า ไม่ค่ะ
(อยากจะบอกไปอีกว่า เงินที่มีมันก็ไปหมดแล้วไงคะ จะให้เอาที่ไหนมาเก็บอีก)
2. มีการอัพเดทแอพโดยมีรายละเอียดว่า สมัครบริการXxxxxxxxx Xxxxxxx แจ้งเตือนเงินเข้าเงินออกผ่าน Line ฟรี!
(ไม่รู้อันนี้เกี่ยวไหม แต่มันเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์เรา)
ถ้าใครอ่านตั้งแต่ต้นจนถึงตรงนี้ก็ขอบคุณมากนะคะ ที่อุตส่าห์อ่านจนจบ หากจะติอะไรเราติได้ค่ะ แต่รบกวนใช้คำที่สุภาพหน่อยนะคะ
[แชร์ประสบการณ์] เงินในบัญชีหาย!!!
ปล.ขออภัยหากมีการใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม แต่ก็นั่นแหละ ไม่เจอกับตัว ก็ไม่เข้าใจหรอก
ปล.2 อย่าซ้ำเติมกันนะคะ แค่นี้ก็เจ็บพอแล้ว
ปล.3 หากมีคำผิดขออภัยด้วยนะคะ
[เหตุการณ์] (ตอนแรกยังไม่รู้สาเหตุการเกิดที่แท้จริง)
เหตุการณ์เกิดขึ้น เมื่อเราจะโอนเงินให้พี่ชาย ซึ่งเราก็เข้าแอพธนาคารตามปกติ
แต่มันขึ้นแจ้งเตือนว่า ‘บัญชีของคุณได้ล็อกอินในเครื่องอื่น’ เราก็ไม่ได้อะไร
ล็อกอินเข้าตามปกติ แต่พอเข้าระบบได้ พบว่าเงินในบัญชีเราหายไป 85,000 บาท!!!
เราก็ตรวจสอบดูว่าเงินมันไปไหน ซึ่งมันแจ้งมาว่าโอนไปยังต่างธนาคารซึ่งเป็นใครก็ไม่รู้ที่เราไม่รู้จัก
เราจึงโทรหาธนาคารสีฟ้า (ซึ่งกว่าจะได้คุยกับเจ้าหน้าที่ก็นานมากกกก) พอได้คุยกับเจ้าหน้าที่
เล่าเรื่องราวให้ฟัง ว่าเงินถูกโอนผ่านทางแอพธนาคาร เราก็ยืนยันไปว่าเราไม่ได้เป็นผู้ทำรายการนั้น
ทางพนักงานจึงให้ข้อมูลของบัญชีปลายทาง พร้อมทั้งให้เราไปแจ้งความกับทางตำรวจ
(คาดการณ์กันว่าน่าจะโดนแฮกข้อมูล บอกก่อนบัญชีของเราเป็นบัญชีจังหวัดอุตรดิตถ์ แต่เราทำงานแถบปริมณฑล
ทางธนาคารแจ้งว่าสามารถแจ้งสถานีตำรวจที่ไหนก็ได้)
เราจึงไปแจ้งความสถานีตำรวจใกล้ ๆ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แถว ๆ รังสิต
ซึ่งทางตำรวจกลับบอกมาว่าต้องกลับไปแจ้งความที่บัญชีต้นทาง เนื่องจากว่ามีตัวคนร้าย
ซึ่งหากจะมีการจับกุมและต้องให้เจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนเป็นผู้ดำเนินการ ซี่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นี่
ไม่มีอำนาจจะดำเนินเรื่องได้ เราถกเกียงกับทางตำรวจอยู่พักใหญ่ก็ถอดใจ
เดินไปธนาคารสีฟ้าในห้างไปปรึกษากับทางเจ้าหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าหากจะทำการอายัดบัญชีปลายทาง
ต้องมีเอกสารที่มีตราครุฑจากทางตำรวจ(เราไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไร)มาก่อนถึงจะดำเนินการต่อได้
เราจึงไปสถานีตำรวจแห่งที่ 2 ที่อยู่แถบมหาลัยของรัฐชื่อดังแถวรังสิต
(ขณะเดียวกันก็ให้ที่บ้านไปติดต่อกับทางสถานีตำรวจในพื้นที่ที่บัญชีอยู่ ซึ่งทางตำรวจ
ก็แจ้งว่าสามารถแจ้งความได้ทุกที่ แล้วให้ทางตำรวจที่รับเรื่องโอนเรื่องมาให้ได้)
พอมาถึง เราก็ได้ไปคุยกับทางร้อยเวร ซึ่งร้อยเวรได้รับเรื่องให้เรา แล้วเขาก็ออกใบบันทึกประจำวัน(มีครุฑอยู่ที่หัวกระดาษ)
ให้เราไปเอา statementของเรากับทางธนาคาร เราก็กลับไปเอา Statement และให้ใบบันทึกประจำวันให้ทางธนาคารดู
เรากลับไปธนาคารสีฟ้าอีกครั้ง ธนาคารแจ้งว่าให้ได้แค่ Statementของ เรา แต่ไม่สามารถดำเนินการกับบัญชีปลายทางได้
แถมมีการถามกลับด้วยนะว่าทางตำรวจจะดำเนินเรื่องให้จริง ๆ หรอ เรานี่ขึ้นเลยค่ะ แต่ก็ทำได้แค่พูดว่า ‘ค่ะ’ แล้วก็เดินจากธนาคาร
จากนั้นเราก็โทรกลับไปหาร้อยเวร เขาก็ให้เราเอาไปให้วันถัดไป ตอน16.00 น.
วันถัดมา ตอนเย็นเลิกงานก็เอาStatement ไปให้ร้อยเวร พอเขาดูเสร็จ
เขาก็บอกเราว่า “เขาไม่มีอำนาจในการดำเนินเรื่องให้ เรื่องนี้ต้องให้ทางธนาคารเป็นผู้ตรวจสอบซิ
เพราะนี่มันเป็นคดีแพ่งนะ ถ้าเป็นคดีอาญาว่าคุณโดนหลอกให้โอนเงินไป แล้วเงินมันหายไปจากตู้แถวนี้
ผมถึงจะมีอำนาจในการสืบสวนได้ ซึ่งในกรณีนี้ไม่สามารถดำเนินเรื่องให้ได้จริง ๆ” แล้วก็ให้เราไปติดต่อกับทางธนาคารเอง
ซึ่งเราก็ปรึกษากับพนักงานธนาคาร ทางธนาคารก็ยืนยันว่าจะต้องเอาใบครุฑที่ไม่ใช่ใบบันทึกประจำวัน
ซึ่งเป็นใบที่มีเลขอะไรซักอย่างทางตำรวจทราบอยู่แล้ว เราก็คิดละว่า อ่อ ตำรวจไม่ทำให้เรานี่เอง
พี่ที่ไปกับเราจึงพาไปสถานีตำรวจแห่งที่ 3 ที่อยู่แถวสนามบิน เราก็เล่าให้ทางตำรวจฟัง
เขาก็แนะนำให้กลับไปสถานีแห่งที่ 2 อีกครั้ง ในวันจันทร์ แล้วให้ไปหาหัวหน้าร้อยเวรคนนั้น
เพื่อสั่งให้ร้อยเวรคนนั้นออกใบครุฑให้
พอออกจากสถานีตำรวจมาเราก็ตัดสินใจโทรหาร้อยเวรคนนั้นอีกครั้ง
เขาก็ยังยืนยันว่าเขาไม่สามารถออกใบครุฑให้ได้ เนื่องจากเขาไม่มีอำนาจในสืบสวนสอบสวน
เรากับพี่จึงตัดสินใจไปสถานีตำรวจแห่งที่ 4 แถบต่างจังหวัดที่ติดปริมณฑล
ทางตำรวจแจ้งว่าต้องกลับไปแจ้งสถานีตำรวจที่บัญชีเราอยู่ เนื่องจากตำรวจมีการแบ่งเขตพื้นที่
ซึ่งถ้ามีการจับคนร้ายผู้ที่มีอำนาจจริง ๆ ก็ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ในพื้นที่บัญชีต้นทาง
แต่หากไม่สามารถไปแจ้งความด้วยตัวเองได้จริง ๆ ก็ให้มอบอำนาจให้ที่บ้านก็ได้
หลังจากออกจากสถานีตำรวจ พี่อยากรู้ว่าทางธนาคารจะช่วยเหลืออะไรเราอีกไหม
จึงให้เราโทรไปธนาคารอีกครั้ง ซึ่งคุยไปคุยมา เจ้าหน้าที่ก็ได้ถามว่าเราได้ยืนยันอีเมลพวก User กับ Password ไหม
มันเลยทำให้เราฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าเราเคยทำไปนี่นา ซึ่งทางธนาคารก็แจ้งมาว่าทางธนาคารไม่มีอีเมลแบบนี้
และได้ขอให้เราส่งเมลที่เราได้รับให้ แต่พอดีไปหามันกลับหายไปแล้ว
จึงไม่สามารถส่งให้ได้ ธนาคารจึงแจ้งว่าจะยื่นดำเนินการให้ หากทราบเรื่องจะติดต่อกลับ
และให้ไปแจ้งความลงบันทึกประวันกับทางตำรวจ
วันจันทร์ของสัปดาห์ต่อมา
เราก็โทรกลับไปหาธนาคาร ทางธนาคารแจ้งว่าเนื่องจากเราไม่มีเมลที่เราเข้าไปยืนยันให้ จึงไม่สามารถดำเนินเรื่องได้
แต่แนะนำให้โทรไปหาสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เราก็โวยวายกับทางเจ้าหน้าที่ไปว่า
สรุปคือก็ต้องตามเรื่องเองซินะ ทางธนาคารจะไม่ช่วยอะไรมากกว่าแนะนำบ้างเลยหรอ บลา ๆ
(ก็สงสารพนักงานนะ แต่ตอนนั้นโมโหจริง ๆ )
จากนั้นเราก็โทรไปหา ปปง. เขาก็แจ้งว่าเราก็ต้องกลับไปแจ้งความสถานีตำรวจในพื้นที่บัญชีของเราจริง ๆ
โทรไปธนาคารแห่งไทย เขาก็ให้ข้อมูลเหมือนกัน
เราจึงตัดสินใจกลับบ้าน ไปแจ้งความด้วยตัวเอง ซึ่งทางตำรวจพื้นที่ก็ยังบอกอีกนะ มันแจ้งได้ทุกที่
เราก็เลยบอกไปแล้ว ไปที่ไหนเขาก็ให้กลับมาที่นี่ค่ะ ถ้าที่นี่ไม่รับแจ้งและดำเนินเรื่องให้ก็ไม่รู้จะไปที่ไหนแล้ว
ซึ่งตำรวจก็รับเรื่องพร้อมออกเอกสารอายัดบัญชีปลายทางและเรียกตัวพยานให้แล้ว
ตอนนี้อยู่ในระหว่างการรอธนาคารปลายทางส่งข้อมูลให้ทางตำรวจ คิดว่าวันจันทร์หน้าก็ต้องตามเรื่องต่อไป
[เมลที่เราได้ให้ยืนยันพวก User กับ Password]
มันก็หน้าเหมือนมาจากธนาคารสีฟ้านี่แหละ แล้วมันก็จะมีลิงค์ให้กด พอกดเข้าไปหน้าตาเว็บไซต์ก็เหมือนของธนาคารสีฟ้าหน้าตาปกติเลย
เราจึงกรอกข้อมูลเข้าระบบ พอซักพักมันก็ขึ้นช่องให้ใส่เลข OTP แล้ว SMSของธนาคารก็ส่งเลข OTPมาให้(ของธนาคารสีฟ้าเอง)
เรากรอกข้อมูลไป มันก็เข้าไม่ได้ซักที พอซักพักก็มีsms ว่ามีการล็อกอินเข้าสู่ระบบ เราก็คิดว่าเป็นใน browser ที่เรากรอกไป
ก็เลยไม่ได้เอะใจอะไร จนมารู้ตัวอีกทีก็เงินไปแล้ว ตามเหตุการณ์ข้างบนเลย (ที่ไม่รู้ว่าเงินหายไปเพราะไม่ได้สมัคร SMS แจ้งเตือน)
[ขอระบาย]
ก็เข้าใจนะว่ามันเป็นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเราเอง แต่เราอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือมากกว่านี้
เราก็ประชาชนทั่วไปไม่ได้มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายมากนัก ไปหาตำรวจก็โยนกันไปเรื่อย ๆ
ก็เข้าใจแหละว่าไม่ได้มีแค่เราคนเดียวที่เดือดร้อน เขาก็ต้องรับเรื่องจากคนอื่นที่เดือดร้อนเหมือนกัน
(แต่ถ้ากฎหมายบ้านเราดีจริง คดีก็อาจจะไม่เยอะขนาดนี้ก็ได้)
ธนาคารปลายทางก็รักษาข้อมูลของลูกค้าดีเกิน แค่อยากรู้ว่าเงินที่โอนไปยังอยู่ไหม จะให้ข้อมูลหน่อยก็ไม่ได้
ส่วนธนาคารสีฟ้าเราก็แสดงความรับผิดชอบ(บ้าง) โดยการ
1. ผ่านไป 2 วันโทรถามว่า “คุณลูกค้าแจ้งความแล้วหรือยังคะ
หากจะใช้แอพอยู่แนะนำให้เปลี่ยน User กับ Password นะคะ
เนื่องจากทางคนร้ายทราบข้อมูลของคุณลูกค้าแล้ว" เราก็ตอบได้แค่ว่า ไม่ค่ะ
(อยากจะบอกไปอีกว่า เงินที่มีมันก็ไปหมดแล้วไงคะ จะให้เอาที่ไหนมาเก็บอีก)
2. มีการอัพเดทแอพโดยมีรายละเอียดว่า สมัครบริการXxxxxxxxx Xxxxxxx แจ้งเตือนเงินเข้าเงินออกผ่าน Line ฟรี!
(ไม่รู้อันนี้เกี่ยวไหม แต่มันเกิดขึ้นหลังจากเหตุการณ์เรา)
ถ้าใครอ่านตั้งแต่ต้นจนถึงตรงนี้ก็ขอบคุณมากนะคะ ที่อุตส่าห์อ่านจนจบ หากจะติอะไรเราติได้ค่ะ แต่รบกวนใช้คำที่สุภาพหน่อยนะคะ