แชร์ประสบการณ์แจ้งเกิดลูกที่สถานทูตอเมริกาในไทย ปี 2019

ลองเซิซดูเรื่องนี้เห็นยังไม่ค่อยมีคนเขียนเท่าไร

วันนี้เลยขอมาแชร์ประสบการณ์การแจ้งเกิดลูก(ครึ่ง)อเมริกัน ผ่านทางสถานทูตอเมริกาในประเทศไทยค่า (ละเอียดหน่อยน้าา)

เกริ่นนิดนึงว่า เราตัดสินใจมาคลอดลูกที่ไทย กรณีของเราเป็นลูกที่เกิดในสมรสนะคะ
(ถ้าลูกนอกสมรสจะเตรียมเอกสารไม่เหมือนกัน)
หลังคลอด ทำเรื่องแจ้งเกิดไทย ย้ายชื่อลูกเข้าทะเบียนบ้านเรียบร้อย

<สถานทูตประกาศว่า หลังจากวันที่ 1 พ.ค. 2018 ไม่ให้จองแจ้งเกิดในเว็บฯ แล้ว แต่ให้ส่งเอกสารมาทางไปรษณีย์ก่อน แล้วรออีเมล์ตอบรับ ว่าให้เข้าไปสัมภาษณ์วันไหน>

มาเริ่มกันเลยจ้า
ขั้นตอนที่ 1
นำเอกสารของไทยที่ต้องใช้ยื่น ไปแปลและรับรองที่กรมการกงสุลให้เรียบร้อยค่ะ
เอกสารเหล่านี้คือ
- ใบสูติบัตรลูก
- ใบทะเบียนสมรส
- ใบเปลี่ยนชื่อ/นามสกุล
- ใบหย่าจากการสมรสครั้งก่อน (ถ้ามี)

ขั้นตอนที่ 2
ไปธนาคารเพื่อซื้อแบงค์ดร๊าฟ (คล้ายๆ เช็คแต่ไม่ใช่นะค้าา) สั่งจ่าย American Embassy Bangkok
ซื้อได้จาก 3 ธนาคาร คือ ธ.กรุงเทพ, ธ.ไทยพาณิชย์ หรือ ธ.กสิกร เท่านั้น
- กรณีของเราจ่ายทั้งค่าธรรมเนียมแจ้งเกิด และค่าธรรมเนียมทำพาสปอร์ต รวมทั้งหมด 7,310 บาท
ค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนในวันนั้นๆ นะคะ เพื่อความชัวร์เช็คราคาที่เว็บไซต์สถานทูตอีกครั้งค่ะ
▶️ https://th.usembassy.gov/u-s-citizen-services/child-family-matters/

ขั้นตอนที่ 3
ถ่ายสำเนาเอกสารที่เราต้องยื่นทั้งหมด เพราะเดี๋ยวเราต้องส่งตัวสำเนาเหล่านี้ไปทางไปรษณีย์
ย้ำ!!! อย่าส่งตัวจริงไปนะคะ *ยกเว้นแบงค์ดร๊าฟ และแบบฟอร์ม ต้องส่งตัวจริงไปค่ะ
เอกสารของเรามีดังนี้ค่ะ
ส่วนของการแจ้งเกิด
- ใบเช็คลิสท์เอกสาร พร้อมระบุวัน-เวลาที่ต้องการสัมภาษณ์ (เลือกได้แต่ จันทร์-พุธ เวลา 13.00 น. หรือ 13.15 น.)
- ใบแบงค์ดร๊าฟตัวจริง
- แบบฟอร์ม DS-2029 (ฟอร์มแจ้งเกิด) *ตัวจริงที่ปริ๊นออกมา
- สำเนาพาสปอร์ตของบิดา
- สำเนาพาสปอร์ตของมารดา
- สำเนาใบสูติบัตร พร้อมสำเนาฉบับแปลภาษาอังกฤษ
- สำเนาใบทะเบียนสมรส พร้อมสำเนาฉบับแปลภาษาอังกฤษ
- สำเนาใบเปลี่ยนนามสกุล พร้อมสำเนาฉบับแปลภาษาอังกฤษ
- สำเนาใบเพิ่มชื่อกลาง พร้อมสำเนาฉบับแปลภาษาอังกฤษ
- สำเนาประวัติการตั้งครรภ์ของมารดาทั้งหมด
- สำเนาเอกสารที่ยืนยันว่า ผู้ปกครองฝ่ายสัญชาติอเมริกันเคยอยู่ในประเทศอเมริกามาเกิน 5 ปี (นับตั้งแต่หลังอายุครบ 14 ปี) *ข้อนี้เดี๋ยวขยายความต่อค่ะ
- รูปครอบครัว
ส่วนของการขอพาสปอร์ต
- แบบฟอร์ม DS-11 *ตัวจริงที่ปริ๊นออกมา พร้อมติดรูปถ่ายของลูก ขนาด 2*2 นิ้ว

**ถ้าผู้ปกครองคนใดคนหนึ่งไปสัมภาษณ์ไม่ได้ ต้องยื่นเอกสารเพิ่มนะคะ**

แล้วส่งเอกสารเหล่านี้ไปที่
Attn: Mail-in CRBA Application
American Citizen Services, Consular Section
95 Wireless Road
Bangkok 10330, Thailand 

❗️ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม และอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
https://th.usembassy.gov/u-s-citizen-services/child-family-matters/

*เอกสารที่ยืนยันว่าผู้ปกครองชาวอเมริกันเคยอยู่ในประเทศอเมริกามาเกิน 5 ปี (หลังจากอายุครบ 14 ปี) สามารถยื่นพวก ใบทรานสคริปต์โรงเรียน/มหาวิทยาลัย, ข้อมูลได้รับภาษีเงินคืนพร้อม W-2, เอกสารยินยันการทำงานกับกองทัพหรือรัฐบาลอเมริกา หรือเอกสารอื่นๆ ที่สามารถยืนยันเป็นช่วงเวลาได้ค่ะ (อย่างใบปริญญาบัตรงี้ใช้ไม่ได้น้า เพราะอาจจะเรียนจบมาโดยการเรียนออนไลน์ก็ได้ แบบตัวไม่ได้อยู่ในประเทศ)
.
..
หลังจากส่งไป 2 วันผ่าน DHL ก็ได้อีเมลตอบรับจากสถานทูตมา ว่าให้เข้ามาสัมภาษณ์ได้เลยจันทร์หน้า (ตามวันที่เราเลือกไปเลย) รวดเร็วมาก

วันสัมภาษณ์ เราถือเอกสารตัวจริงไปทั้งหมด ไปถึงแผนกกงสุลก่อนเข้าไปข้างในต้องฝากมือถือไว้
เอาเป้อุ้มกับกระเป๋าแม่ลูกอ่อนเข้าไปได้ (แต่โดนตรวจละเอียด)

เข้าไปปุ๊บ รอเจ้าหน้าที่คนไทยเรียก เพื่อดูเอกสารตัวจริง
แล้วก็เดินไปซื้อซองเอกสาร จ่าหน้าซองถึงตัวเอง เพื่อที่เขาจะได้ส่งพาสปอร์ตกลับมาให้ เสียค่าส่ง 100 บาท
พอเดินกลับมา กงสุล(ฝรั่ง)เรียกสัมภาษณ์
ของเราโดนถามไม่เยอะ อาจจะเพราะสามีเคยอยู่ในกองทัพมาก่อน
ถามแค่ประมาณว่า ยังอยู่ในอามี่รึป่าว เจอกันได้ยังไง แพลนต่อไปเป็นยังไง จะไปเมกามั้ย
แล้วก็จบ ผ่านเรียบร้อย เขาแจ้งว่าจะได้รับพาสปอร์ตในอีก 2 สัปดาห์ เย่ 😀

หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้างนะค้า เตรียมเอกสารวุ่นวายหลายอย่างจริงๆ
แต่ตอนนี้เรากำลังสงสัยเรื่อง SSN ของลูก ใครมีประสบการณ์แชร์ให้ฟังหน่อยนะคะ 😁 ขอบคุณล่วงหน้าค่าา

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่