ข้อแนะนำจากคนที่ทำธุรกิจ IT มากว่า 10 ปี สำหรับคนที่จะเข้าสู่วงการนี้ หรือสายงานที่เกี่ยวข้อง ถ้าไม่อยากขาดทุน ต้องอ่าน

ข้อแนะนำจากคนที่ทำธุรกิจ IT มากว่า 10 ปี สำหรับคนที่จะเข้าสู่วงการนี้ หรือสายงานที่เกี่ยวข้อง ถ้าไม่อยากขาดทุน ให้อ่านที่นี่ ที่จริงสำหรับธุรกิจอื่นก็อาจนำข้อควรระวังนี้ไปใช้ได้



เนื่องจากตัวเองไม่เคยทำงานเป็นพนักงานในบริษัท IT อื่นมาก่อน ก็มาทำบริษัท IT ของตัวเองเลย จึงไม่รู้ว่าเขาคิดราคากันอย่างไร เราก็เพียงแต่ Survey คู่แข่ง และคำนวณค่าแรง ออกมาปรกติ แต่ทำมาสักพักหลายปีก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ ว่าลูกค้าเราหาได้เยอะแยะมากมาย เจ้าดังๆทั้งนั้น แต่ทำไมเรายัง “ขาดทุน” ไม่เติบโตแบบก้าวกระโดดสักที จนได้เริ่มสืบธุรกิจ IT คู่แข่ง หลายๆเจ้าที่โตเอาๆ ทั้งที่การออกแบบของเรา ระบบของเราก็ถูกใจลูกค้า ถ้าเทียบเรื่อง function การใช้งาน จนมาถึงบางอ้อว่า เป็นเพราะเราไม่มีกฏที่ชัดเจนนี่เอง 



การขายสินค้า ต้นทุนคือวัตถุดิบ สำหรับธุรกิจการเขียนโปรแกรม ต้นทุนคือ “เวลา” ผมนั้นทำบริษัทรับออกแบบเวบไซต์ และ ออกแบบกราฟฟิก สิ่งที่บริษัทเจอมาคือ 


1. ลูกค้าหลายเจ้าเรียกให้ไป Present ที่บริษัท ค่านำ้มันรถเอย เสียเวลาไปครึ่งวัน บางทีเต็มวัน และในหลายๆครั้งลูกค้าก็ไม่เอา มีทั้งแบบไม่เอาเพราะราคา และเรียกไปเอาไอเดียเฉยๆ งบประมาณตรงนี้เสียไปเยอะมาก



2. ลูกค้าเรียกไปพร่ำเพรื่อระหว่างโครงการ คือเรียกเข้าไปคุยตลอด ไอเราก็ไป ไปทุกครั้ง บางครั้งเรียกไปกับเรื่องเล็กน้อยมากๆ โทรคุยกันก็ยังได้ บางครั้งเรียกไปสอนนักงาน วิธีการใช้ แล้วพอไม่ใช้งานนานๆ ลืม ก็เรียกไปใหม่ พนักงานเดิมออกก็เรียกไปใหม่ ค่าใช้จ่ายก็ไม่ให้ เวลาเราก็เสีย แต่โครงการมูลค่าไม่ได้คิดไว้สำหรับเรื่องพวกนี้เลย



3. ลูกค้าแก้แล้ว แก้อีก แก้จุกจิกมากมาย บางทีโครงการส่งมอบไปแล้วก็ยังมาให้แก้ เราก็ต้องเสียเวลาเสียคนแก้ไปแบบฟรีๆ ไม่ได้คิดเงินกลัวลูกค้างอแง



4. Function เพิ่มแบบงอก คืองอกมาจากไหนไม่รู้ คือ requirement ไม่มีชัดๆ แต่ก็ต้องทำให้เพราะเขาบอกนิดหน่อย ไม่มีค่าใช้จ่ายอีกแล้ว บางทีทำไปก็บอกว่าขอปรับหน้าตาการใช้งานเฉย คือแล้วไม่ตกลงกันแต่แรก ก็จำยอมทำให้อีก



ผมทำแบบนี้มานานเป็น 10 ปี จากตอนแรกตั้งบริษัทนี้มีมีทุนเยอะ ขาดทุนต่อเนื่องมาตั้งแต่เปิดบริษัท จนปัจจุบันจนจะหมดตัว

ถ้าถามว่าทำไปทำไมนานขนาดนี้ ก็เพราะใจรัก และคิดว่าบริษัทอื่นเขาก็ยังอยู่กันได้จากราคาที่เราสำรวจมาแล้ว และ module ที่ผมพัฒนาไม่ว่า Plugin เอย อะไรเอยลงไปหลายล้าน 



จนกระทั่งหูตาสว่างเมื่อได้คุยกับ คู่ค้าที่ทำธุรกิจ IT เหมือนกันว่าที่ผมทำมา ผิดวิธีที่บริษัท IT อื่นๆทำเลย รวมถึงผมเลยลองสืบโดยโทรไปแกล้งจะไปเป็นลูกค้า เลยเริ่มรู้แล้วว่า เขาไม่ได้ทำกันแบบนี้เลยครับ



- หลายๆบริษัทไม่ยอมไปคุยนอกสถานที่เลย เพราะเขารู้แกวแล้วว่าเรียกไปเฉยๆ เรียกไปเอาไอเดียแน่ๆ เปลืองทั้งค่าน้ำมันค่าจอดรถ ส่วนใหญ่เขาจะให้ลูกค้าต้องมาคุยที่บริษัทเลย แต่ก็ยังมีบางบริษัทที่ยอมไปอยู่ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นพวกบริษัทเล็กๆพึ่งเข้าสู่วงการ ส่วนใหญ่เขาจะคุยทางโทรศัพท์



- และเมื่อรับงานแล้ว เขาจะไม่มี Service onsite แบบฟรี เช่น เรียกไปสอน เรียกไปประชุม อะไรแบบนี้ เขามีค่าใช้จ่ายตามปรกติ เช่นเรียกไปส่วนใหญ่ที่ถามๆมาจะอยู่ที่ 4000 บาท ขึ้นไป และมีการจำกัดชั่วโมงด้วย



- และการลงข้อมูลให้ เขาก็จะคิดเงินเช่นกัน



- การแก้ไข เพิ่มเติม ข้อนี้เขาค่อนข้างเด็ดขาดมาก คือ คิดเงินตาม ชั่วโดมงการทำตามมาตราฐานบริษัท



จึงไม่แปลกใจที่บริษัทผมนั้นจนลงๆ จนติดหนี้แทน เพราะผมนั้นฟรีหมดเลย โดยเฉพาะถ้าลูกค้าบอกว่า หยวนๆหน่อย จะมีงานเรื่อยๆนี่ อย่าไปหลงคารมเด็ดขาดครับ เจอมาเยอะมากก มีน้อยมากครับที่จะเป็นอย่างที่พูด

จำไว้อย่าง ธุรกิจที่เป็นงานบริการอย่างเดียว ค่าแรง คำปรึกษาเราคือต้นทุนครับ เราไม่ได้ขายของที่ตุ้นทุนเขาคือวัตถุดิบ เขาอาจจะบวกค่า Service ไว้แล้ว ยิ่งถ้าเป็นท่างด้าน IT ที่ยุคนี้ค่าแรง เงินเดือนสูงกว่าอาชีพทั่วไป การแค่เราเสียเวลา 1 ชั่วโมง ก็ลองคำนวณครับว่ามูลค่าหายไปเท่าไร และนี่เป็นสาเหตุหลักเลยครับที่ทำให้บริษัทผมย่ำแย่แบบฟื้นไม่ได้ สุดท้ายนี้ตอนนี้บริษัทผมกำลังจะปิดตัวเนื่องจากขาดทุนและติดหนี้ อยากถ่ายทอดประสบการณ์ให้คนที่จะมาสายนี้ได้ฟังกันว่า บริษัทอื่นๆที่เขาเติบโตกันได้ เขาทำอย่างไร ถ้าไม่งั้นจะยิ่งทำยิ่งขาดทุนเหมือนผม หรือทำไปโดยไม่ก้าวหน้าเลยครับ

คุณลองคิดดู อาชีพหมอ แค่คุณเข้าไปหาเขาคุณก็เสียเงินแล้ว เพราะหมอก็เป็นอาชีพบริการ 100% เช่นกัน จริงๆไม่ว่างานออกแบบต่างๆ งานทนายความก็เหมือนกันครับ บริการแทบจะ 100% “เวลาคือต้นทุนครับ” จำไว้

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
ของผมทำ 2 สูตรครับ ฟรีแบบคุณว่าก็มีครับแต่ต้องเป็นโปรเจ็คใหญ่ แล้วทำระบบล้อมด้วย Ecosystem ครับ มีบางงานใหญ่ๆ ผมยอมขาดทุนแรกๆ ด้วยครับ เพราะพอระบบลูกค้ารันแล้ว ยังไงก็เลิกระบบเราไม่ได้

กับอีกสูตรคือ เก็บเงินทุกเม็ด โดยมากเป็นระบบเฉพาะของลูกค้า หรือระบบขนาดไม่ใหญ่ครับ

คำแนะนำสำคัญมากครับ

พยายามออกแบบระบบให้ลูกค้าได้กำไรจากระบบที่เราพัฒนาให้ได้มากที่สุด แนะนำอะไรได้แนะนำไปเลยครับ คิดถึงบริษัทลูกค้าด้วยครับ

ผมเห็นหลายเจ้า ชอบคิดวิเคราะห์งานออกแบบให้บริษัทตัวเองทำงานได้ง่าย และ พยายามทำให้ระบบให้เยอะจะได้คิดค่าใช้จ่ายลูกค้าเยอะๆ

ของผมคิดต่าง งานอะไรที่ทำให้ลูกค้าลำบาก ผมขอรับไว้แต่ และพัฒนาให้ลูกค้าทำงานได้สะดวก ประหยัดเวลา และ ค่าใช้จ่ายครับ

บางระบบเป็นระบบหน้าร้านผมจะพยายามทำให้ให้การขายสะดวกและมีประสิทธิ์เยอะกว่าที่ลูกค้าคาดหวังเสมอ

ถ้าระบบหลังร้าน ต้องทำให้ลูกค้าลดเวลา เพิ่มประสิทธิ์ภาพมากที่สุด

ถ้าลูกค้าได้กำไรจากระบบเรามากเท่าไหร่ ลูกค้าจะมองเป็นรายได้ การคิดค่า Service ต่างๆ หรือพ่วงระบบต่างๆ ลูกค้าก็พร้อมจ่าย แต่ถ้าทำแล้วลูกค้ามีแต่รายจ่ายในระบบที่เราทำ ลูกค้าจะมองเป็นค่าใช้จ่าย พร้อมตัดเสมอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่