สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคนครับ วันนี้ DinnerXplorer จะพาเพื่อนๆ ไปลองทานอาหารที่ร้าน Chu Chocolate Bar & Cafe ที่สาขาสาธรกันครับ วิธีเดินทางนี่สะดวกมากเลยครับ ใครไม่มีรถสามารถนั่ง BTS มาลงที่สถานีช่องนนทรี แล้วเดินต่อเข้าซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 3 ไปไม่ไกลมากครับ จะอยู่ที่ชั้น 1 ของตึกโรงแรม Trinity Silom ครับ (เพราะผมก็มาวิธีนี้ ซอยอาจจะแคบหน่อย แต่เดินไม่ไกลแน่นอน) ส่วนถ้าใครมีรถก็หาเส้นทางจาก Google Maps ได้เลยครับ บริเวณโรงแรมพอมีที่จอดรถอยู่ครับ สามารถเอาบัตรจอดรถมาแสตมป์ที่ร้านได้ครับ
สำหรับรีวิววันนี้ ขออนุญาตนำประสบการณ์ที่ได้ไปใช้บริการมา 2 ครั้งมารีวิวในครั้งเดียวเลยนะครับ
เริ่มจากบรรยากาศภายในร้านกันก่อน การตกแต่งด้วยไม้กับโทนสีของร้านเป็นสไตล์คาเฟ่ให้ความรู้สึกอบอุ่นดีครับ ใครอยากมานั่งทานของหวานยามบ่ายก็เหมาะดี หรือจะทานเป็นมื้ออาหารหลักก็ได้เพราะทางร้านก็มีอาหารคาวบริการครับ โดยสองครั้งที่ผมมาใช้บริการ มาทานกับเพื่อนแค่สองคน เลยนั่งโต๊ะสองคนตลอด มุมเดิมตลอดเลยครับ หลังจากเลือกอาหารจากเมนูเสร็จ ก็รออาหารมาเสิร์ฟไม่นานมากครับ
เริ่มกับพวกสลัดกันก่อนเลยครับ เมนูแรก Smoked Salmon Salad (240.-) เป็นผักสลัดโปะมาด้วย Norwegian smoked salmon แล้วราดด้วยน้ำสลัด balsamic รสชาติเปรี้ยวดีครับ ผักสลัดสดกรอบ แซลมอนไม่เละมาก ทานแล้วเป็นการเริ่มต้นมื้ออาหารที่สดชื่นดีครับ
สลัดอีกเมนูนึงที่มีโอกาสได้ทานก็คือ Tuna Salad (170.-) ตามเมนูเขียนไว้ว่า Dressing ของจานนี้เป็น Homemade mayo เลยสั่งมา เพราะอยากทานสลัดที่ครีมๆ หน่อย แต่พอมาจริง อ้าว เจอ Balsamic อีกแล้ว ก็พอไหวนะครับ ทูน่านี่ให้มาปริมาณที่เยอะดี ทานแล้วงดทานทูน่าไปซักพักเลย ผักอะไรก็สดดีครับ ทานแล้วก็สดชื่นดี
มาต่อกันที่พาสต้าบ้างครับ เริ่มด้วย Poached Egg Carbonara (240.-) ครับ เป็นเมนูหนึ่งที่ประทับใจมากครับ สปาเกตตี้ครีมใส่เบคอน โปะหน้ามาด้วยไข่ออนเซนที่ต้มกำลังได้ที่ เส้นลวกมาได้เหนียวกำลังดี รสชาติครีมปรุงออกมาได้เข้มข้นดีมากครับ ยิ่งคลุกไข่ออนเซนไปด้วยแล้ว รสชาติยิ่งเข้มข้นขึ้นครับ ยิ่งทานกับเบคอนเค็มๆ ด้วยแหละ สุดยอดมากครับ ปริมาณซอสให้มาเยอะกำลังดี ทานไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าครีมจะแห้ง อารมณ์ขลุกขลิกๆ อยู่ตลอดเวลาที่ทานครับ
อีกเมนูนึงที่น่าสนใจแล้วได้สั่งมาลองทานก็คือ Crab Linguine (280.-) ในเมนูเขียนว่าใช้เนื้อปูก้อนจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำมาผัดกับกระเทียม มะเขือเทศ สาระแหน่ครับ ใครอยากเพิ่มความเปรี้ยวก็บีบเลมอนที่เสิร์ฟมาเพิ่มได้ ยังคงลวกเส้นออกมาเหนียวกำลังดีครับ แต่เนื้อปูที่ผัดออกมาดูเละรวมไปกับเส้น ใครที่หวังว่าจะได้ทานเนื้อปูเป็นก้อนๆ อาจผิดหวังหน่อยครับ ส่วนรสชาติก็สดชื่นในสไตล์ไทยๆ ครับ
ต่อมาเป็นเมนูจานหลักกันบ้าง จานนี้ Caramel Apple Pork Chop (350.-) เป็นพอร์คชอปย่าง ด้านล่างเป็น Caramel apple puree โปะด้วยผักสดและแอปเปิ้ลเชื่อม จานนี้ต้องระวังสำหรับคนไม่กินมันเนื่องจากเนื้อมีมันติดมาพอสมควร แต่ถ้าใครชอบทานก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ ตัว Puree หวานนำไปมาก แต่โชคดีที่ซอสราดนั้นอร่อยมากครับ รสชาติกำลังดีไม่หวานจนเกินไป เรียกได้ว่าตอนทานนี่แทบจะเอาเนื้อหมูเช็ดซอสออกจากจานจนสะอาดเกลี้ยงเลยก็ว่าได้ ฮ่าๆๆ
ต่อมาเป็นเมนู Breakfast ที่ได้รับความนิยมของร้านนี้ แต่ถึงแม้จะทานเป็นมื้อ Dinner ก็ยังสั่งได้ นั่นก็คือ Eggs Benedict โดยมีให้เลือกหน้าทั้ง Sloane’s Back Bacon (250.-) หรือ Smoked Salmon (290.-) ซึ่งทั้งสองครั้งไปผมเลือกเป็นเบคอนตลอดครับ ตัวไข่ทำมาได้ดีครับ เยิ้มๆ กำลังดี ไม่เหลวหรือแข็งจนเกินไป ส่วนตัวซอส Hollandaise กลมกล่อมกำลังดีครับ Buttermilk biscuit ที่เสิร์ฟเป็นฐานกรอบดี แต่อาจจะต้องรีบกินหน่อยนะครับ ไม่งั้นอาจจะเละได้เพราะเจอกับซอสของเราจนเปียกชุ่มนั่นเองครับ ฮ่าๆๆ
สุดท้ายของหวานที่ร้านนี้ ได้มีโอกาสลองอยู่ 2 เมนูครับ เมนูแรกเป็น Cherry Crumble Cheesecake (180.-) ชีสเค้กรสชาติดีมากครับ มันกำลังดี ทานกับ Cherry ที่เชื่อมช่วยเพิ่มรสหวาน และ Crumble ที่ช่วยเพิ่ม Texture ความกรุบกรอบ Component ส่วนต่างๆ ให้มาในปริมาณที่พอดีกันครับ ทานแล้วไม่ขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไป โดยรวมแล้วรู้สึกประทับใจจานนี้มาก อร่อยมากครับ
เมนูของหวานถัดมาที่ได้ชิมนั่นก็คือ Nutella Banana Brioche French Toast (200.-) จะบอกว่าใครคิดว่าขนมปังจะกรอบเหมือนพวก Shibuya Toast นี่คิดใหม่นะครับ เพราะตัวขนมปัง Brioche French Toast ที่นี่ทำมาเป็นลักษณะนุ่มๆ ครับ ให้อารมณ์แบบขนมปังนึ่งที่จิ้มกินกับสังขยาเลย ฮ่าๆๆ ตัวขนมปังหอมกลิ่นเนยดีครับ ทาด้านบนด้วย Nutella โปะด้วยกล้วยหอม แล้วราดด้วยซอส Chocolate มาแบบให้กินกันจนเลี่ยนไปข้างนึงเลย ผมว่าก็โอเค แต่ว่าตัวซอสหนักหวานไปหน่อย เวลาทานมากๆ เลยอาจจะรู้สึกเลี่ยนได้ครับ
ขอจบรีวิวของร้าน Chu Chocolate Bar & Cafe เพียงเท่านี้นะครับ เป็นคาเฟ่ที่น่าสนใจมาก ทั้งเดินทางสะดวก แถมอาหารรสชาติก็โอเค นอกจากนี้สามารถจองผ่าน App Eatigo ได้ด้วยนะครับ มีหลายช่วงเวลาเหมือนกันที่มีส่วนลด 50% ใครสนใจก็ไปตามรอยกันได้นะครับ
[CR] DinnerXplorer: พาไปชิมที่ร้าน Chu Chocolate Bar & Cafe
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สวัสดีเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคนครับ วันนี้ DinnerXplorer จะพาเพื่อนๆ ไปลองทานอาหารที่ร้าน Chu Chocolate Bar & Cafe ที่สาขาสาธรกันครับ วิธีเดินทางนี่สะดวกมากเลยครับ ใครไม่มีรถสามารถนั่ง BTS มาลงที่สถานีช่องนนทรี แล้วเดินต่อเข้าซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 3 ไปไม่ไกลมากครับ จะอยู่ที่ชั้น 1 ของตึกโรงแรม Trinity Silom ครับ (เพราะผมก็มาวิธีนี้ ซอยอาจจะแคบหน่อย แต่เดินไม่ไกลแน่นอน) ส่วนถ้าใครมีรถก็หาเส้นทางจาก Google Maps ได้เลยครับ บริเวณโรงแรมพอมีที่จอดรถอยู่ครับ สามารถเอาบัตรจอดรถมาแสตมป์ที่ร้านได้ครับ
เริ่มจากบรรยากาศภายในร้านกันก่อน การตกแต่งด้วยไม้กับโทนสีของร้านเป็นสไตล์คาเฟ่ให้ความรู้สึกอบอุ่นดีครับ ใครอยากมานั่งทานของหวานยามบ่ายก็เหมาะดี หรือจะทานเป็นมื้ออาหารหลักก็ได้เพราะทางร้านก็มีอาหารคาวบริการครับ โดยสองครั้งที่ผมมาใช้บริการ มาทานกับเพื่อนแค่สองคน เลยนั่งโต๊ะสองคนตลอด มุมเดิมตลอดเลยครับ หลังจากเลือกอาหารจากเมนูเสร็จ ก็รออาหารมาเสิร์ฟไม่นานมากครับ
เริ่มกับพวกสลัดกันก่อนเลยครับ เมนูแรก Smoked Salmon Salad (240.-) เป็นผักสลัดโปะมาด้วย Norwegian smoked salmon แล้วราดด้วยน้ำสลัด balsamic รสชาติเปรี้ยวดีครับ ผักสลัดสดกรอบ แซลมอนไม่เละมาก ทานแล้วเป็นการเริ่มต้นมื้ออาหารที่สดชื่นดีครับ
สลัดอีกเมนูนึงที่มีโอกาสได้ทานก็คือ Tuna Salad (170.-) ตามเมนูเขียนไว้ว่า Dressing ของจานนี้เป็น Homemade mayo เลยสั่งมา เพราะอยากทานสลัดที่ครีมๆ หน่อย แต่พอมาจริง อ้าว เจอ Balsamic อีกแล้ว ก็พอไหวนะครับ ทูน่านี่ให้มาปริมาณที่เยอะดี ทานแล้วงดทานทูน่าไปซักพักเลย ผักอะไรก็สดดีครับ ทานแล้วก็สดชื่นดี
มาต่อกันที่พาสต้าบ้างครับ เริ่มด้วย Poached Egg Carbonara (240.-) ครับ เป็นเมนูหนึ่งที่ประทับใจมากครับ สปาเกตตี้ครีมใส่เบคอน โปะหน้ามาด้วยไข่ออนเซนที่ต้มกำลังได้ที่ เส้นลวกมาได้เหนียวกำลังดี รสชาติครีมปรุงออกมาได้เข้มข้นดีมากครับ ยิ่งคลุกไข่ออนเซนไปด้วยแล้ว รสชาติยิ่งเข้มข้นขึ้นครับ ยิ่งทานกับเบคอนเค็มๆ ด้วยแหละ สุดยอดมากครับ ปริมาณซอสให้มาเยอะกำลังดี ทานไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าครีมจะแห้ง อารมณ์ขลุกขลิกๆ อยู่ตลอดเวลาที่ทานครับ
อีกเมนูนึงที่น่าสนใจแล้วได้สั่งมาลองทานก็คือ Crab Linguine (280.-) ในเมนูเขียนว่าใช้เนื้อปูก้อนจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำมาผัดกับกระเทียม มะเขือเทศ สาระแหน่ครับ ใครอยากเพิ่มความเปรี้ยวก็บีบเลมอนที่เสิร์ฟมาเพิ่มได้ ยังคงลวกเส้นออกมาเหนียวกำลังดีครับ แต่เนื้อปูที่ผัดออกมาดูเละรวมไปกับเส้น ใครที่หวังว่าจะได้ทานเนื้อปูเป็นก้อนๆ อาจผิดหวังหน่อยครับ ส่วนรสชาติก็สดชื่นในสไตล์ไทยๆ ครับ
ต่อมาเป็นเมนูจานหลักกันบ้าง จานนี้ Caramel Apple Pork Chop (350.-) เป็นพอร์คชอปย่าง ด้านล่างเป็น Caramel apple puree โปะด้วยผักสดและแอปเปิ้ลเชื่อม จานนี้ต้องระวังสำหรับคนไม่กินมันเนื่องจากเนื้อมีมันติดมาพอสมควร แต่ถ้าใครชอบทานก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ ตัว Puree หวานนำไปมาก แต่โชคดีที่ซอสราดนั้นอร่อยมากครับ รสชาติกำลังดีไม่หวานจนเกินไป เรียกได้ว่าตอนทานนี่แทบจะเอาเนื้อหมูเช็ดซอสออกจากจานจนสะอาดเกลี้ยงเลยก็ว่าได้ ฮ่าๆๆ
ต่อมาเป็นเมนู Breakfast ที่ได้รับความนิยมของร้านนี้ แต่ถึงแม้จะทานเป็นมื้อ Dinner ก็ยังสั่งได้ นั่นก็คือ Eggs Benedict โดยมีให้เลือกหน้าทั้ง Sloane’s Back Bacon (250.-) หรือ Smoked Salmon (290.-) ซึ่งทั้งสองครั้งไปผมเลือกเป็นเบคอนตลอดครับ ตัวไข่ทำมาได้ดีครับ เยิ้มๆ กำลังดี ไม่เหลวหรือแข็งจนเกินไป ส่วนตัวซอส Hollandaise กลมกล่อมกำลังดีครับ Buttermilk biscuit ที่เสิร์ฟเป็นฐานกรอบดี แต่อาจจะต้องรีบกินหน่อยนะครับ ไม่งั้นอาจจะเละได้เพราะเจอกับซอสของเราจนเปียกชุ่มนั่นเองครับ ฮ่าๆๆ
สุดท้ายของหวานที่ร้านนี้ ได้มีโอกาสลองอยู่ 2 เมนูครับ เมนูแรกเป็น Cherry Crumble Cheesecake (180.-) ชีสเค้กรสชาติดีมากครับ มันกำลังดี ทานกับ Cherry ที่เชื่อมช่วยเพิ่มรสหวาน และ Crumble ที่ช่วยเพิ่ม Texture ความกรุบกรอบ Component ส่วนต่างๆ ให้มาในปริมาณที่พอดีกันครับ ทานแล้วไม่ขาดส่วนใดส่วนหนึ่งไป โดยรวมแล้วรู้สึกประทับใจจานนี้มาก อร่อยมากครับ
เมนูของหวานถัดมาที่ได้ชิมนั่นก็คือ Nutella Banana Brioche French Toast (200.-) จะบอกว่าใครคิดว่าขนมปังจะกรอบเหมือนพวก Shibuya Toast นี่คิดใหม่นะครับ เพราะตัวขนมปัง Brioche French Toast ที่นี่ทำมาเป็นลักษณะนุ่มๆ ครับ ให้อารมณ์แบบขนมปังนึ่งที่จิ้มกินกับสังขยาเลย ฮ่าๆๆ ตัวขนมปังหอมกลิ่นเนยดีครับ ทาด้านบนด้วย Nutella โปะด้วยกล้วยหอม แล้วราดด้วยซอส Chocolate มาแบบให้กินกันจนเลี่ยนไปข้างนึงเลย ผมว่าก็โอเค แต่ว่าตัวซอสหนักหวานไปหน่อย เวลาทานมากๆ เลยอาจจะรู้สึกเลี่ยนได้ครับ
ขอจบรีวิวของร้าน Chu Chocolate Bar & Cafe เพียงเท่านี้นะครับ เป็นคาเฟ่ที่น่าสนใจมาก ทั้งเดินทางสะดวก แถมอาหารรสชาติก็โอเค นอกจากนี้สามารถจองผ่าน App Eatigo ได้ด้วยนะครับ มีหลายช่วงเวลาเหมือนกันที่มีส่วนลด 50% ใครสนใจก็ไปตามรอยกันได้นะครับ
สามารถเข้าไปกดไลค์กันได้ตามลิ้งค์นี้เลยครับ https://www.facebook.com/dinnerxplorer/ ฝากด้วยนะครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น