สวัสดีค่ะ ตอนนี้เราเครียดมากๆ เพราะโดนให้ออกงาน ทางบริษัทบอกว่าจะจ่ายชดเชยให้ แต่เค้าก็ยังไม่จ่ายเลยค่ะ เรื่องราวทั้งหมดต้องย้อนไปตั้งแต่ เดือน พ.ย. 2561 ที่ผ่านมาค่ะ
เรื่องมีอยู่ว่า วันที่ 7 พ.ย. 2561 ผู้จัดการแจ้งเราว่า จะให้เราออกจากงานสิ้นปีค่ะ ซึ่งตอนนั้นเราก็ช็อคมากนะคะ เค้าบอกเราว่า ทางบริษัทไม่ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจไม่เอื้อ โครงการทั้งหมดจึงต้องพับไป ไม่มีงานให้เราทำแล้ว เราเริ่มงานกับบริษัทนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2560 บริษัทนี้จะทำเว็บไซต์เกี่ยวกับความงาม ส่วนธุรกิจหลักเป็นคลินิคเสริมความงามค่ะ ตำแหน่งของเราเป็นดีไซน์เนอร์ เงินเดือน 30,000 บาท ไม่มีโอทีหรือสวัสดิการอะไรอีก นอกจากประกันสังคมค่ะ
ตัดกลับมาหลังจากที่แจ้งเราว่าจะให้เราออกสิ้นปี ภายในเดือน พ.ย. วันที่ 31 ผู้จัดการก็เดินมาบอกเราว่าให้เราออกเลยวันนั้นและมีผลวันนั้นเลยค่ะ เย็นวันนั้นก็เก็บของกลับบ้านเลยแบบงงๆ โดยทางผู้จัดการก็บอกกับเราว่าทางบริษัทจะจ่ายชดเชยให้ 3 เดือน เท่าเงินเดือนตามกฎหมาย เราก็โอเคตกลงตามนั้น แต่หายนะได้บังเกิดขึ้นค่ะ หลังจากนั้นวันที่ 13 ธ.ค. 2561 เราได้เริ่มยื่นเรื่องจะประกันตนเอง แล้วทางประกันสังคมแจ้งเราว่า ระบบลงว่าเรา “ลาออก” เองค่ะ อ่านไม่ผิดค่ะ ระบบแจ้งว่าเรา “ลาออก” เองค่ะ เราเลยโทรไปหาพี่ที่ออฟฟิสเลยค่ะ เราก็คิดในแง่ดีว่า เค้าคงจะประสานงานกันผิดพลาด พี่เค้าก็บอกว่าจะรับเรื่องไว้ แล้วเดี๋ยวจะไปประสานงานให้กับพนักงานที่ลงสถานะให้เรา ใครที่ทำงานออฟฟิสคงจะทราบดีกันอยู่แล้วนะคะว่า ถ้าเราโดนให้ออก เราจะได้เงินชดเชยว่างงาน 50% ของเงินเดือน แต่ถ้าเราลาออกเอง เราจะได้รับเงินชดเชยว่างงาน 30% แล้วนอกจากนี้เราจะเรียกร้องเงินค่าชดเชยยากมากขึ้นด้วย เพราะตามกฎหมายแล้ว แน่นอนว่า ถ้าเราออกเอง เราก็จะไม่ได้ค่าชดเชย แต่ทางบริษัทก็บอกเราว่าเค้าจะจ่ายให้เอง เรื่องนี้จึงสำคัญค่ะ ต้องทราบให้แน่ชัดว่าเราออกงานในรูปแบบใด
หลังจากนั้นทางบริษัทโทรมาบอกเราว่า สถานะออกงานแจ้งแล้วเปลี่ยนไม่ได้ ถ้าแจ้งเปลี่ยนจะเสียประวัติ เสียทั้งทางบริษัทและทางเรา เราก็เลยสงสัยมากค่ะ ว่าเราจะเสียประวัติยังไง แล้วเรายังต้องกลัวเสียประวัติอีกหรอ เพราะที่เสียเวลาทวงถาม ทวงสิทธิ์ของเราเนี่ย เรื่องอื่นที่จะเสียก็เป็นเรื่องเล็กแล้วค่ะ ก็เลยโทรถามกรมแรงงานเลยค่ะ ทางกรมบอกว่าสามารถเปลี่ยนได้ไม่มีใครเสียประวัติทั้งนั้นค่ะ เราก็เลยโทรไปบอกทางบริษัทว่ามันเปลี่ยนได้นะคะ ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเราเองจะเสียสิทธิ์ที่จะได้เงินชดเชย 50% นั้นไป ท้ายที่สุด ผู้จัดการโทรมาหาเรา แล้วบอกเราว่า ถ้าแจ้งเปลี่ยนเนี่ยบริษัทเค้าจะโดนตรวจสอบแล้วเราก็จะเสียประวัติไปด้วย เราก็เออ อะ ตามนั้นก็ได้ นอกจากนี้เค้ายังขอผ่อนค่าชดเชยค่ะ แบ่งออกเป็น 3 งวด แปลว่าเค้าจะต้องจ่ายทุกสิ้นเดือนของเดือน ธันวาคม มกราคม และกุมภาพันธ์ ซึ่งในวันนั้นที่คุยตกลงกันเป็นวันที่ 25 ธ.ค. 2561 ยังไม่ได้เงินซักงวดค่ะ ได้มาเฉพาะเงินเดือนเดือนสุดท้ายที่ทำงาน นี่ยังไม่นับค่าตกใจที่เค้าจะต้องให้เรา ตอนนั้นเราก็เริ่มปลงๆแล้วค่ะ เพราะเงินชดเชยยังไม่จ่ายเลยจะต้องมาทวงค่าตกใจอีกนี่ คงจะยากมากค่ะ ก็เลยเอาแต่ค่าชดเชยก็ได้ว่ะ จบเรื่องสถานะออกงานไป มันก็ยังมีเรื่องอีกค่ะ
หลังจากนั้นต่อมาก็ยังคงไม่ได้เงินวนไปค่ะ วันที่ 15 ม.ค. 2562 เราจึงไลน์ไปทวงค่ะ แล้วพี่เค้าก็แจ้งเรามาว่า “เรื่องเงินอยู่ระหว่างดำเนินการค่ะ และทางบริษัทแจ้งมาว่าจะมีหักภาษี-ประกันสังคมย้อนหลังของปี 61 ด้วยนะคะ” คราวนี้งงหนักเลยค่ะ ถึงกับต้องถามว่า "โดยปกติแล้วประกันสังคมจะต้องหักจ่ายให้เราทุกเดือนก่อนจ่ายเงินเดือนให้เราอยู่แล้วนี่คะ” แล้วพี่เค้าก็เงียบไปค่ะ ไม่ได้ตอบเราเลย วันที่ 18 ม.ค. 62 เราเลยไลน์ไปถามผู้จัดการเลยค่ะผู้จัดการตอบกลับมาว่า (ตอนแรกจะโพสต์รูปแต่เกิดความผิดพลาดบางประการขึ้น ขออนุญาตพิมพ์เอานะคะ)
ผจก : ปกติ (ชื่อเรา) ได้รับเงินเดือนเต็ม ไม่ได้หักภาษี และประกันสังคมเลย ถูกต้องไหมจ้ะ
เรา : (ชื่อเรา) ก็ไม่ทราบค่ะ เพราะทางบริษัทไม่ได้แจ้งอะไรเป็นลายลักษณ์อักษร สลิปเงินเดือนก็ไม่มีค่ะ เข้าใจว่าทางบริษัทชำระให้มาตลอดค่ะ เพราะปกติทางบริษัทจะต้องหักให้อยู่แล้ว
ผจก : พี่ไม่เห็นตอนเงินเดือนเข้า แต่ว่าทีผ่านมา น่าจะไม่ได้หักเอาไว้ จ่ายเต็มที่ 30000 เลย ดังนั้น เลยอาจจะต้องมาหักย้อนหลังนะจ้ะ
เรา : ค่ะ หักเท่าไหร่คะพี่ (ชื่อ ผจก)
ผจก : พี่ไม่ทราบ แต่เด๋วพี่เช็คให้นะจ้ะ
ทุกคนลองคิดตามค่ะ เราทำงาน 1 ปี 1 เดือน แล้วเค้าจะหักประกันสังคมเราย้อนหลัง นั่นเท่ากับ 750 X 13 = 9,750 แล้วถ้าเราทำงาน 5 ปีหละ แล้วคุณไม่หักประกันสังคมให้เราอะ ตามจ่ายย้อนหลังจนหมดตัวเลยมั้ยนั่น งงมั้ยทุกคน การทำงานของบริษัทนี้..... ยังไม่นับเรื่องภาษีอีก
แน่นอนว่าทุกคนคงเดาได้แล้วว่าจะเกิดอะไรต่อไป ก็เงียบหายค่ะ ไม่ได้รับเงินอะไรทั้งนั้น วันที่ 28 ม.ค. 62 เราจึงไลน์ไปถามบัญชีของบริษัทค่ะ แต่จังหวะที่เค้าโทรไลน์หาเรา เราติดธุระเลยรับไม่ได้ แปปเดียวเท่านั้นพอเค้าวางไปเรารีบโทรกลับเลยค่ะ แล้วเค้าก็ไม่รับสายเราค่ะ เราโทรสองครั้งก็ไม่รับทั้งสองครั้งค่ะ เมื่อวานวันที่ 4 ก.พ. 62 ที่ผ่านมาสดๆร้อนๆ เราก็โทรไปถามพี่บัญชีอีกค่ะ คำตอบที่ได้รับคือ “จะโทรกลับมาหา” แน่นอนในแน่นอนที่สุด ทุกคนคงเดาได้ว่า....ใช่ค่ะ เงียบหาย......
โดยพื้นเพบริษัทเนี่ย เป็น SME ที่ไม่ค่อยมั่นคงอยู่แล้วค่ะ ไม่มีสลิปเงินเดือน ไม่มีใบเซ็นต์ลาออกงานของเราแน่ๆ เพราะตอนเราออก เราเดินออกมาเลย เค้าไม่ได้ให้เซ็นต์ใบอะไรทั้งนั้น และที่สำคัญ...ล่าสุด เราเช็คกับประกันสังคมว่าบริษัทส่งเงินให้เรามั้ย เค้าแจ้งว่า ส่งให้ถึงเดือน สิงหาคม 61 เท่านั้นค่ะ
ส่วนคำถามสำคัญคือ เราควรทำยังไงต่อไปดีคะ รอให้ครบสามเดือนแล้วค่อยแจ้งกรมแรงงาน ดำเนินคดีตามกฎหมายไปเลย มันจะไม่สายไปใช่มั้ยคะหรือว่าจะแจ้งเลยตอนนี้ดีค่ะ แล้วทุกคนคิดว่าทางบริษัทตั้งใจจะเบี้ยวค่าชดเชยรึเปล่าคะ เราเองไม่รู้ว่าภายในบริษัทเค้าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้เราเครียดมากๆค่ะ เป็นคนทวงมันเครียดนะคะ ไม่มีอะไรเป็นหลักได้เลยว่าเราจะได้เงินมั้ย สถานะก็ขึ้นว่าลาออกเอง มันคงไม่มีใครอยากมีเรื่องกับใครหรอกค่ะ มันใช้ทั้งเวลา เงิน และสภาพจิตใจเราก็แย่ลงทุกวันๆค่ะ อยากจะเดินหน้ามูฟออนต่อไปแล้ว แต่ก็ยังมีเรื่องนี้แว้บมาให้เครียดได้ทุกวันๆเลยค่ะ รบกวนขอคำปรึกษาทีนะคะ
โดนให้ออกจากงานยังไม่เท่าไหร่ แต่จนตอนนี้ยังไม่ได้เงินชดเชยเลย ทำยังไงดีคะ?
เรื่องมีอยู่ว่า วันที่ 7 พ.ย. 2561 ผู้จัดการแจ้งเราว่า จะให้เราออกจากงานสิ้นปีค่ะ ซึ่งตอนนั้นเราก็ช็อคมากนะคะ เค้าบอกเราว่า ทางบริษัทไม่ได้ออกผลิตภัณฑ์ใหม่แล้ว เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจไม่เอื้อ โครงการทั้งหมดจึงต้องพับไป ไม่มีงานให้เราทำแล้ว เราเริ่มงานกับบริษัทนี้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2560 บริษัทนี้จะทำเว็บไซต์เกี่ยวกับความงาม ส่วนธุรกิจหลักเป็นคลินิคเสริมความงามค่ะ ตำแหน่งของเราเป็นดีไซน์เนอร์ เงินเดือน 30,000 บาท ไม่มีโอทีหรือสวัสดิการอะไรอีก นอกจากประกันสังคมค่ะ
ตัดกลับมาหลังจากที่แจ้งเราว่าจะให้เราออกสิ้นปี ภายในเดือน พ.ย. วันที่ 31 ผู้จัดการก็เดินมาบอกเราว่าให้เราออกเลยวันนั้นและมีผลวันนั้นเลยค่ะ เย็นวันนั้นก็เก็บของกลับบ้านเลยแบบงงๆ โดยทางผู้จัดการก็บอกกับเราว่าทางบริษัทจะจ่ายชดเชยให้ 3 เดือน เท่าเงินเดือนตามกฎหมาย เราก็โอเคตกลงตามนั้น แต่หายนะได้บังเกิดขึ้นค่ะ หลังจากนั้นวันที่ 13 ธ.ค. 2561 เราได้เริ่มยื่นเรื่องจะประกันตนเอง แล้วทางประกันสังคมแจ้งเราว่า ระบบลงว่าเรา “ลาออก” เองค่ะ อ่านไม่ผิดค่ะ ระบบแจ้งว่าเรา “ลาออก” เองค่ะ เราเลยโทรไปหาพี่ที่ออฟฟิสเลยค่ะ เราก็คิดในแง่ดีว่า เค้าคงจะประสานงานกันผิดพลาด พี่เค้าก็บอกว่าจะรับเรื่องไว้ แล้วเดี๋ยวจะไปประสานงานให้กับพนักงานที่ลงสถานะให้เรา ใครที่ทำงานออฟฟิสคงจะทราบดีกันอยู่แล้วนะคะว่า ถ้าเราโดนให้ออก เราจะได้เงินชดเชยว่างงาน 50% ของเงินเดือน แต่ถ้าเราลาออกเอง เราจะได้รับเงินชดเชยว่างงาน 30% แล้วนอกจากนี้เราจะเรียกร้องเงินค่าชดเชยยากมากขึ้นด้วย เพราะตามกฎหมายแล้ว แน่นอนว่า ถ้าเราออกเอง เราก็จะไม่ได้ค่าชดเชย แต่ทางบริษัทก็บอกเราว่าเค้าจะจ่ายให้เอง เรื่องนี้จึงสำคัญค่ะ ต้องทราบให้แน่ชัดว่าเราออกงานในรูปแบบใด
หลังจากนั้นทางบริษัทโทรมาบอกเราว่า สถานะออกงานแจ้งแล้วเปลี่ยนไม่ได้ ถ้าแจ้งเปลี่ยนจะเสียประวัติ เสียทั้งทางบริษัทและทางเรา เราก็เลยสงสัยมากค่ะ ว่าเราจะเสียประวัติยังไง แล้วเรายังต้องกลัวเสียประวัติอีกหรอ เพราะที่เสียเวลาทวงถาม ทวงสิทธิ์ของเราเนี่ย เรื่องอื่นที่จะเสียก็เป็นเรื่องเล็กแล้วค่ะ ก็เลยโทรถามกรมแรงงานเลยค่ะ ทางกรมบอกว่าสามารถเปลี่ยนได้ไม่มีใครเสียประวัติทั้งนั้นค่ะ เราก็เลยโทรไปบอกทางบริษัทว่ามันเปลี่ยนได้นะคะ ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเราเองจะเสียสิทธิ์ที่จะได้เงินชดเชย 50% นั้นไป ท้ายที่สุด ผู้จัดการโทรมาหาเรา แล้วบอกเราว่า ถ้าแจ้งเปลี่ยนเนี่ยบริษัทเค้าจะโดนตรวจสอบแล้วเราก็จะเสียประวัติไปด้วย เราก็เออ อะ ตามนั้นก็ได้ นอกจากนี้เค้ายังขอผ่อนค่าชดเชยค่ะ แบ่งออกเป็น 3 งวด แปลว่าเค้าจะต้องจ่ายทุกสิ้นเดือนของเดือน ธันวาคม มกราคม และกุมภาพันธ์ ซึ่งในวันนั้นที่คุยตกลงกันเป็นวันที่ 25 ธ.ค. 2561 ยังไม่ได้เงินซักงวดค่ะ ได้มาเฉพาะเงินเดือนเดือนสุดท้ายที่ทำงาน นี่ยังไม่นับค่าตกใจที่เค้าจะต้องให้เรา ตอนนั้นเราก็เริ่มปลงๆแล้วค่ะ เพราะเงินชดเชยยังไม่จ่ายเลยจะต้องมาทวงค่าตกใจอีกนี่ คงจะยากมากค่ะ ก็เลยเอาแต่ค่าชดเชยก็ได้ว่ะ จบเรื่องสถานะออกงานไป มันก็ยังมีเรื่องอีกค่ะ
หลังจากนั้นต่อมาก็ยังคงไม่ได้เงินวนไปค่ะ วันที่ 15 ม.ค. 2562 เราจึงไลน์ไปทวงค่ะ แล้วพี่เค้าก็แจ้งเรามาว่า “เรื่องเงินอยู่ระหว่างดำเนินการค่ะ และทางบริษัทแจ้งมาว่าจะมีหักภาษี-ประกันสังคมย้อนหลังของปี 61 ด้วยนะคะ” คราวนี้งงหนักเลยค่ะ ถึงกับต้องถามว่า "โดยปกติแล้วประกันสังคมจะต้องหักจ่ายให้เราทุกเดือนก่อนจ่ายเงินเดือนให้เราอยู่แล้วนี่คะ” แล้วพี่เค้าก็เงียบไปค่ะ ไม่ได้ตอบเราเลย วันที่ 18 ม.ค. 62 เราเลยไลน์ไปถามผู้จัดการเลยค่ะผู้จัดการตอบกลับมาว่า (ตอนแรกจะโพสต์รูปแต่เกิดความผิดพลาดบางประการขึ้น ขออนุญาตพิมพ์เอานะคะ)
ผจก : ปกติ (ชื่อเรา) ได้รับเงินเดือนเต็ม ไม่ได้หักภาษี และประกันสังคมเลย ถูกต้องไหมจ้ะ
เรา : (ชื่อเรา) ก็ไม่ทราบค่ะ เพราะทางบริษัทไม่ได้แจ้งอะไรเป็นลายลักษณ์อักษร สลิปเงินเดือนก็ไม่มีค่ะ เข้าใจว่าทางบริษัทชำระให้มาตลอดค่ะ เพราะปกติทางบริษัทจะต้องหักให้อยู่แล้ว
ผจก : พี่ไม่เห็นตอนเงินเดือนเข้า แต่ว่าทีผ่านมา น่าจะไม่ได้หักเอาไว้ จ่ายเต็มที่ 30000 เลย ดังนั้น เลยอาจจะต้องมาหักย้อนหลังนะจ้ะ
เรา : ค่ะ หักเท่าไหร่คะพี่ (ชื่อ ผจก)
ผจก : พี่ไม่ทราบ แต่เด๋วพี่เช็คให้นะจ้ะ
ทุกคนลองคิดตามค่ะ เราทำงาน 1 ปี 1 เดือน แล้วเค้าจะหักประกันสังคมเราย้อนหลัง นั่นเท่ากับ 750 X 13 = 9,750 แล้วถ้าเราทำงาน 5 ปีหละ แล้วคุณไม่หักประกันสังคมให้เราอะ ตามจ่ายย้อนหลังจนหมดตัวเลยมั้ยนั่น งงมั้ยทุกคน การทำงานของบริษัทนี้..... ยังไม่นับเรื่องภาษีอีก
แน่นอนว่าทุกคนคงเดาได้แล้วว่าจะเกิดอะไรต่อไป ก็เงียบหายค่ะ ไม่ได้รับเงินอะไรทั้งนั้น วันที่ 28 ม.ค. 62 เราจึงไลน์ไปถามบัญชีของบริษัทค่ะ แต่จังหวะที่เค้าโทรไลน์หาเรา เราติดธุระเลยรับไม่ได้ แปปเดียวเท่านั้นพอเค้าวางไปเรารีบโทรกลับเลยค่ะ แล้วเค้าก็ไม่รับสายเราค่ะ เราโทรสองครั้งก็ไม่รับทั้งสองครั้งค่ะ เมื่อวานวันที่ 4 ก.พ. 62 ที่ผ่านมาสดๆร้อนๆ เราก็โทรไปถามพี่บัญชีอีกค่ะ คำตอบที่ได้รับคือ “จะโทรกลับมาหา” แน่นอนในแน่นอนที่สุด ทุกคนคงเดาได้ว่า....ใช่ค่ะ เงียบหาย......
โดยพื้นเพบริษัทเนี่ย เป็น SME ที่ไม่ค่อยมั่นคงอยู่แล้วค่ะ ไม่มีสลิปเงินเดือน ไม่มีใบเซ็นต์ลาออกงานของเราแน่ๆ เพราะตอนเราออก เราเดินออกมาเลย เค้าไม่ได้ให้เซ็นต์ใบอะไรทั้งนั้น และที่สำคัญ...ล่าสุด เราเช็คกับประกันสังคมว่าบริษัทส่งเงินให้เรามั้ย เค้าแจ้งว่า ส่งให้ถึงเดือน สิงหาคม 61 เท่านั้นค่ะ
ส่วนคำถามสำคัญคือ เราควรทำยังไงต่อไปดีคะ รอให้ครบสามเดือนแล้วค่อยแจ้งกรมแรงงาน ดำเนินคดีตามกฎหมายไปเลย มันจะไม่สายไปใช่มั้ยคะหรือว่าจะแจ้งเลยตอนนี้ดีค่ะ แล้วทุกคนคิดว่าทางบริษัทตั้งใจจะเบี้ยวค่าชดเชยรึเปล่าคะ เราเองไม่รู้ว่าภายในบริษัทเค้าเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนี้เราเครียดมากๆค่ะ เป็นคนทวงมันเครียดนะคะ ไม่มีอะไรเป็นหลักได้เลยว่าเราจะได้เงินมั้ย สถานะก็ขึ้นว่าลาออกเอง มันคงไม่มีใครอยากมีเรื่องกับใครหรอกค่ะ มันใช้ทั้งเวลา เงิน และสภาพจิตใจเราก็แย่ลงทุกวันๆค่ะ อยากจะเดินหน้ามูฟออนต่อไปแล้ว แต่ก็ยังมีเรื่องนี้แว้บมาให้เครียดได้ทุกวันๆเลยค่ะ รบกวนขอคำปรึกษาทีนะคะ