รอยส์ - เกิตเซ่อ คู่หูพาดอร์ทมุนด์ก้าวสู่ฝัน

ในนาทีนี้ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค กำลังเร่งเครื่องทำแต้มไล่บี้จ่าฝูงอย่างโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แบบไม่ยอมให้ทิ้งห่างเพื่อทวงบัลลังก์แชมป์บุนเดสลีกาให้ได้อีกสมัย นับเป็นสถานการณ์ที่ช่วยทวีความตื่นเต้นเร้าใจให้ทุกสัปดาห์ของศึกบุนเดสลีกาเข้มข้นยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อดูทีม “เสือเหลือง” ของลูเซียง ฟาฟร์แล้วก็ไม่ได้มีอาวุธลับอะไรมากมายไปกว่าแข้งซีเนียร์ของทีมที่กำลังระเบิดฟอร์มสุดยอด ซึ่งก็คือ มาร์โค รอยส์ และ มาริโอ เกิตเซ่อ


ทั้งสองเป็นคู่หูกันทั้งในและนอกสนาม และกำลังฟิตเต็มร้อยกันทั้งคู่ แถมยังเล่นเกมบุกได้เข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ย

ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ดาวรุ่งทั้งสองลงเล่นให้ดอร์ทมุนด์พร้อมกันเป็นครั้งแรก ทั้งคู่ประสานพลังถล่มคู่แข่งกันแบบสนุกเท้าจนฟรันซ์ เบ็คเคนเบาเออร์ ตำนานแข้งอินทรีเหล็กถึงกับต้องเอ่ยปากชมอย่างประทับใจ


“บาร์เซโลน่ามีสามทหารเสือ ลิโอเนล เมสซี่ อันเดรส อิเนียสตา และ ชาบี แต่ดอร์ทมุนด์ก็มีคู่หูดูโอ้สุดคลาสสิกที่ไม่มีใครเทียบได้อย่าง รอยส์ และ เกิตเซ่อ ผมประทับใจผลงานที่พวกเขาฉีกอายักซ์เป็นชิ้นๆ ในยูเอฟ่า แชมเปียนส์ลีกที่อัมสเตอร์ดัม” เบ็คเคนเบาเออร์ กล่าวกับหนังสือพิมพ์ “บิลด์” เมื่อปี 2012

กลับมามองผลงานปัจจุบัน การประสานงานของสองดูโอ้ยังคงทรงประสิทธิภาพเหมือนเดิม โดยทั้งคู่มีชื่อเป็นผู้ทำประตูในชัยชนะ 5-1 ประตูเหนือฮันโนเวอร์ นับเป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปีที่ทั้งสองยิงประตูได้ในเกมเดียวกัน (นัดสุดท้ายที่ทำได้คือเกมที่บุกไปถล่มแวร์เดอร์ เบรเมน 0-5 ในปี 2013) โดยในปี 2013 เกิตเซ่อตัดสินใจย้ายไปเล่นให้บาเยิร์นอยู่ 3 ปี ก่อนที่จะกลับมาซบอกดอร์ทมุนด์อีกครั้งในปี 2016 แต่เขาต้องเจอปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่เสมอ สตาร์วัย 26 ได้โอกาสลงเล่นเพียงแค่ 46 นัดจากเกมลีกทั้งหมด 87 นัด ซึ่งเป็นเรื่องบังเอิญสุดๆ ที่รอยส์ก็ได้โอกาสลงเล่นเท่ากันพอดีเป๊ะ! กล่าวคือทั้งคู่ไม่ค่อยจะมีโอกาสลงเล่นพร้อมกันสักเท่าไหร่นั่นเอง


มาวันนี้เรื่องแย่ๆ ก็กลายเป็นแค่ฝันร้าย รอยส์ กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มเข้าฝักที่สุดในชีวิต ถึงตอนนี้กัปตันทีม “เสือเหลือง” ทำไปแล้ว 12 ประตูกับ 7 แอสซิสต์ โดยที่ในนัดล่าสุดที่เอาชนะฮันโนเวอร์เจ้าตัวก็ระเบิดฟอร์มทั้งยิงทั้งจ่ายอย่างละหนึ่งลูก เกิตเซ่อกล่าวถึงรอยส์หลังจบเกมว่า “มาร์โคคือนักเตะมหัศจรรย์ มีคุณภาพสูงและทำเกมบุกได้อย่างน่ากลัว เขาพร้อมรับบอลจากเพื่อนเสมอ คอยช่วยทีมเสมอ และเป็นส่วนสำคัญของทีมเราโดยเฉพาะในแนวรุก นั่นคือสิ่งสำคัญ มันดีจริงๆ ที่มีเขาอยู่ในทีมและสวมปลอกแขนกัปตัน ความสามารถอันสุดยอดของเขานั้นไม่มีใครเทียบได้เลย”

ส่วน เกิตเซ่อ นั้นก็น่าชื่นชมในความพยายามต่อสู้จนกลับมาเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงได้สำเร็จ ปล่อยให้ ปาโก้ อัลกาเซร์ ต้องตกไปนั่งสำรอง ซึ่งเขาก็ได้ตอบแทนความเชื่อมั่นที่ได้รับจากฟาฟร์แบบทันควันด้วยประตูในเกมลีกนัดล่าสุด

แม้เส้นทางสู่บัลลังก์แชมป์จะยังอีกยาวไกล แต่ด้วยผลงานของสองคู่หูดูโอ้ในนาทีนี้ ต้องยอมรับแล้วล่ะว่า เบ็คเคนเบาเออร์ พูดไม่ผิด...

credit : www.siamsport.co.th
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่