คณิตศาสตร์การเลือกตั้งกับกติกาการเลือกตั้งปี 62
การได้มาซึ่งสสแบบแบ่งเขตและสสแบบบัญชีรายชื่อ คำนวณได้จาก
P/500 = K
เมื่อ P คือจำนวนผู้ ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
K คือ จำนวนคะแนนสียงเฉลี่ยสส ต่อ 1 ท่าน
A/K = a
เมื่อ A คือ คะแนนเสียงทั้งหมดของพรรค ก.
a คือจำนวนสสของพรรค ก. ที่พึงได้
a-x = n …..(1)
เมื่อ x คือจำนวนสส แบบแบ่งเขต ของพรรค ก.
n คือจำนวนสสแบบบัญชีรายชื่อของพรรค ก.
จาก(1) จะได้
A =Kx+Kn
พิจารณาจากการเลือกตั้งจริง
A=sumX + sumF
เมื่อ sumX คือผลรวมคะแนนเสียงของสสแบบแบ่งเขต ทั้งหมด ของพรรค ก.
sumF คือผลรวมคะแนนเสียงของสสสอบตกของพรรค ก.
พิจารณาเทอมของ sumX
sumX/Kx= n(x)
เมื่อ n(x) คือจำนวนสสแบบบัญชีรายชื่อของพรรค ก. คิดจากคะแนนเสียงของสสแบบแบ่งเขตของพรรค ก.
จะเห็นได้ว่า sumX จะต้องมีคะแนนมาก เป็นเท่าตัวของKx ถึงจะได้ จำนวนสสแบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งในการเลือกตั้งจริงมันเป็นไปได้ยาก ถ้ามีสสแบบแบ่งเขตแล้วจะมีสสแบบบัญชีรายชื่อเพิ่ม นั้นคือ ค่าของ n(x) > หรือ = 1 ซึ่งโอกาสเป็นไปได้น้อยมาก นอกเสียจากทุกๆเขตที่ได้สสแบบแบ่งเขตจะชนะคู่แข่งอย่างถล่มถลาย แต่ถ้าค่าของ n(x) < 1 จะส่งผลค่าของ A ลดน้อยลงด้วย ดังนี้
A = sumF – [ 1 – n(x)]Kx
นั้นคือถ้าค่าของ n(x) น้อยกว่า 1 มากๆ จะส่งผลให้ค่าของ A น้อยลงไปมากด้วย
พิจารณาเทอมของ sumF
SumF/K = n(f)
เมื่อ n(f) คือจำนวนสสแบบบัญชีรายชื่อของพรรค ก. ที่คิดจากคะแนนเสียงของสสสอบตก
จะเห็นได้ว่า จำนวนสสแบบบัญชีรายชื่อที่ได้จากคะแนนเสียงของสสสอบตก จะได้มาง่ายกว่าเพราะถ้า sumF มีมากเป็นจำนวนเท่าของค่า K ก็จะได้จำนวนสสแบบบัญชีรายชื่อตามจำนวนเท่าของค่า K
สรุปแล้วถ้าพรรคไหนที่มีสสแบบแบ่งเขตมีจำนวนมากแล้วจะได้สสแบบบัญชีรายชื่อได้ยาก
ถ้าท่านคือนักเลือกตั้ง ท่านจะแข่งขันอย่างไรกับการเลือกตั้งกับกติกานี้
สำหรับผม ผมจะสร้างพรรคนอมินีขึ้นมาอีกหนึ่งพรรค เป็นพรรค ก1 และพรรค ก2 ถ้าชอบสสแบบแบ่งเขตของพรรค ก1 ก็ให้เลือกผู้สมัครของพรรค ก1 ไปเลยแต่ถ้าไม่ชอบผู้สมัครของพรรค ก1 แต่ยังชอบพรรค ก1 อยู่ก็ให้เลือกผู้สมัครของพรรค ก2 เพื่อเพิ่มสสแบบบัญชีรายชื่อให้กับพรรค ประกาศไปเลยว่าพรรค ก1กับพรรค ก2 คือพรรคเดียวกัน หรือหาพันธมิตรร่วมแล้วประกาศไปเลยว่า พรรค ก. กับพรรค ข. เป็นพรรคพันธมิตรร่วมกัน
คณิตศาสตร์การเลือกตั้งกับกติกาการเลือกตั้งปี 62
การได้มาซึ่งสสแบบแบ่งเขตและสสแบบบัญชีรายชื่อ คำนวณได้จาก
P/500 = K
เมื่อ P คือจำนวนผู้ ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
K คือ จำนวนคะแนนสียงเฉลี่ยสส ต่อ 1 ท่าน
A/K = a
เมื่อ A คือ คะแนนเสียงทั้งหมดของพรรค ก.
a คือจำนวนสสของพรรค ก. ที่พึงได้
a-x = n …..(1)
เมื่อ x คือจำนวนสส แบบแบ่งเขต ของพรรค ก.
n คือจำนวนสสแบบบัญชีรายชื่อของพรรค ก.
จาก(1) จะได้
A =Kx+Kn
พิจารณาจากการเลือกตั้งจริง
A=sumX + sumF
เมื่อ sumX คือผลรวมคะแนนเสียงของสสแบบแบ่งเขต ทั้งหมด ของพรรค ก.
sumF คือผลรวมคะแนนเสียงของสสสอบตกของพรรค ก.
พิจารณาเทอมของ sumX
sumX/Kx= n(x)
เมื่อ n(x) คือจำนวนสสแบบบัญชีรายชื่อของพรรค ก. คิดจากคะแนนเสียงของสสแบบแบ่งเขตของพรรค ก.
จะเห็นได้ว่า sumX จะต้องมีคะแนนมาก เป็นเท่าตัวของKx ถึงจะได้ จำนวนสสแบบบัญชีรายชื่อ ซึ่งในการเลือกตั้งจริงมันเป็นไปได้ยาก ถ้ามีสสแบบแบ่งเขตแล้วจะมีสสแบบบัญชีรายชื่อเพิ่ม นั้นคือ ค่าของ n(x) > หรือ = 1 ซึ่งโอกาสเป็นไปได้น้อยมาก นอกเสียจากทุกๆเขตที่ได้สสแบบแบ่งเขตจะชนะคู่แข่งอย่างถล่มถลาย แต่ถ้าค่าของ n(x) < 1 จะส่งผลค่าของ A ลดน้อยลงด้วย ดังนี้
A = sumF – [ 1 – n(x)]Kx
นั้นคือถ้าค่าของ n(x) น้อยกว่า 1 มากๆ จะส่งผลให้ค่าของ A น้อยลงไปมากด้วย
พิจารณาเทอมของ sumF
SumF/K = n(f)
เมื่อ n(f) คือจำนวนสสแบบบัญชีรายชื่อของพรรค ก. ที่คิดจากคะแนนเสียงของสสสอบตก
จะเห็นได้ว่า จำนวนสสแบบบัญชีรายชื่อที่ได้จากคะแนนเสียงของสสสอบตก จะได้มาง่ายกว่าเพราะถ้า sumF มีมากเป็นจำนวนเท่าของค่า K ก็จะได้จำนวนสสแบบบัญชีรายชื่อตามจำนวนเท่าของค่า K
สรุปแล้วถ้าพรรคไหนที่มีสสแบบแบ่งเขตมีจำนวนมากแล้วจะได้สสแบบบัญชีรายชื่อได้ยาก
ถ้าท่านคือนักเลือกตั้ง ท่านจะแข่งขันอย่างไรกับการเลือกตั้งกับกติกานี้
สำหรับผม ผมจะสร้างพรรคนอมินีขึ้นมาอีกหนึ่งพรรค เป็นพรรค ก1 และพรรค ก2 ถ้าชอบสสแบบแบ่งเขตของพรรค ก1 ก็ให้เลือกผู้สมัครของพรรค ก1 ไปเลยแต่ถ้าไม่ชอบผู้สมัครของพรรค ก1 แต่ยังชอบพรรค ก1 อยู่ก็ให้เลือกผู้สมัครของพรรค ก2 เพื่อเพิ่มสสแบบบัญชีรายชื่อให้กับพรรค ประกาศไปเลยว่าพรรค ก1กับพรรค ก2 คือพรรคเดียวกัน หรือหาพันธมิตรร่วมแล้วประกาศไปเลยว่า พรรค ก. กับพรรค ข. เป็นพรรคพันธมิตรร่วมกัน