เบื้องต้นทราบมาว่า ทรูได้ขายหนี้เสียเหล่านี้ ให้กับ บริษัทที่รับมอบหมาย เหมาหนี้ราคาถูก ๆ แล้วเอาไปบริหารจัดการทวงเอง จริง ๆ แล้วการที่ลูกค้าแจ้งที่จะยกเลิกใช้บริการจากทรู และได้มีการเคลียร์หนี้ทั้งหมดก่อนจะปิดบริการไป ทันทีที่หันหลังออกไป ตามหลักแล้วก็ถือว่าได้เคลียร์กันจบ แต่ไม่จบ กลับมีจดหมายติดตามจากบริษัทที่ซื้อข้อมูลเหล่านั้นไปจากทรูมากำเนินการต่อ อายุความหนี้มีอายุความทางแพ่ง 2 ปี แต่ก็ใช้ช่องว่างนี้หากินกับประชาชน น่าจะมีหน่วยงานใดเข้าไปดูบริษัทที่รับติดตามหนี้พวกนี้ที ส่วนทรูนอกจากยกหนี้บางส่วนออกไปจากตัวเองได้ แต่ก็ต้องแลกกับสิ่งที่จะตามมาคือ ความไม่พอใจของลูกค้า ผลกระทบคือ โดนยกเลิกรัว ๆ ยกแพ็ค วิธีแก้คือ ทรูควรจะมีระบบตรวจสอบลูกค้าให้ชัดเจน หนี้เก่า หนี้ใหม่ ต้องตอบได้ทันที ก่อนลูกค้าจะยกเลิกบริการ เพื่อไม่ให้กระทบตามมาย้อนหลังแบบนี้ การที่ทรูส่งใบแจ้งเตือนผ่านบริษัทพวกนี้ ไม่มีลูกค้าคนไหนพอใจแน่นอน บางคนได้รับจดหมายเตือนที่ทำงานก็มี ทาง กสทช. ก็ออกมาบอกว่าให้เก็บบิลไว้อย่างน้อย 2 ปี ซึ่งไม่น่าจะใช่วิธีที่เหมาะสมกับยุค 4.0 เท่าไรนัก ใครจะมานั่งเก็บกระดาษ 2 ปี แล้วไม่ใช่มีแค่บิลเดียว ทางแก้หลังจากนี้เวลาจ่ายอะไรคงต้องใช้บัตรเครดิตรูดอย่างเดียวละมั้ง ถึงจะได้มีประวัติการจ่ายเงินย้อนหลัง ลองดูคลิปศึกษาประกอบครับ จะได้เอาไว้รับมือ
1. ไหน ๆ เข้ามาแล้ว มาดูซิว่าใครใช้เน็ตบริษัทไหนกันมั่ง เผื่อผู้บริหารจะได้ตาสว่างกันซักที
คุณลืมตอบคำถามที่ * จำเป็นต้องตอบ
ทรู ส่งจดหมายทวงหนี้ย้อนหลังผ่านสำหนักงานกฏหมาย