[CR] เรื่องเล่าจากลาดักห์ 5 (My tales from Ladakh part 5)

กลับมาอีกครั้งครับ หลังจากห่างหายไปจากเรื่องเล่าจากลาดักห์ร่วมปี ช่วงนี้ว่างแล้ว จะมาเขียน (พิมพ์) รีวิวการท่องเที่ยวเลห์-ลาดักห์ในครั้งนั้นให้ถึงจุดหมายปลายทางเสียที ความเดิมตอนที่แล้วจบตอนที่เราเดินทางไปพักค้างคืนที่ทะเลสาบปันกองครับ ตอนนี้ก็จะเริ่มจากเช้าวันรุ่งขึ้น ณ ที่พักริมทะเลสาบปันกองต่อไปเลยละกัน สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่าน หรือเคยอ่านแล้วแต่จำไม่ค่อยได้ (เพราะผมทิ้งไปเสียนาน) ลองอ่านย้อนตามลิ้งค์ด้านล่างนี้ได้เลยนะครับ
เรื่องเล่าจากลาดักห์ Part 1
https://pantip.com/topic/36796356
เรื่องเล่าจากลาดักห์ Part 2
https://pantip.com/topic/36806805
เรื่องเล่าจากลาดักห์ Part 3
https://pantip.com/topic/36843966
เรื่องเล่าจากลาดักห์ Part 4
https://pantip.com/topic/37600818

6. Say Bye to Pangong and say Hi! to Marmot
สรุปแล้วคืนนั้นคงไม่มีใครได้ออกไปถ่ายดาวหรอกครับ เพราะผมแว่วๆ เสียงฝนพรำอยู่เป็นระยะ (ไม่แน่นะ ผมอาจละเมอไปเองก็ได้ ตื่นมาก็ไม่ได้คุยกับใครเรื่องนี้ด้วย) หลังจากจบมื้อเช้าฉบับง่ายๆ ของทีมพ่อครัวของที่พัก เราก็เตรียมเดินทางกลับที่พักของเราที่เมืองเลห์ ก่อนจากกันก็มีการร่ำลาและถ่ายรูปกันเล็กน้อยกับทีมงานของแค้มป์ที่ดูแลเราเป็นอย่างดี ออกจากที่พักมา เรามุ่งหน้าไปที่ริมทะเลสาบเพื่อจะไปเก็บภาพกันเป็นที่ระลึก ระหว่างทางนั้นรถแล่นผ่านคอกแพะพัชมีนาของชาวบ้านด้วย เราเลยถือโอกาสแว้บลงไปถ่ายรูปกันสักหน่อย มันอยู่ในคอกอย่างนั้น หนีเราไม่ได้แน่ๆ 555 คอกของพวกมันทำจากหินครับ เหมือนเอาก้อนหินมาวางเรียงๆ ซ้อนกัน ไม่แน่ใจว่ายึดติดกันด้วยอะไรหรือเปล่า หรืออาจจะวางเรียงซ้อนกันเฉยๆ ผมเองก็ไม่กล้าลองขยับดู กลัวว่าถ้ามันไม่ได้มีอะไรยึดกันไว้ จะพลอยไปทำให้หินร่วงลงมาได้ ระดับความสูงของรั้วก็ไม่สูงมากนัก ประมาณช่วงเอวหรือลิ้นปี่ของผมเท่านั้น แต่มันก็สูงพอที่จะกันไม่ให้พวกพัชมีน่าออกไปเดินเตร็ดเตร่ที่ไหนได้ พอเราเข้าไปใกล้ ปรากฏว่าพวกมันไม่ยักตื่นกลิ่นผู้มาเยือน หนำซ้ำบางตัวกลับพุ่งเข้ามาหา เหมือนคิดว่าเราจะเอาอาหารมาให้ ทำตาใสๆ ซื่อๆ เหมือนแพะไร้เดียงสา แต่เราก็ไม่ได้ให้อะไรมันกินหรอกครับ ให้ซี้ซั้วเดี๋ยวมันเป็นอะไรขึ้นมา ความซวยอาจมาเยือน

บริเวณโดยรอบที่พักของเราในยามเช้าครับ






ส่วนนี่ พ่อครัวของที่พัก เรื่องฝีมือ จัดว่าใช้ได้เลย


บรรดาเหล่าพัชมีน่าในรั้วหิน หน้าตาบ้องแบ๊วกันทั้งนั้น




อยู่ถ่ายรูปพัชมีน่าแป๊บเดียวเราก็ออกเดินทางต่อ เพราะตอนนั้นก็เกือบ 8 โมงเช้าแล้ว แดดเริ่มไล่มาแล้ว ผมดูๆ แล้ว แดดวันนี้ท่าจะรุนแรงไม่น้อยทีเดียว เหมือนจะอัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อวาน แต่ก็ดีไปอย่างนะครับ แดดจัด ฟ้าใส ถ่ายรูปออกมามันจะดูสวยกว่าฟ้าทึบๆแน่ๆ ฮัดซันจอดรถในบริเวณเดียวกับรถคันอื่นที่จอดอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งมันก็ค่อนข้างห่างจากชายฝั่งทะเลสาบพอควรเลย ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเขาห้ามไม่ให้เข้าไปจอดรถใกล้ๆชายฝั่งหรือเปล่า ผมก็ไม่ได้ถามซะด้วย ห่างหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก ยังหนุ่มยังแน่น ยังพอเดินไหว บริเวณนั้นมีม้าผูกไว้หลายตัว น่าจะเอาไว้บริการนักท่องเที่ยว แต่ก็ยังไม่เห็นใครไปขี่มันนะ อาจจะยังเช้าอยู่ก็ได้ พวกเราเดินพุ่งตรงไปที่ทะเลสาบ ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะแสงแดดยามเช้าหรือเปล่าที่ทำให้ “ปันกอง” ดูงามกว่าเมื่อเย็นวานเสียอีก หรืออาจจะเป็นเพราะมุมถ่ายรูปของเช้านี้มันสวยกว่าเมื่อวาน อืมมมม ก็ไม่น่าจะใช่นะ... ผมมองไปไกลๆ เห็นนักท่องเที่ยวบางกลุ่มเดินถ่ายรูปเล่นเหมือนๆ กับเรา ตรงที่พวกเขายืนอยู่ก็คงจะงามไม่แพ้กัน.. ในยามนั้น ผมคิดว่าไม่ว่ามุมไหนของ “ปันกอง” คงจะแลงามไปหมดแหละ บรรยกาศดีซะขนาดนี้

นี่แหละครับ ทะเลสาบปันกองในยามเช้า งดงามมาก โดยเฉพาะเวลาที่ต้องแสงแดด








ชื่อสินค้า:   Leh Ladakh
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่