คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
น้องน่าจะยังไม่เข้าใจ เรื่องเกรด ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ คนจบ4.00ไม่ใช่คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตหรือหน้าที่การงาน จะจบ2.75 หรือ 4.00 เกรดก็แค่กระดาษใบนึง ที่บริษัทเอามาดูตอนน้องสมัครงานแล้วก็โยนทิ้ง คนที่จะประสบความสำเร็จต้องมีคุณสมบัติหลายอย่าง
สิ่งที่น้องยังขาดแล้วพี่แนะนำในฐานะที่อายุมากกว่า1เท่า คือ น้องต้องมีความมั่นใจในตนเอง สิ่งที่เราไม่มั่นใจ ถ้าวันนี้เราเปลี่ยนไม่ได้เราต้องเปลี่ยนวิธีคิด ของเรา เพราะวิธีคิดของเราเป็นต้นทุนที่น้อยที่สุด
น้องต้องเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมคน ถึงเราจะมั่นใจว่าเราเก่ง ถ้าเราไม่อ่อนน้อมถ่อมตน สังคมไทยอยู่ยาก เพื่อนพี่เป็นสาว2และเกย์หลายคน บางคนก็เป็นอดีตดารา เคยแสดงหนังใหญ่ บางคนก็ขึ้นเวทีประกวดร้องเพลงดังตอนนี้ก็ยังอยู่ในวงการบันเทิง มีผลงานทั้งหนังทั้งละครทั้งเพลง ทั้งสองตัวอย่างที่พี่พูดมีเหมือนกันคือ ความอ่อนน้อมถ่อมตน และยอมรับคำติชมจากคนอื่น ถ้าไม่อ่อนน้อมสำหรับเค้าการจะยืนให้คนยอมรับในสมัยนั้นถือว่ายาก เพราะสิบกว่าปีก่อนการยอมรับในเพศไม่มากเท่าสมัยนี้ ขนาดขึ้นเวทีประกวดยังต้องแอ๊บแมนเลย
สุดท้ายสิ่งที่พี่หมายถึงไม่ใช่ให้กลับไปเรียนให้ดี เพราะพี่เห็นความประชดประชันในคำพูดของน้องเอง แต่ให้น้องทำสิ่งที่มีอยู่ให้ดีขึ้น เพื่อที่จะเป็นฐานกำลัง ที่ดีในอนาคต สิ่งที่มีอยู่ที่ดี ถ้าคิดว่ามีแค่เกรดเฉลี่ยก็ตามนั้น
เรื่องหาเงินถ้าไม่มีพื้นฐานที่ดีก็เล่นพนนต่อไปละกัน สมัยที่พี่เป็นที่ปรึกษาโครงการพัฒนาอาชีวะก็สิบปีได้ น้องเทียบวุฒิ ม.3 เปิดร้านข้าวมันไก่กับเพื่อน เดือนนึงรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 4,000 บาท พี่เลยให้คำปรึกษาด้านการวางแผนธุรกิจ การตลาด การควบคุมต้นทุน การคำนวนอื่นๆ น้องฟีดแบคมาว่ารายได้เพิ่มขึ้น เค้าเห็นต้นทุนเป็นสิ่งที่เค้าไม่เคยเห็น เงินของเค้ามีการใช้จ่ายที่ฉลาดขึ้น น้องคนนั้นอายุน้อยพอกับ จขกท.ในตอนนี้แต่พื้นฐานการทำธุรกิจของเค้าดีมาก พี่เชื่อว่าตอนนี้คงสบายไปแล้ว ย้อนกลับมามองดูตัวเองนะนะ พี่ไม่ได้พูดถึง
เกรดเฉลี่ย ไม่ใช่เพราะเกรดพี่ไม่ดีป.โทพี่จบ 3.8จากต่างประเทศ แต่พี่ลืมไปแล้วว่านอกจากสมัครงานเอาเกรดไปทำอะไรได้อีก ความรู้ต่างหากที่วัดว่าเราเก่งแค่ไหน สังคมที่เราสร้าง ความอ่อนน้อมถ่อมตน น้ำใจที่ให้เพื่อนฝูง พันธมิตรเรายามเดือดร้อน จิบเบียร์สักแก้ว แล้วต่อยอดทางธุรกิจ หรือคุยกับรุ่นน้องที่ชำนาญในเรื่องการเงิน ปรึกษาเรื่องกฎมายกับเพื่อนฝูง หาคำแนะนำจากเพื่อนสนิทด้านบัญชี สิ่งเหล่านี้ มันไม่ได้มาจากการเรียนอย่างเดียว เก่งคนเดียว มีแต่คนเราเราพลาด ลองเอาไปคิดดูนะ
สิ่งที่น้องยังขาดแล้วพี่แนะนำในฐานะที่อายุมากกว่า1เท่า คือ น้องต้องมีความมั่นใจในตนเอง สิ่งที่เราไม่มั่นใจ ถ้าวันนี้เราเปลี่ยนไม่ได้เราต้องเปลี่ยนวิธีคิด ของเรา เพราะวิธีคิดของเราเป็นต้นทุนที่น้อยที่สุด
น้องต้องเป็นคนอ่อนน้อมถ่อมคน ถึงเราจะมั่นใจว่าเราเก่ง ถ้าเราไม่อ่อนน้อมถ่อมตน สังคมไทยอยู่ยาก เพื่อนพี่เป็นสาว2และเกย์หลายคน บางคนก็เป็นอดีตดารา เคยแสดงหนังใหญ่ บางคนก็ขึ้นเวทีประกวดร้องเพลงดังตอนนี้ก็ยังอยู่ในวงการบันเทิง มีผลงานทั้งหนังทั้งละครทั้งเพลง ทั้งสองตัวอย่างที่พี่พูดมีเหมือนกันคือ ความอ่อนน้อมถ่อมตน และยอมรับคำติชมจากคนอื่น ถ้าไม่อ่อนน้อมสำหรับเค้าการจะยืนให้คนยอมรับในสมัยนั้นถือว่ายาก เพราะสิบกว่าปีก่อนการยอมรับในเพศไม่มากเท่าสมัยนี้ ขนาดขึ้นเวทีประกวดยังต้องแอ๊บแมนเลย
สุดท้ายสิ่งที่พี่หมายถึงไม่ใช่ให้กลับไปเรียนให้ดี เพราะพี่เห็นความประชดประชันในคำพูดของน้องเอง แต่ให้น้องทำสิ่งที่มีอยู่ให้ดีขึ้น เพื่อที่จะเป็นฐานกำลัง ที่ดีในอนาคต สิ่งที่มีอยู่ที่ดี ถ้าคิดว่ามีแค่เกรดเฉลี่ยก็ตามนั้น
เรื่องหาเงินถ้าไม่มีพื้นฐานที่ดีก็เล่นพนนต่อไปละกัน สมัยที่พี่เป็นที่ปรึกษาโครงการพัฒนาอาชีวะก็สิบปีได้ น้องเทียบวุฒิ ม.3 เปิดร้านข้าวมันไก่กับเพื่อน เดือนนึงรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 4,000 บาท พี่เลยให้คำปรึกษาด้านการวางแผนธุรกิจ การตลาด การควบคุมต้นทุน การคำนวนอื่นๆ น้องฟีดแบคมาว่ารายได้เพิ่มขึ้น เค้าเห็นต้นทุนเป็นสิ่งที่เค้าไม่เคยเห็น เงินของเค้ามีการใช้จ่ายที่ฉลาดขึ้น น้องคนนั้นอายุน้อยพอกับ จขกท.ในตอนนี้แต่พื้นฐานการทำธุรกิจของเค้าดีมาก พี่เชื่อว่าตอนนี้คงสบายไปแล้ว ย้อนกลับมามองดูตัวเองนะนะ พี่ไม่ได้พูดถึง
เกรดเฉลี่ย ไม่ใช่เพราะเกรดพี่ไม่ดีป.โทพี่จบ 3.8จากต่างประเทศ แต่พี่ลืมไปแล้วว่านอกจากสมัครงานเอาเกรดไปทำอะไรได้อีก ความรู้ต่างหากที่วัดว่าเราเก่งแค่ไหน สังคมที่เราสร้าง ความอ่อนน้อมถ่อมตน น้ำใจที่ให้เพื่อนฝูง พันธมิตรเรายามเดือดร้อน จิบเบียร์สักแก้ว แล้วต่อยอดทางธุรกิจ หรือคุยกับรุ่นน้องที่ชำนาญในเรื่องการเงิน ปรึกษาเรื่องกฎมายกับเพื่อนฝูง หาคำแนะนำจากเพื่อนสนิทด้านบัญชี สิ่งเหล่านี้ มันไม่ได้มาจากการเรียนอย่างเดียว เก่งคนเดียว มีแต่คนเราเราพลาด ลองเอาไปคิดดูนะ
แสดงความคิดเห็น
เป็นกะเทยสวยแต่มีปมกำลังมีปัญหามาช่วยแนะนำที
เราเป็นกะเทยอายุ17 เป็นคนสวยในรร.แต่มีปมที่ตาเขแต่.....เราสวยไงเราเราอยู่ห้อง1ด้วยเกรด3.9กว่า เรียนรร.ยอดนิยมเด็กหลายพัน คือความจริงไม่ค่อยมีคนกล้าล้อเราหรอกแต่เราก็จะรู้สึกมาๆถ้ามีคนพูด เอ้อลืมบอกทางบ้านเราสนับสนุนเต็มที่ไม่เคยว่าเรื่องเพศ เราค่อนข้างจะเป็นผญ.นะถึงสวยไงทัศนคติดีพอสมควร ดีจนทำให้กะเทยในม.พากันไม่ค่อยชอบเราเพราะอิจฉาหลายอย่าง เอ้อขอพูดเรื่องดีของชีวิตก่อนนะคะ เรามีนิสัยแบบผญ.ไม่เหมือนกะเทยเราน่ารักผช.จะจีบเยอะ ทำให้กะเทยคนอื่นไม่ชอบเรา แต่ก็ได้แต่ไม่ชอบเพราะเราไม่ได้ไปอ่อยใครเราเรียนดีแบบที่กะเทยคนอื่ืนทำไม่ได้ ถึงเราตาเขแต่เราน่ารักเรามีความสามารถเยอะกว่านางๆ ที่ไม่ชอบเราเลยไม่ค่อยมีกะเทยกล้ามาว่ามาล้อเรา เรื่องตาเข แต่เวลามีคนมาพูดเราจะรู้สึกมากเลยนานจะมีที แล้วด้วยความที่เราทั้งสายตาสั้นทั้งตาเขเลยเสียโอกาสในหลายเรื่องของงานรร. เลยได้แต่นั่งสวยๆไม่มีกะเทยคนไหนกล้าเหยียบ แต่ตอนนี้เราเล่นพนันเสียเพราะเราอยากหาเงินมาแก้ เรื่องสายตาเราอยากมีที่ยืนในรร.ที่เด่นที่ดีกว่านี้ให้สมกับความสามารถของเราแต่เราไม่มั่นใจเพราะตาเขถึงเราจะสวยกว่ากะเทยคนอื่นก็เถอะ บ้านเรฐานะกลางเราคิดการใหญ่อยาดทำตาทำหน้าใหม่ให้ปังกว่าเดิม โดยการเริ่มเล่นกานพนันออนไลน์ แล้วก็เสียๆมาปัญหาในใจมากมายอยากมีเงิน แต่ก็เสียตลอดหมดไปน่าจะเกือบแสนละ เงินจากที่พ่อแม่ให้คือเสียหมด ช่วงนี้เริ่มโทรมเพราะไม่มีเงินซื้อฮอร์โมน (เราสวยกว่าคนอื่นเพราะฮอร์โมน+เราตัวเล็กสูงแค่159หนัก46 แล้วแม่เราเป็นผญ.ที่สวยอยู่แล้ว) สุดท้ายเราอยากถามว่าเราควรทำไงเรารู้สึกเล่นการพนันคงไม่รุ่งแต่เราอยากมีเงินมาทำตาทำหน้าอยากมีจุดยืนที่ดีกว่านี้ (เราไม่เหมือนกะเทยคนอื่นนะผช.ไม่แกล้งเราเพราะเราวางตัวดีจะมีผช.มาจีบแบบความรักใสๆวับเรียนแบบจริงใจตลอดๆเพราะสภาพแวดล้อมที่ดีทำให้เราไม่ค่อยเจอเรื่องแย่ๆ) หรือตอนี้เราควรโฟกัสเรื่องเรียนเลิกเล่นการพนัน ไม่แคร์เรื่องตาเขเพราะยังไงก็สวยหรอ555 ทำไงดี