ผมเกือบทำให้แม่ตายเพราะพาไปเที่ยวฮ่องกง

พอดีตัวผมเองไม่ค่อยได้เล่นพันทิพย์ ก็เลยยืมแอคเค้าท์น้องที่รู้จักมาตั้งกระทู้นี้นะครับ อยากแชร์เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีคนใกล้ตัวเป็นโรคเบาหวาน !!

ท้าวความนิดนึงบ้านผมเป็นทั้งบ้านครับ ก่อนนี้ก็ไม่สนใจ จนกระทั่งเจอเหตุการณ์นี้ถึงเข้าใจว่ามันน่ากลัวขนาดไหน

ปลายปีที่ผ่านมาครอบครัวผมยกโขยงกันไปเที่ยวฮ่องกง ไปกันแบบลุยๆ เดินทางด้วยการนั่งรถไฟใต้ดิน และเดินเป็นหลัก


แม่ผมอายุ 74 ก็เดินด้วยกันนี่แหละ เราเห็นแกเดินได้ก็คิดว่าดีแล้วได้ออกกำลังกาย

ในทริปนี้มีอยู่วันนึง เป็นวันที่เดินเยอะมากๆ แถมยังขึ้นลงบันไดเยอะด้วย



หลังจากที่เดินเที่ยวกันเหน็ดเหนื่อยทั้งวันก็แยกย้ายกันไปนอน...

คืนนั้นแกนอนๆ อยู่ก็รู้สึกว่าใจเต้นแรงมากแรงจนเหมือนจะหลุดออกมานอกหน้าอก

"คืนนั้นแม่คิดว่าจะตายแล้ว"

ต้องนอนสูดหายใจลึกๆครึ่งชั่วโมงถึงหาย

ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่มีใครในทริปทราบเลย เพราะแม่ไม่ได้เล่าให้ฟัง และก็ยังดำเนินการเที่ยวต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย

หลังจากกลับมาสามสี่วันแม่ก็โทรหาผม แม่บอกว่าแกแน่นหน้าอก ซึ่งผมเพิ่งรู้ตอนนี้นี่แหละ ว่าแม่ไม่ได้เพิ่งเป็นครั้งแรก

แต่แกเป็นตั้งกะตอนเที่ยวที่ฮ่องกงแล้ว Facepalm!!

แถมยังมีอาการก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยวซะอีก แต่รอบนั้นมีแค่อาการแน่นหน้าอกเบาๆ แล้วคิดว่าแค่น้ำตาลตก กินโค้กเดี๋ยวก็หาย (ซึ่งแกก็อาการหายดี ณ ขณะนั้นนะ)

คือถ้ารู้ว่าแม่มีอาการแบบนี้ตั้งแต่แรก ผมคงไม่พาแกไปทรมาณที่ฮ่องกงแน่ๆ
เพราะเป็นไรหนักที่ฮ่องกงนี่มันมืดแปดด้านเลยนะ ไหนจะค่ารักษา ไหนจะเรื่องภาษาที่คุยกันไม่รู้เรื่องอีก

ยิ่งวินาทีที่แม่บอกว่าแม่คิดว่าจะตายแล้วในคืนนั้น ผมยิ่งใจเสียสุดๆ ครับ

คือถ้าท่านเป็นอะไรขึ้นมาจริงๆ ผมคงโทษตัวเองไปทั้งชีวิตแน่ๆ

ตัดภาพมาที่เหตุการณ์ปัจจุบัน แกบอกว่ารอบนี้อาการค่อนข้างหนักอีกแล้ว เลยอยากให้ผมถามเพื่อนที่เป็นหมอให้หน่อยว่ามีอาการแบบนี้ควรทำไงดี ?

ผมบอกแม่ว่าเพื่อนผมเป็นหมอสมอง ไม่น่าตอบได้ขนาดนั้น เราไปตรวจที่รพ.กันเลยดีกว่า เดี๋ยววันอาทิตย์พาไป (ยังชะล่าใจคิดว่าไม่เป็นอะไรมาก)

วันอาทิตย์ที่ 9 ธ.ค. ผมพาแม่ไปที่รพ.รามคำแหง ไปตรวจหัวใจที่นั่น เพราะก่อนหน้านี้พ่อผมเคยผ่าตัดกะเพื่อนผมที่รพ.นั้นแล้วได้ตรวจหัวใจด้วย เลยไปหาหมอคนเดิมด้วยความคุ้นเคย คุณหมอก็น่ารัก พอเจอหน้าก็ทักทายว่าจำนามสกุลได้ วันนี้เปลี่ยนจากพ่อเป็นแม่มาหาหมอแทนเหรอ หัวเราะเอิ๊กอ๊ากกันไป

หัวเราะได้แผลบเดียว ผลตรวจคลื่นหัวใจมาบรรยากาศก็เปลี่ยน

กล้ามเนื้อหัวใจแม่ขาดเลือด ต้องสวนหลอดเลือดหัวใจ! และควรทำทันที เพราะอาการค่อนข้างรุนแรง!!!

แม่ผมเป็นคนขี้กลัว ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังประสานงานเตรียมห้องสวนหัวใจ ผมก็พยายามอยู่ข้างๆแม่ตลอด เพราะรู้ว่าถ้าปล่อยให้อยู่คนเดียวแม่จะต้องใจเสียมากแน่ๆ มือก็กุมมือแม่ไว้ ปากก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก แต่ในใจคิดนู่นคิดนี่ไปไกลแล้ว

ทำไมกูไม่รู้ว่าแม่เป็นอะไรตั้งแต่อยู่ฮ่องกง ทำไมไม่พาเค้ามาหาหมอตั้งแต่วันแรกที่เค้าบอกว่าแน่นหน้าอก ถ้าแม่เป็นไรไปกูจะทำยังไง...

ระหว่างที่กำลังคิดนู่นนั่นนี่ พยาบาลจากห้องสวนหัวใจก็มาปลอบผมว่าโชคดีแล้วที่มาตรวจเจอ ไม่ต้องกลัวนะ หมอที่จะทำสวนหัวใจให้ท่านเก่งมาก สบายใจได้

ผมก็เลยสบายใจขึ้น...

(เดี๋ยวมาต่อนะครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่