เกริ่นก่อนนะครับว่าผมเป็นลูกค้า AIS มาสิบกว่าปี ทำเรื่องย้ายค่ายไปปีที่แล้ว ตอนนี้จะกลับมาใช้บริการอีก และที่เล่าให้ฟัง ไม่ได้มีเจตนาจะไม่ใช้บริการ AIS ต่อ ตรงกันข้ามครับ อยากจะใช้บริการต่อ แต่อยากร้องเรียนบางเรื่องที่ไม่โอเคที่เกิดขึ้นในการใช้บริการครับ
ผมสั่งซื้อซิมการ์ดจาก AIS ออนไลน์จากเว็บไซต์ AIS โดยตรง ซึ่งทาง AISได้มอบหมายให้ทาง Inter Express เป็นผู้จัดส่งซิมการ์ดให้ ใช้เวลาประมาณ 3 วัน ซิมการ์ดมาส่งให้ตามที่อยู่ที่ให้ไว้
แต่ตอนที่ทำการลงทะเบียนการใช้ซิมการ์ดนี่สิครับ พนักงานจัดส่งเขาแจ้งว่าสามารถที่จะลงทะเบียนกับเขาได้เลย หรือจะไปลงทะเบียนเองที่ศูนย์ AIS ก็ได้ ผมถามเขาว่าถ้าลงทะเบียนกับพนักงานจัดส่งเลยเนี่ต้องใช้อะไรบ้าง เขาตอบว่าใช้บัตรประชาชนได้เลยครับ เลยถามเผื่อว่าจะให้ถ่ายสำเนาบัตรไว้ให้ไหม จะได้ประหยัดเวลา เขาบอกว่าไม่ต้อง จะเสียบบัตรเข้าเครื่องอ่านสมาร์ทการ์ดโดยตรงเลย ไอ่เราก็โอเค ให้บัตรเขาไป
แต่สิ่งที่เขาทำหลังจากเสียบบัตรเข้าเครื่องอ่านนี่สิ เขาเอาแบบฟอร์มการร้องขอใช้บริการ (เป็นกระดาษ) ออกมา ซึ่งมันจะมีส่วนที่ต้องกรอกหมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลส่วนตัว พร้อมที่อยู่ เขาเอาบัตรประชาชนเราไปวางทับตรงส่วนนั้นของฟอร์ม แล้วถ่ายรูป ส่งข้อมูลไปทางมือถือเข้าระบบของเขา
มันเกิดขึ้นเร็วมากครับ ผมห้ามเขาไม่ทัน พอผมถามว่าลบรูปได้ไหม เขาตอบอย่างเดียวเลยครับว่าทำอะไรไม่ได้แล้วเพราะส่งเข้าระบบไปแล้ว ผมไม่โอเคกับการกระทำแบบนี้เลยครับ
1. เขาถ่ายรูปบัตรประชาชนผมไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ย้ำนะครับว่าโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีการแจ้งก่อนว่าจะมีการถ่ายรูปบัตรไว้ ถ้าผมทราบก่อน ผมจะไม่อนุญาต และยินดีที่จะเดินทางไปทำการลงทะเบียนที่ศูนย์ AIS ด้วยตัวเองครับ
ผมยินดีให้ทาง AIS เก็บข้อมูลบัตรประชาชนผมไว้นะครับ แต่เป็นในรูปแบบการถ่ายเอกสารสำเนา โดยผมเซ็นกำกับว่าสำเนานั้นใช้กับการขอเปิดใช้บริการกับ AIS เท่านั้น ซึ่งเป็นแบบที่ยอมรับได้ทางกฎหมาย แต่การถ่ายรูปบัตรไว้ โดยเฉพาะการทำโดยไม่แจ้งล่วงหน้าโดยได้รับการยินยอมจากเจ้าของบัตร ผมถือว่าเป็นการชิงทรัพย์ครับ
รูปบัตรประชาชนผมมันเป็นข้อมูลส่วนตัวซึ่งผมไม่เคยให้ใครไว้เกินกว่าที่จำเป็นจะต้องให้ ระบบของคุณที่รับส่งข้อมูลเหล่านี้ ปลอดภัยมากน้อยแค่ไหนผมก็ไม่ทราบ เกิดอยู่ดีๆข้อมูลมันหลุดไป มีคนเอาข้อมูลบัตรผมไปทำธุรกรรมบางอย่าง กู้เงินโดยที่ผมไม่ได้รับรู้ หรือทำอะไรผิดกฎหมาย คุณจะว่ายังไงครับ มันต่างกันนะครับที่คุณมีข้อมูลสำเนาที่เขียนกำกับไว้ว่าอนุญาตให้ใช้สำเนานี้ในการทำธุรกรรมบางอย่างที่เฉพาะเจาะจงเพียงอย่างเดียวกับธุรกรรมนั้น กับการที่มีรูปบัตรประชาชนเพียวๆเลย สามารถปริ๊นออกมาแล้วเอาไปเขียนกำกับอะไรเพิ่มก็ได้ภายหลัง ผมไม่โอเคเลยครับ
2. ไม่แน่ใจว่าทาง AIS ได้เทรน Inter Express ให้ทำแบบนี้ หรือทาง Inter Express ได้จัดแจงทำแบบนี้เองโดยพละการ ซึ่งเท่าที่ผมสังเกต (จากการเดาของผมล้วนๆ) เหมือนต้องการจะประหยัดเวลาในการกรอกฟอร์มการร้องขอการใช้บริการ (เพราะว่ามันมีช่องให้กรอกข้อมูลเหล่านี้) แทนที่จะให้ลูกค้ากรอกข้อมูลดังกล่าวด้วยปากกา กลับเอาบัตรประชาชนผมไปวางทับส่วนนั้นของฟอร์ม แล้วถ่ายรูป โดยไม่ต้องกรอกข้อมูลอะไรใดๆ
คุณครับ ผมยอมเสียเวลา 3-5 นาทีในการกรอกฟอร์มให้คุณครับ ถ้าจะเอาสำเนาบัตร ผมพร้อมถ่ายเอกสารพร้อมเซ็นกำกับให้เลย มันเป็นเอกสารทางกฎหมายนะครับผมยินดีให้เวลาในการกรอก ผมไม่โอเคที่ทางคุณอยากให้มันเสร็จเร็วๆเลยตัดกระบวนการให้สั้นลงโดยการให้พนักงานเอาบัตรประชาชนลูกค้าไปวางตรงส่วนที่ต้องกรอกข้อมูลในฟอร์มแล้วถ่ายรูปไว้ (แถมไม่แจ้งลูกค้าก่อนที่จะทำอีกว่าจะดำเนินการเช่นนั้น ว่าลูกค้ายินยอมหรือไม่)
3. พอเห็นว่ามีการดำเนินการนั้นเช่น แล้วผมร้องขอให้มีการลบข้อมูล ซึ่งทางผมยินดีจะเดินทางไปดำเนินการสมัครการใช้บริการเองที่ศูนย์ถ้าการลบข้อมูลนั้นหมายถึงการแคนเซิล transaction นั้นๆ แต่กลับถูกแจ้งว่าลบไม่ได้อย่างเดียว อันนี้ก็ไม่โอเคครับ คุณไม่มีระบบรองรับความผิดพลาดของพนักงานภาคสนามที่สามารถให้เขาแก้ไขหรือลบข้อมูลที่ผิดพลาดหน้างานได้เลยหรือครับ
4. ตอนที่ผมคอมเพลนกับพนักงานจัดส่ง เขาก็กดเบอร์โทรออกให้คุยกับหัวหน้าเขา หัวหน้าบอกว่ารับรองครับว่าข้อมูลไม่รั่วไหล แถมให้ชื่อกับเบอร์โทรเขาไว้ด้วยเผื่อว่ามีอะไรเกิดขึ้น ชื่อกับเบอร์โทรคุณที่ให้นั้นจริงหรือเปล่าก็ไม่ทราบ เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหนผมก็ไม่รู้ ตอนที่ผมคอมเพลน น้องพนักงานจัดส่งเขาดูตกใจ ผมก็ไม่สามารถทราบได้ว่าปลายสายที่ผมคุยด้วยนั้นเป็นหัวหน้าของเขาจริงๆ (ผมจะรู้ได้ไงว่าน้องเขาไม่ได้โทรหาใครก็ไม่รู้ที่อาจจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยมาให้ช่วยดีลให้) และถึงจะเป็นหัวหน้าเขาจริงๆ แต่ถ้าถึงเวลาที่มันเกิดเหตุอะไรขึ้นมากับข้อมูลส่วนตัวของผม มีคนเอาข้อมูลผมไปก่ออาชญากรรมบางอย่าง คุณมีความสามารถที่จะรับผิดชอบอะไรยังไงครับถ้าเกิดเรื่องดังกล่าวจริงๆ (การที่ผมมีชื่อและเบอร์โทรของคุณหัวหน้าไว้มันจะช่วยอะไรได้ครับถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ) คุณไปหาทางติดต่อใครก็ตามในบริษัทที่มี authority ที่จะลบข้อมูลตั้งแต่ตอนนี้เพื่อแก้ปัญหาที่ต้นเหตุจะไม่เป็นการรับผิดชอบที่สมเหตุสมผลกว่าไหมครับ
แล้วจริงๆแทนที่จะหาวิธีการลบข้อมูลหรือแก้ไขสถานการณ์ กลับพยายามพูดกล่อมให้ผมโอเคกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าไม่เป็นไรหรอก ใครก็ทำกัน โถคุณครับ ชิงทรัพย์ผมไป ไม่เอามาคืนหรือหาทางเอาคืนแล้วยังมาบอกผมว่าไม่เป็นไร ใครๆก็โดนกัน คนมีส่วนรู้เห็นกับการก่อเหตุชิงทรัพย์เองพยายามให้ผมทำใจกับการที่ของผมถูกขโมย โดยที่ไม่คิดจะเอาของมาคืนเลยหรือครับ
5. ร้องเรียนไปทางคอลเซ็นเตอร์ AIS แล้วครับ เขาพูดดีนะ บอกว่าจะตรวจสอบให้ แจ้งว่าตอนนั้นข้อมูลยังส่งมาไม่ถึงฝั่ง AIS ปกติจะใช้เวลา 24 ชม ซึ่งเขาจะติดต่อกลับถ้าได้รับข้อมูลนี้ แจ้งเวลาว่าประมาณบ่ายโมงวันรุ่งขึ้นจะติดต่อกลับ ผมรอครับ บ่ายโมงวันรุ่งขึ้นไม่มีการติดต่อกลับ ผมโทรกลับไปคอลเซ็นเตอร์ เจ้าหน้าที่คนหลังตรวจสอบเคสผมดู บอกว่าพนักงานที่รับเรื่องไว้ตอนแรกเขาหยุดงาน จะกลับมาทำงานอีกสามวันข้างหน้าและเขียนโน้ตไว้ว่ากลับมาทำงานแล้วจะติดต่อลูกค้ากลับ
5.1 AIS คอลเซ็นเตอร์คุณจะรับปากลูกค้าทำไมครับว่าจะติดต่อกลับถ้ารู้ตัวว่าจะหยุดงานและจะไม่ได้ติดต่อกลับตามที่นัด หรือถ้ารู้ตัวว่าจะไม่อยู่ ทำไมไม่มีการมอบหมายงานให้พนักงานท่านอื่นดูแลแทนครับ
5.2 ที่ AIS คอลเซ็นเตอร์ มีการเทรนพนักงานให้บันทึกเรื่องร้องเรียนที่พนักงานได้รับในกรณีที่เรื่องจะถูกส่งมอบให้หลายฝ่ายหลายคนดำเนินการไหมครับ ผมต้องมานั่งเล่าเรื่องให้พนักงานคอลเซ็นเตอร์คนที่สองฟังอีกรอบอย่างละเอียด
5.3 พนักงานคนที่สองรับเรื่องไปแทนและแจ้งว่าจะมีคนติดต่อกลับ และมีการติดต่อกลับมาติดตามว่ามีคนติดต่อกลับมาหรือยัง (อันนี้ถือว่าบริการดี) แต่พอมีคนติดต่อกลับมาบอกแค่ว่ายังคงตรวจสอบอยู่ จะแจ้งกลับในอีกสามวัน มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกสื่อสารก่อนหน้านี้ว่าข้อมูลนี้จะเข้ามาในระบบ AIS ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเกิดเรื่อง ซึ่ง ณ เวลานั้นมันก็เลย 24 ชั่วโมงดังกล่าวไปแล้ว
คือผมเข้าใจนะครับว่าการตรวจสอบตามกระบวนการอาจจะต้องใช้เวลา และถ้ามันเป็นการ ตรวจสอบเคสปกติที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยกับข้อมูลและทรัพย์สินของลูกค้า ผมยินดีรอตามระยะเวลากระบวนการตรวจสอบปกติครับ จะห้าวัน สิบวัน หรือ 1 เดือนผมก็ไม่ว่า แต่นี่คุณทราบไหมครับว่าเป็นเคสการโจรกรรมข้อมูล คุณไม่คิดจะหาทางเร่งกระบวนการเลยหรือครับ ถ้าจะต้องดำเนินเรื่องขึ้นไปถึงผู้จัดการแผนกหรือใครที่มี authority ที่จะทำให้การตรวจสอบมันรวดเร็วขึ้น มันก็เป็นการสมควรไม่ใช่หรือครับ
5.4 ซิมที่ผมสั่งซื้อมา ต้องมีการ activate ภายใน 7 วัน (จากวันสั่งซื้อ หรือวันที่ได้รับซิม อันนี้ไม่ทราบแน่ชัด) ไม่อย่างนั้นหมายเลขที่ซื้อมาจะเป็นโมฆะไป แล้วที่พวกคุณทำการตรวจสอบกันนานๆหลายวันเนี่ย จะมีผลต่อการ activate ซิมของผมไหมครับเพราะผมจะไม่ activate ซิมแน่นอนจนกว่าเรื่องเอกสารจะเรียบร้อยถูกต้อง ถ้าใช้เวลาตรวจสอบนานเกินไป แล้วซิมผมเป็นโมฆะ เสียเงินค่าซิมไปเปล่าๆ เบอร์ก็ใช้เวลาหาเป็นเดือนๆกว่าจะเจอเบอร์ที่ถูกใจ คุณคิดว่าในฐานะลูกค้าที่ตั้งใจจะกลับมาใช้บริการระยะยาวกับคุณ ผมได้รับการให้บริการแบบนี้ มันโอเคหรือเปล่าครับ
6. ผมปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน เขตที่เกิดเหตุแล้วครับ เขารับแจ้งความเรื่องนี้ (ที่บัตรถูกเอาไปถ่ายรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต) AIS คุณจะเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องด่วนได้หรือยังครับ
ย้ำนะครับว่าตั้งกระทู้มานี่ไม่ได้มีเจตนาจะไม่ใช้บริการ AIS ต่อ แต่อยากให้รีบดำเนินการด่วนในเรื่องลบข้อมูลของผมที่คุณถ่ายรูปไปโดยไม่ได้รับอนุญาต (และผมพร้อมจะไปทำเอกสารแบบแมนวลที่ศูนย์บริการ) เพราะอยากให้เรื่องจบเร็วๆ และจะได้ใช้บริการตามปกติ (และถ้าคุณจะใช้เหตุการณ์นี้ไปปรับปรุงการให้บริการลูกค้าท่านอื่นๆ ก็เป็นของแถมบทเรียนที่มีค่าของคุณไป) ขอบคุณครับ
Inter Express ที่จัดส่งซิมการ์ดให้ AIS เอาบัตรประชาชนผมไปวางบนฟอร์มร้องขอการใช้บริการแล้วถ่ายรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต
ผมสั่งซื้อซิมการ์ดจาก AIS ออนไลน์จากเว็บไซต์ AIS โดยตรง ซึ่งทาง AISได้มอบหมายให้ทาง Inter Express เป็นผู้จัดส่งซิมการ์ดให้ ใช้เวลาประมาณ 3 วัน ซิมการ์ดมาส่งให้ตามที่อยู่ที่ให้ไว้
แต่ตอนที่ทำการลงทะเบียนการใช้ซิมการ์ดนี่สิครับ พนักงานจัดส่งเขาแจ้งว่าสามารถที่จะลงทะเบียนกับเขาได้เลย หรือจะไปลงทะเบียนเองที่ศูนย์ AIS ก็ได้ ผมถามเขาว่าถ้าลงทะเบียนกับพนักงานจัดส่งเลยเนี่ต้องใช้อะไรบ้าง เขาตอบว่าใช้บัตรประชาชนได้เลยครับ เลยถามเผื่อว่าจะให้ถ่ายสำเนาบัตรไว้ให้ไหม จะได้ประหยัดเวลา เขาบอกว่าไม่ต้อง จะเสียบบัตรเข้าเครื่องอ่านสมาร์ทการ์ดโดยตรงเลย ไอ่เราก็โอเค ให้บัตรเขาไป
แต่สิ่งที่เขาทำหลังจากเสียบบัตรเข้าเครื่องอ่านนี่สิ เขาเอาแบบฟอร์มการร้องขอใช้บริการ (เป็นกระดาษ) ออกมา ซึ่งมันจะมีส่วนที่ต้องกรอกหมายเลขบัตรประชาชน ข้อมูลส่วนตัว พร้อมที่อยู่ เขาเอาบัตรประชาชนเราไปวางทับตรงส่วนนั้นของฟอร์ม แล้วถ่ายรูป ส่งข้อมูลไปทางมือถือเข้าระบบของเขา
มันเกิดขึ้นเร็วมากครับ ผมห้ามเขาไม่ทัน พอผมถามว่าลบรูปได้ไหม เขาตอบอย่างเดียวเลยครับว่าทำอะไรไม่ได้แล้วเพราะส่งเข้าระบบไปแล้ว ผมไม่โอเคกับการกระทำแบบนี้เลยครับ
1. เขาถ่ายรูปบัตรประชาชนผมไปโดยไม่ได้รับอนุญาต ย้ำนะครับว่าโดยที่ไม่ได้รับอนุญาต ไม่มีการแจ้งก่อนว่าจะมีการถ่ายรูปบัตรไว้ ถ้าผมทราบก่อน ผมจะไม่อนุญาต และยินดีที่จะเดินทางไปทำการลงทะเบียนที่ศูนย์ AIS ด้วยตัวเองครับ
ผมยินดีให้ทาง AIS เก็บข้อมูลบัตรประชาชนผมไว้นะครับ แต่เป็นในรูปแบบการถ่ายเอกสารสำเนา โดยผมเซ็นกำกับว่าสำเนานั้นใช้กับการขอเปิดใช้บริการกับ AIS เท่านั้น ซึ่งเป็นแบบที่ยอมรับได้ทางกฎหมาย แต่การถ่ายรูปบัตรไว้ โดยเฉพาะการทำโดยไม่แจ้งล่วงหน้าโดยได้รับการยินยอมจากเจ้าของบัตร ผมถือว่าเป็นการชิงทรัพย์ครับ
รูปบัตรประชาชนผมมันเป็นข้อมูลส่วนตัวซึ่งผมไม่เคยให้ใครไว้เกินกว่าที่จำเป็นจะต้องให้ ระบบของคุณที่รับส่งข้อมูลเหล่านี้ ปลอดภัยมากน้อยแค่ไหนผมก็ไม่ทราบ เกิดอยู่ดีๆข้อมูลมันหลุดไป มีคนเอาข้อมูลบัตรผมไปทำธุรกรรมบางอย่าง กู้เงินโดยที่ผมไม่ได้รับรู้ หรือทำอะไรผิดกฎหมาย คุณจะว่ายังไงครับ มันต่างกันนะครับที่คุณมีข้อมูลสำเนาที่เขียนกำกับไว้ว่าอนุญาตให้ใช้สำเนานี้ในการทำธุรกรรมบางอย่างที่เฉพาะเจาะจงเพียงอย่างเดียวกับธุรกรรมนั้น กับการที่มีรูปบัตรประชาชนเพียวๆเลย สามารถปริ๊นออกมาแล้วเอาไปเขียนกำกับอะไรเพิ่มก็ได้ภายหลัง ผมไม่โอเคเลยครับ
2. ไม่แน่ใจว่าทาง AIS ได้เทรน Inter Express ให้ทำแบบนี้ หรือทาง Inter Express ได้จัดแจงทำแบบนี้เองโดยพละการ ซึ่งเท่าที่ผมสังเกต (จากการเดาของผมล้วนๆ) เหมือนต้องการจะประหยัดเวลาในการกรอกฟอร์มการร้องขอการใช้บริการ (เพราะว่ามันมีช่องให้กรอกข้อมูลเหล่านี้) แทนที่จะให้ลูกค้ากรอกข้อมูลดังกล่าวด้วยปากกา กลับเอาบัตรประชาชนผมไปวางทับส่วนนั้นของฟอร์ม แล้วถ่ายรูป โดยไม่ต้องกรอกข้อมูลอะไรใดๆ
คุณครับ ผมยอมเสียเวลา 3-5 นาทีในการกรอกฟอร์มให้คุณครับ ถ้าจะเอาสำเนาบัตร ผมพร้อมถ่ายเอกสารพร้อมเซ็นกำกับให้เลย มันเป็นเอกสารทางกฎหมายนะครับผมยินดีให้เวลาในการกรอก ผมไม่โอเคที่ทางคุณอยากให้มันเสร็จเร็วๆเลยตัดกระบวนการให้สั้นลงโดยการให้พนักงานเอาบัตรประชาชนลูกค้าไปวางตรงส่วนที่ต้องกรอกข้อมูลในฟอร์มแล้วถ่ายรูปไว้ (แถมไม่แจ้งลูกค้าก่อนที่จะทำอีกว่าจะดำเนินการเช่นนั้น ว่าลูกค้ายินยอมหรือไม่)
3. พอเห็นว่ามีการดำเนินการนั้นเช่น แล้วผมร้องขอให้มีการลบข้อมูล ซึ่งทางผมยินดีจะเดินทางไปดำเนินการสมัครการใช้บริการเองที่ศูนย์ถ้าการลบข้อมูลนั้นหมายถึงการแคนเซิล transaction นั้นๆ แต่กลับถูกแจ้งว่าลบไม่ได้อย่างเดียว อันนี้ก็ไม่โอเคครับ คุณไม่มีระบบรองรับความผิดพลาดของพนักงานภาคสนามที่สามารถให้เขาแก้ไขหรือลบข้อมูลที่ผิดพลาดหน้างานได้เลยหรือครับ
4. ตอนที่ผมคอมเพลนกับพนักงานจัดส่ง เขาก็กดเบอร์โทรออกให้คุยกับหัวหน้าเขา หัวหน้าบอกว่ารับรองครับว่าข้อมูลไม่รั่วไหล แถมให้ชื่อกับเบอร์โทรเขาไว้ด้วยเผื่อว่ามีอะไรเกิดขึ้น ชื่อกับเบอร์โทรคุณที่ให้นั้นจริงหรือเปล่าก็ไม่ทราบ เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหนผมก็ไม่รู้ ตอนที่ผมคอมเพลน น้องพนักงานจัดส่งเขาดูตกใจ ผมก็ไม่สามารถทราบได้ว่าปลายสายที่ผมคุยด้วยนั้นเป็นหัวหน้าของเขาจริงๆ (ผมจะรู้ได้ไงว่าน้องเขาไม่ได้โทรหาใครก็ไม่รู้ที่อาจจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลยมาให้ช่วยดีลให้) และถึงจะเป็นหัวหน้าเขาจริงๆ แต่ถ้าถึงเวลาที่มันเกิดเหตุอะไรขึ้นมากับข้อมูลส่วนตัวของผม มีคนเอาข้อมูลผมไปก่ออาชญากรรมบางอย่าง คุณมีความสามารถที่จะรับผิดชอบอะไรยังไงครับถ้าเกิดเรื่องดังกล่าวจริงๆ (การที่ผมมีชื่อและเบอร์โทรของคุณหัวหน้าไว้มันจะช่วยอะไรได้ครับถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ) คุณไปหาทางติดต่อใครก็ตามในบริษัทที่มี authority ที่จะลบข้อมูลตั้งแต่ตอนนี้เพื่อแก้ปัญหาที่ต้นเหตุจะไม่เป็นการรับผิดชอบที่สมเหตุสมผลกว่าไหมครับ
แล้วจริงๆแทนที่จะหาวิธีการลบข้อมูลหรือแก้ไขสถานการณ์ กลับพยายามพูดกล่อมให้ผมโอเคกับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าไม่เป็นไรหรอก ใครก็ทำกัน โถคุณครับ ชิงทรัพย์ผมไป ไม่เอามาคืนหรือหาทางเอาคืนแล้วยังมาบอกผมว่าไม่เป็นไร ใครๆก็โดนกัน คนมีส่วนรู้เห็นกับการก่อเหตุชิงทรัพย์เองพยายามให้ผมทำใจกับการที่ของผมถูกขโมย โดยที่ไม่คิดจะเอาของมาคืนเลยหรือครับ
5. ร้องเรียนไปทางคอลเซ็นเตอร์ AIS แล้วครับ เขาพูดดีนะ บอกว่าจะตรวจสอบให้ แจ้งว่าตอนนั้นข้อมูลยังส่งมาไม่ถึงฝั่ง AIS ปกติจะใช้เวลา 24 ชม ซึ่งเขาจะติดต่อกลับถ้าได้รับข้อมูลนี้ แจ้งเวลาว่าประมาณบ่ายโมงวันรุ่งขึ้นจะติดต่อกลับ ผมรอครับ บ่ายโมงวันรุ่งขึ้นไม่มีการติดต่อกลับ ผมโทรกลับไปคอลเซ็นเตอร์ เจ้าหน้าที่คนหลังตรวจสอบเคสผมดู บอกว่าพนักงานที่รับเรื่องไว้ตอนแรกเขาหยุดงาน จะกลับมาทำงานอีกสามวันข้างหน้าและเขียนโน้ตไว้ว่ากลับมาทำงานแล้วจะติดต่อลูกค้ากลับ
5.1 AIS คอลเซ็นเตอร์คุณจะรับปากลูกค้าทำไมครับว่าจะติดต่อกลับถ้ารู้ตัวว่าจะหยุดงานและจะไม่ได้ติดต่อกลับตามที่นัด หรือถ้ารู้ตัวว่าจะไม่อยู่ ทำไมไม่มีการมอบหมายงานให้พนักงานท่านอื่นดูแลแทนครับ
5.2 ที่ AIS คอลเซ็นเตอร์ มีการเทรนพนักงานให้บันทึกเรื่องร้องเรียนที่พนักงานได้รับในกรณีที่เรื่องจะถูกส่งมอบให้หลายฝ่ายหลายคนดำเนินการไหมครับ ผมต้องมานั่งเล่าเรื่องให้พนักงานคอลเซ็นเตอร์คนที่สองฟังอีกรอบอย่างละเอียด
5.3 พนักงานคนที่สองรับเรื่องไปแทนและแจ้งว่าจะมีคนติดต่อกลับ และมีการติดต่อกลับมาติดตามว่ามีคนติดต่อกลับมาหรือยัง (อันนี้ถือว่าบริการดี) แต่พอมีคนติดต่อกลับมาบอกแค่ว่ายังคงตรวจสอบอยู่ จะแจ้งกลับในอีกสามวัน มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกสื่อสารก่อนหน้านี้ว่าข้อมูลนี้จะเข้ามาในระบบ AIS ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากเกิดเรื่อง ซึ่ง ณ เวลานั้นมันก็เลย 24 ชั่วโมงดังกล่าวไปแล้ว
คือผมเข้าใจนะครับว่าการตรวจสอบตามกระบวนการอาจจะต้องใช้เวลา และถ้ามันเป็นการ ตรวจสอบเคสปกติที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยกับข้อมูลและทรัพย์สินของลูกค้า ผมยินดีรอตามระยะเวลากระบวนการตรวจสอบปกติครับ จะห้าวัน สิบวัน หรือ 1 เดือนผมก็ไม่ว่า แต่นี่คุณทราบไหมครับว่าเป็นเคสการโจรกรรมข้อมูล คุณไม่คิดจะหาทางเร่งกระบวนการเลยหรือครับ ถ้าจะต้องดำเนินเรื่องขึ้นไปถึงผู้จัดการแผนกหรือใครที่มี authority ที่จะทำให้การตรวจสอบมันรวดเร็วขึ้น มันก็เป็นการสมควรไม่ใช่หรือครับ
5.4 ซิมที่ผมสั่งซื้อมา ต้องมีการ activate ภายใน 7 วัน (จากวันสั่งซื้อ หรือวันที่ได้รับซิม อันนี้ไม่ทราบแน่ชัด) ไม่อย่างนั้นหมายเลขที่ซื้อมาจะเป็นโมฆะไป แล้วที่พวกคุณทำการตรวจสอบกันนานๆหลายวันเนี่ย จะมีผลต่อการ activate ซิมของผมไหมครับเพราะผมจะไม่ activate ซิมแน่นอนจนกว่าเรื่องเอกสารจะเรียบร้อยถูกต้อง ถ้าใช้เวลาตรวจสอบนานเกินไป แล้วซิมผมเป็นโมฆะ เสียเงินค่าซิมไปเปล่าๆ เบอร์ก็ใช้เวลาหาเป็นเดือนๆกว่าจะเจอเบอร์ที่ถูกใจ คุณคิดว่าในฐานะลูกค้าที่ตั้งใจจะกลับมาใช้บริการระยะยาวกับคุณ ผมได้รับการให้บริการแบบนี้ มันโอเคหรือเปล่าครับ
6. ผมปรึกษาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน เขตที่เกิดเหตุแล้วครับ เขารับแจ้งความเรื่องนี้ (ที่บัตรถูกเอาไปถ่ายรูปโดยไม่ได้รับอนุญาต) AIS คุณจะเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องด่วนได้หรือยังครับ
ย้ำนะครับว่าตั้งกระทู้มานี่ไม่ได้มีเจตนาจะไม่ใช้บริการ AIS ต่อ แต่อยากให้รีบดำเนินการด่วนในเรื่องลบข้อมูลของผมที่คุณถ่ายรูปไปโดยไม่ได้รับอนุญาต (และผมพร้อมจะไปทำเอกสารแบบแมนวลที่ศูนย์บริการ) เพราะอยากให้เรื่องจบเร็วๆ และจะได้ใช้บริการตามปกติ (และถ้าคุณจะใช้เหตุการณ์นี้ไปปรับปรุงการให้บริการลูกค้าท่านอื่นๆ ก็เป็นของแถมบทเรียนที่มีค่าของคุณไป) ขอบคุณครับ