รวบหลานทรพีจับป้าแท้ๆใส่กุญแจมือ เรียกค่าไถ่3ล้าน
วันจันทร์ 21 มกราคม 2562 / 15:42 น.
ตำรวจแถลงรวบหลานทรพีจับป้าอายุ 79 ปี ใส่กุญแจมือ มีดจี้เรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท อ้างไปไปใช้หนี้พนันฟุตบอล
21 ม.ค. 2562 เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจได้แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา 2 คน คือนายวรพงษ์ ปิ่นสุวรรณ์ และนายธงชัย คำพันธ์ ในข้อหา ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการหรือไม่กระทำการ, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น, ร่วมชิงทรัพย์และร่วมกันกระทำความผิดต่อเสรีภาพ เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ลักพาตัวป้าแท้ๆของตัวเองไปและมีการเรียกค่าไถ่เป็นเงินถึง 3 ล้านบาท
โดยวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้งสองคน(เป็นหลาน) ได้ออกอุบายทำทีอาสารับผู้เสียหายนั่นก็คือนางนฤมล หริรักษฐากูร (เป็นป้า) อายุ 79 ปี ไปทำธุรกรรมทางการเงินที่ย่านแจ้งวัฒนะ และระหว่างทางผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ร่วมกันใส่กุญแจมือผู้เสียหายพร้อมใช้อาวุธมีดข่มขู่ไม่ให้ขัดขืน หลังจากนั้นได้โทรศัพท์มาหาคนในครอบครัวของผู้เสียหายเพื่อเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 3 ล้านบาท ซึ่งทั้งลูกสาวและลูกชายของผู้เสียหายไม่ได้โอนเงินค่าไถ่ไปให้เนื่องจากไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น หลังจากนั้นจึงได้ไปแจ้งความที่ สน.สามเสน เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ
ในวันเดียวกันทางตำรวจสน.สามเสนและครอบครัวของผู้เสียหาย ได้รับการประสานจากตำรวจสภ.สามโคก จังหวัดปทุมธานี ว่าเจอนางนฤมล ผู้เสียหายที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในพื้นที่ โดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ และหลังจากนั้นตำรวจได้ขยายผลต่อจนเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา สามารถจับกุมนายวรพงษ์ ผู้ต้องหาคนที่ 1 ได้ที่อพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี และวันต่อมาก็สามารถจับกุมนายธงชัย ผู้ต้องหาคนที่ 2 ได้ที่อำเมือง จังหวัดนนทบุรีเช่นกัน ของกลางที่ยึดได้รถยนต์ฮอนด้าแอคคอร์ทที่ใช้ก่อเหตุ โทรศัพท์มือถือที่ใช้เรียกค่าไถ่ เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และกุญแจมือที่ใช้ล็อคผู้เสียหาย
ด้านพันตำรวจเอกนครินทร์ สุคนธวิท รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 บอกว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง ที่ผ่านมาผู้ต้องหาที่เป็นหลานทั้งสองคนได้เข้ามาขอยืมเงินป้าที่เป็นผู้เสียหายอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่เคยใช้คืน วันที่ก่อเหตุผู้ต้องหาทั้งสองคนคิดว่าลูกชายและลูกสาวของคงเอาเงิน 3 ล้านมาแลกกับตัวของป้า แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นไปตามแผน เลยได้เอาเงินที่ติดตัวป้าจำนวน 3 หมื่นบาท แล้วหลบหนีไป แต่สุดท้ายก็หนีไม่รอด
ตำรวจยังบอกอีกว่า ผู้ต้องหาทั้งสองติดการพนัน มีทรัพย์สินอะไรก็ขายทิ้ง เพื่อนำเงินไปเล่นการพนัน สุดท้ายก็หมดตัว และคาดว่าที่ลงมือก่อเหตุก็เพราะต้องการเอาเงินไปใช้หนี้พนัน ซึ่งตอนนี้ผู้ต้องหาทั้งสองคนยังให้การวกวนอยู่ โดยอ้างว่าเพิ่งคิดว่าจะเรียกค่าไถ่ป้าตัวเองในระหว่างเดินทาง ไม่ได้วางแผนจะจับป้าเรียกค่าไถ่ตั้งแต่แรก แต่ของกลางกลับพบมีกุญแจมือ อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวนผู้ต้องหาต่อและจะได้ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
https://www.brighttv.co.th/latest-news/334491
รวบหลานทรพีจับป้าอายุ 79 ปี ใส่กุญแจมือ มีดจี้เรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท อ้างไปไปใช้หนี้พนันฟุตบอล
วันจันทร์ 21 มกราคม 2562 / 15:42 น.
ตำรวจแถลงรวบหลานทรพีจับป้าอายุ 79 ปี ใส่กุญแจมือ มีดจี้เรียกค่าไถ่ 3 ล้านบาท อ้างไปไปใช้หนี้พนันฟุตบอล
21 ม.ค. 2562 เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล ตำรวจได้แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหา 2 คน คือนายวรพงษ์ ปิ่นสุวรรณ์ และนายธงชัย คำพันธ์ ในข้อหา ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการหรือไม่กระทำการ, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น, ร่วมชิงทรัพย์และร่วมกันกระทำความผิดต่อเสรีภาพ เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ลักพาตัวป้าแท้ๆของตัวเองไปและมีการเรียกค่าไถ่เป็นเงินถึง 3 ล้านบาท
โดยวันที่ 11 มกราคมที่ผ่านมา ผู้ต้องหาทั้งสองคน(เป็นหลาน) ได้ออกอุบายทำทีอาสารับผู้เสียหายนั่นก็คือนางนฤมล หริรักษฐากูร (เป็นป้า) อายุ 79 ปี ไปทำธุรกรรมทางการเงินที่ย่านแจ้งวัฒนะ และระหว่างทางผู้ต้องหาทั้งสองคนได้ร่วมกันใส่กุญแจมือผู้เสียหายพร้อมใช้อาวุธมีดข่มขู่ไม่ให้ขัดขืน หลังจากนั้นได้โทรศัพท์มาหาคนในครอบครัวของผู้เสียหายเพื่อเรียกค่าไถ่เป็นเงิน 3 ล้านบาท ซึ่งทั้งลูกสาวและลูกชายของผู้เสียหายไม่ได้โอนเงินค่าไถ่ไปให้เนื่องจากไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น หลังจากนั้นจึงได้ไปแจ้งความที่ สน.สามเสน เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือ
ในวันเดียวกันทางตำรวจสน.สามเสนและครอบครัวของผู้เสียหาย ได้รับการประสานจากตำรวจสภ.สามโคก จังหวัดปทุมธานี ว่าเจอนางนฤมล ผู้เสียหายที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในพื้นที่ โดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ และหลังจากนั้นตำรวจได้ขยายผลต่อจนเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา สามารถจับกุมนายวรพงษ์ ผู้ต้องหาคนที่ 1 ได้ที่อพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี และวันต่อมาก็สามารถจับกุมนายธงชัย ผู้ต้องหาคนที่ 2 ได้ที่อำเมือง จังหวัดนนทบุรีเช่นกัน ของกลางที่ยึดได้รถยนต์ฮอนด้าแอคคอร์ทที่ใช้ก่อเหตุ โทรศัพท์มือถือที่ใช้เรียกค่าไถ่ เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และกุญแจมือที่ใช้ล็อคผู้เสียหาย
ด้านพันตำรวจเอกนครินทร์ สุคนธวิท รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 บอกว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุจริง ที่ผ่านมาผู้ต้องหาที่เป็นหลานทั้งสองคนได้เข้ามาขอยืมเงินป้าที่เป็นผู้เสียหายอยู่หลายครั้งแต่ก็ไม่เคยใช้คืน วันที่ก่อเหตุผู้ต้องหาทั้งสองคนคิดว่าลูกชายและลูกสาวของคงเอาเงิน 3 ล้านมาแลกกับตัวของป้า แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นไปตามแผน เลยได้เอาเงินที่ติดตัวป้าจำนวน 3 หมื่นบาท แล้วหลบหนีไป แต่สุดท้ายก็หนีไม่รอด
ตำรวจยังบอกอีกว่า ผู้ต้องหาทั้งสองติดการพนัน มีทรัพย์สินอะไรก็ขายทิ้ง เพื่อนำเงินไปเล่นการพนัน สุดท้ายก็หมดตัว และคาดว่าที่ลงมือก่อเหตุก็เพราะต้องการเอาเงินไปใช้หนี้พนัน ซึ่งตอนนี้ผู้ต้องหาทั้งสองคนยังให้การวกวนอยู่ โดยอ้างว่าเพิ่งคิดว่าจะเรียกค่าไถ่ป้าตัวเองในระหว่างเดินทาง ไม่ได้วางแผนจะจับป้าเรียกค่าไถ่ตั้งแต่แรก แต่ของกลางกลับพบมีกุญแจมือ อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวนผู้ต้องหาต่อและจะได้ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
https://www.brighttv.co.th/latest-news/334491