คุมตัวฆาตกรโหดทำแผนฆ่าป้าข่มขืนหลานสะใภ้



ตำรวจคุมฆาตกรโหดทำแผน หลังบุกเตะสาวใหญ่ เลี้ยงเด็กสลบจับกดน้ำเสียชีวิต ซ้ำยังข่มขืนหลานสะใภ้ พบคนร้ายมีความรู้ทางกฎหมายและเป็นอดีตนักกีฬา เทควันโดมหาวิทยาลัย

ตำรวจภูธรภาค 5 ควบคุมตัว นายวิชชุพันธ์ รัตนรังสรรค์ ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา, ชิงทรัพย์, และข่มขืนกระทำชำเรา พร้อมด้วยของกลางเสื้อผ้าที่ใช้ในวันก่อเหตุ หน้ากากไอ้โม่ง ถุงมือยาง สนับมือ และมีดสั้นยาว โดยเมื่อเย็นวันที่ 22 ก.ค. นายวิชชุพันธ์ ได้บุกเดี่ยวเข้าไปฆ่า หญิง อายุ 50 ปี หมกศพในห้องน้ำห้องพัก ที่ อพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่ง ต.ป่าแดด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยเตะเหยื่อกว่า 50 ครั้ง จนซี่โครงขวาหัก ก่อนลากร่างไปกดน้ำในห้องน้ำจนเสียชีวิต จากนั้น ยังได้ดักรอกระทั่ง หญิง อายุ 30 ปี ทำงานที่สนามบินเชียงใหม่ หลานสะใภ้ของผู้ตาย ที่นำลูกชายวัย 4 ขวบ มาฝากผู้ตายเลี้ยง ได้กลับจากเลิกงาน จึงใช้มีดจี้บังคับ จับล็อกคอ ดันร่างโขกผนังหลายครั้งและข่มขืน กระทำชำเรา ต่อหน้าลูกชายที่ป่วยทางสมอง จากนั้นคนร้ายได้หลบหนีไปพร้อมกับกระชากเอาสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง ของผู้เสียหายและโทรศัพท์มือถือผู้ตายหลบหนีไปได้ หลังเกิดเหตุตำรวจได้เร่งสืบสวนและกระจาย กำลังออกติดตามค้นหาคนร้าย กระทั่งจับตัวได้ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ โดยไม่สะทกสะท้าน

ผู้เสียหายที่ถูกคนร้ายข่มขืนกระทำชำเรา เล่าว่า นายวิชชุพันธ์ คนร้าย เคยทำงานเป็นพนักงานร้านฟาสฟู๊ด สาขา สนามบินเชียงใหม่ เคยมาแอบชอบพอผู้เสียหาย และตามจีบ แต่เธอไม่เล่นด้วยและบล็อกเฟซบุ๊ก ทำให้คนร้ายโกรธจัดมาหาที่ห้องพัก แต่พบป้าของแฟนที่เลี้ยงลูกเธออยู่ จึงก่อเหตุฆ่าป้าก่อนที่จะรอพบเธอเพื่อข่มขืนแล้วหลบหนีไป จนตำรวจสามารถติดตามจับกุมได้ดังกล่าว

ตำรวจได้นำตัว นายวิชชุพันธ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังหอพักที่เกิดเหตุ โดยผู้ต้องหาอ้างว่าเคย คบหากับหญิงวัย 30 ปี ที่ตัวเองลงมือข่มขืน ส่วนเหตุ ที่ฆ่าหญิงวัย 50ปี เนื่องจากไม่พอใจที่ผู้ตายไม่ช่วยเหลือด้านการเงินให้กับหญิงวัย 30 ปีที่เป็นแฟนเก่า ซึ่งมีภาระหนัก  และยังพูดจากไม่ดีกับตนเองทำให้รู้สึกโกรธจึงใช้วิชาเทควันโดที่เคยเป็นนักกีฬาของมหาวิทยาลัย เตะผู้ตายกว่า 50 ครั้ง จนศีรษะไปกระแทกกับเหลี่ยมตู้เสื้อผ้าหมดสติไป จากนั้นก็สวมถุงมือยาง และลากร่างไปกดถังน้ำในห้องน้ำจนเสียชีวิต ก่อนนั่งรอแฟนเก่า เมื่อเจ้าตัวเข้ามาหาลูก จึงใช้มีดจี้พร้อมข่มขืนกระทำชำเรา โดยสวมถุงยางอนามัยอย่างดี เพื่อปกปิดหลักฐานก่อนที่จะหลบหนีไป และถูกตำรวจจับได้ในที่สุด

ตำรวจบอกว่า จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหารายนี้เป็นคนมีความรู้ทั้งทางกฎหมาย เนื่องจากจบการศึกษา คณะนิติศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชื่อดัง ทำให้คิดทำลายพยานหลักฐาน และวางแผนก่อเหตุมาอย่างดี จากการสอบสวนพยานแวดล้อมที่ใกล้ชิดกับผู้ต้องหา ยังพบว่าเจ้าตัวเป็นคนสองบุคลิกอีกด้วย





[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่