เมื่อประมานเดือนที่ผ่านมาบ้านเราต้องสูญเสียสมาชิกที่รักมากไป น้องชื่อน้องชีโร่ น้องจากไปเพราะโรคไต เรายังจำวันนั้นได้ วันที่หมอโทรมาบอกว่าน้องเสียแล้ว ตอนที่เราเข้าไปรับศพน้องที่ รพส.หมอพยายามอธิบายต่างๆทั้ง อาการของโรคและอาการป่วยของน้อง แต่เหมือนกับหมอพูดเบามากเราแทบไม่ได้ยินเลย ในหูเรามีแต่เสียงที่เราเรียก ชีโร่ ชีโร่ จนมาได้ยินอีกทีตอนแฟนเรียกเรา แฟนถามเราว่าจะเอาอย่างไรต่อ เราไม่รู้จะตอบอย่างไร งง และมืดแปดด้านเลย เลยหันไปถามคุณหมอว่ามีวัดไหนเขารับเผาสัตว์บ้าง หมอก็บอกชื่อวัดมาให้เรา 2-3 วัด เราถามหมออีกว่าแล้ววัดไหนที่เขาทำดีๆ เราอยากได้วัดที่ทำเหมือนงานคน หรือถ้าไม่มีก็ให้ใกล้เคียงที่สุด ให้ดีที่สุดที่เราจะทำให้เขาเป็นครั้งสุดท้าย
หมอบอกว่า วัดน้อยนอกน่าจะดีเพราะมีลูกค้าของ รพส.เขาเคยพาน้องไปเผาที่นั่นแล้วเอารูปให้หมอดูเหมือนงานคนมาก สรุปเราเลือกวัดน้อยนอก อุ้มน้องขึ้นรถตรงไปวัดเลย(ไปแบบไม่ได้นัดเลย)
เดินทางโดย google map วัดหาง่ายติดถนนค่ะ ข้ามสะพานพระนั่งเกล้ามาก็เจอวัดเลยเรามาจากบางใหญ่ พอเข้าไปในวัดก็จะเจอศาลาสีดำมีป้ายติดว่าโครงการฌาปนกิจสัตว์เลี้ยง ไปถึงก็มี จนท.มารับเราเลย เขาก็มาสอบถามว่าเราจะทำพิธีแบบไหน นิมนต์พระไหม นิมนต์กี่รูป เราเลือกแบบนิมนต์พระ 4 รูปคะ อยากได้แบบงานคน แล้ว จนท.ก็ให้เราเข้าไปนั่งรอที่ศาลา เขาบอกว่าเดี๋ยวเขาจัดศพน้องเสร็จแล้วจะพาน้องตามเราเข้าไป เรากับแฟนก็เข้าไปนั่งรอที่ศาลา
ก้าวแรกที่เข้าไปในศาลา ศาลาสวยมาก เป็นห้องแอร์ ติดวอลเปเปอทั้งห้อง ปูพรหมแดงทั้งห้อง มีเก้าอี้และโต๊ะสำหรับนั่งฟังพระสวดและวางของต่างๆที่ใช้ทำพิธี ด้านซ้ายจะเป็นแท่นทำพิธีซึ่งตกแต่งดอกไม้ไว้อลังการมากแถมมีพวงหรีดตั้งไว้อีก2พวง บนแท่นจะมีโลงสีชมพูตั้งไว้ใบนึง ด้านหน้าตรงข้ามที่นั่งของเราจะเป็นอาสนะพระท่านสำหรับให้พระท่านนั่งเพื่อสวดมนต์ มีโต๊ะหมู่เล็กๆสำหรับตั้งพระพุทธรูป
เราและแฟนนั่งรอสักพักจนท.ก็อุ้มน้องมาไว้ในโลง เขาใช้สายสิญจน์โยงที่แขนน้องแล้วลากไปที่พระพุทธรูปแล้วลากต่อไปที่อาสนะพระ จากนั้นพอพระท่านมาถึงท่านก็จะให้เราทำพิธีขอขมากรรมกันก่อน ท่านว่าจะได้ขออโหสิกรรมกันจะได้ไม่ต้องมีเวรกรรมติดกันไปในภพหน้า พอทำพิธีขอขมากันเสร็จแล้ว จนท.จะให้เราทำพิธีทอดผ้าบังสุกุล โดยให้เราสวดตามเขาเสร็จแล้วก็เอาผ้าไปทอดไว้บนโลงน้อง จากนั้นพระท่านจะมาชักผ้าไตรที่โลงน้อง แล้ว จนท.จะให้เราถวายสังฆทานพระท่านเพื่อทำบุญให้น้อง
จากนั้นพระท่านจะเริ่มสวด หลังจากท่านสวดเสร็จก็มีหลวงตาองค์ที่นั่งอยู่หัวแถวท่านจะเทศสั้นๆ ประมานว่า ทำไมเรากับน้องถึงได้มาเจอกัน น้องตายแล้วจะไปไหนต่อ จะทำบุญอย่างไรน้องถึงจะได้รับ พอเสร็จพิธีทั้งหมดพระท่านจะลงมาวางดอกไม้จันทน์ที่โลงน้อง ขั้นตอนนี้เราปล่อยโฮเลยเพราะเรามีความรู้สึกว่าน้องได้รับเกียรติมากมากพอๆกับคนๆนึงเลย และพระท่านก็เมตตาน้องมาก จากนั้น จนท.จะเคลื่อนศพน้องไปที่เมรุซึ่งอยู่อีกห้องนึง และเขาจะให้เราวางดอกไม้จันทน์ และสุดท้ายเขาก็จะจุดไฟเพื่อเริ่มการฌาปนกิจ
เรานั่งน้ำตาซึม ความรู้สึกบอกไม่ถูกจริงๆค่ะ คนเลี้ยงสัตว์คงเข้าใจเนอะ...เค้าอยู่กับเรามานานผูกพันเหมือนเป็นคนในครอบครัว หลังจากนั้นสักพักใหญ่ จนท.ก็เอากระดูกมาให้เรา แล้วเขาก็อธิบายเรื่องวิธีเอากระดูกกลับบ้านต้องทำอย่างไร และมีข้อห้ามอะไรบ้าง
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจนเสร็จงาน 2500บาท ตอนนี้ผ่านมาเดือนกว่าๆแล้ว ก็ยังคิดถึงเค้าอยู่...ลูกชายเรายังถามหาเจ้าชีโร่ทุกวัน.. ถามแม่ว่าชีโร่ไปไหน..😭
หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆบ้างนะคะ
แชร์ประสบการณ์เผาสุนัขครั้งแรกที่วัดน้อยนอก
หมอบอกว่า วัดน้อยนอกน่าจะดีเพราะมีลูกค้าของ รพส.เขาเคยพาน้องไปเผาที่นั่นแล้วเอารูปให้หมอดูเหมือนงานคนมาก สรุปเราเลือกวัดน้อยนอก อุ้มน้องขึ้นรถตรงไปวัดเลย(ไปแบบไม่ได้นัดเลย)
เดินทางโดย google map วัดหาง่ายติดถนนค่ะ ข้ามสะพานพระนั่งเกล้ามาก็เจอวัดเลยเรามาจากบางใหญ่ พอเข้าไปในวัดก็จะเจอศาลาสีดำมีป้ายติดว่าโครงการฌาปนกิจสัตว์เลี้ยง ไปถึงก็มี จนท.มารับเราเลย เขาก็มาสอบถามว่าเราจะทำพิธีแบบไหน นิมนต์พระไหม นิมนต์กี่รูป เราเลือกแบบนิมนต์พระ 4 รูปคะ อยากได้แบบงานคน แล้ว จนท.ก็ให้เราเข้าไปนั่งรอที่ศาลา เขาบอกว่าเดี๋ยวเขาจัดศพน้องเสร็จแล้วจะพาน้องตามเราเข้าไป เรากับแฟนก็เข้าไปนั่งรอที่ศาลา
ก้าวแรกที่เข้าไปในศาลา ศาลาสวยมาก เป็นห้องแอร์ ติดวอลเปเปอทั้งห้อง ปูพรหมแดงทั้งห้อง มีเก้าอี้และโต๊ะสำหรับนั่งฟังพระสวดและวางของต่างๆที่ใช้ทำพิธี ด้านซ้ายจะเป็นแท่นทำพิธีซึ่งตกแต่งดอกไม้ไว้อลังการมากแถมมีพวงหรีดตั้งไว้อีก2พวง บนแท่นจะมีโลงสีชมพูตั้งไว้ใบนึง ด้านหน้าตรงข้ามที่นั่งของเราจะเป็นอาสนะพระท่านสำหรับให้พระท่านนั่งเพื่อสวดมนต์ มีโต๊ะหมู่เล็กๆสำหรับตั้งพระพุทธรูป
เราและแฟนนั่งรอสักพักจนท.ก็อุ้มน้องมาไว้ในโลง เขาใช้สายสิญจน์โยงที่แขนน้องแล้วลากไปที่พระพุทธรูปแล้วลากต่อไปที่อาสนะพระ จากนั้นพอพระท่านมาถึงท่านก็จะให้เราทำพิธีขอขมากรรมกันก่อน ท่านว่าจะได้ขออโหสิกรรมกันจะได้ไม่ต้องมีเวรกรรมติดกันไปในภพหน้า พอทำพิธีขอขมากันเสร็จแล้ว จนท.จะให้เราทำพิธีทอดผ้าบังสุกุล โดยให้เราสวดตามเขาเสร็จแล้วก็เอาผ้าไปทอดไว้บนโลงน้อง จากนั้นพระท่านจะมาชักผ้าไตรที่โลงน้อง แล้ว จนท.จะให้เราถวายสังฆทานพระท่านเพื่อทำบุญให้น้อง
จากนั้นพระท่านจะเริ่มสวด หลังจากท่านสวดเสร็จก็มีหลวงตาองค์ที่นั่งอยู่หัวแถวท่านจะเทศสั้นๆ ประมานว่า ทำไมเรากับน้องถึงได้มาเจอกัน น้องตายแล้วจะไปไหนต่อ จะทำบุญอย่างไรน้องถึงจะได้รับ พอเสร็จพิธีทั้งหมดพระท่านจะลงมาวางดอกไม้จันทน์ที่โลงน้อง ขั้นตอนนี้เราปล่อยโฮเลยเพราะเรามีความรู้สึกว่าน้องได้รับเกียรติมากมากพอๆกับคนๆนึงเลย และพระท่านก็เมตตาน้องมาก จากนั้น จนท.จะเคลื่อนศพน้องไปที่เมรุซึ่งอยู่อีกห้องนึง และเขาจะให้เราวางดอกไม้จันทน์ และสุดท้ายเขาก็จะจุดไฟเพื่อเริ่มการฌาปนกิจ
เรานั่งน้ำตาซึม ความรู้สึกบอกไม่ถูกจริงๆค่ะ คนเลี้ยงสัตว์คงเข้าใจเนอะ...เค้าอยู่กับเรามานานผูกพันเหมือนเป็นคนในครอบครัว หลังจากนั้นสักพักใหญ่ จนท.ก็เอากระดูกมาให้เรา แล้วเขาก็อธิบายเรื่องวิธีเอากระดูกกลับบ้านต้องทำอย่างไร และมีข้อห้ามอะไรบ้าง
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจนเสร็จงาน 2500บาท ตอนนี้ผ่านมาเดือนกว่าๆแล้ว ก็ยังคิดถึงเค้าอยู่...ลูกชายเรายังถามหาเจ้าชีโร่ทุกวัน.. ถามแม่ว่าชีโร่ไปไหน..😭
หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆบ้างนะคะ