คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
สมัยก่อนเอาไปฝังในวัด บ้างก็ริมคลอง เพราะบ้านอยู่ใกล้ ๆ คลอง แต่ตอนนี้ไม่มีที่ฝังแล้ว เพราะพื้นแถวบ้านเทปูนหมด ก็เอาไปเผาค่ะ
เราเผาตรงวัดแถวพระราม 4 จำชื่อวัดไม่ได้
มีสวดเล็กน้อย มีพระมาทำพิธีให้ เผากับเตาเผาสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะเลยค่ะ จำราคาไม่ได้ขอโทษที
จริง ๆ ถ้าบ้านเรามีที่ฝัง คงฝังในบ้านแหละค่ะ แต่บ้านไม่มีที่ฝังจริง ๆ เป็นตึกแถวอะ
ช่วงที่หมาเราป่วยหนัก เราลางานไม่มีกำหนดค่ะ เค้าป่วยหนักจริง ๆ ได้สองสามวัน เค้าก้เสีย เสียตอนเช้าแปดโมง
(ตอนแรกเคยคิดว่าถ้าหมาเราตาย จะรู้ได้ไงว่าเค้าตายแล้วจริง ๆ ไม่ใช่หลับหรือสลบ แต่พอตายจริง ๆ รู้เลยค่ะเพราะตัวเค้าจะเริ่มแข็ง)
สัก 10 โมงก็เสิร์ชหาวัด โทรนัดพระค่ะว่ารับเผาไหมวันนี้ พระบอกว่ามาได้เลย ไปถึงวัดก็ประมาณ 11 โมง
ทำพิธีอะไร ๆ เสร็จ (เหมือนคนเแต่พิธีเล็ก ๆ กว่า สวดนิดหน่อย และบริจาคเงินทำบุญให้พระ) จากนั้นก็รอเผา สัก 1-2 ชม. ก็กลับมารับกระดูกค่ะ
เราไม่ลอยอังคารค่ะ เรายังเก็บกระดูกเค้าไว้ในห้องนอนเรานี่แหละ (ตอนนั้นยังไม่ลอยอังคาร ทำใจไม่ได้ขอเอากลับบ้าน)
รักกันมาก ไม่นึกว่าจะจากไปปุบปับ เพราะตอนที่ป่วยมาก ๆ เค้าดีขึ้นมาพักนึงเลยค่ะ เหมือนว่าจะหายป่วยแล้ว
ไม่นึกว่าสองสามวันอาการจะทรุดหนักจนถึงตาย
ซากกระดูกเค้าเราก็ใส่กระเป๋าน่ารัก ๆ วางไว้หน้าทีวีเลยแหละ 555 (ตอนนี้ฝุ่นเกาะอยู่ แต่เวลาไปทะเล ไปตจว. แบบหัวหิน พัทยานี่ เราเอากระดูกเค้าไปเที่ยววด้วยกันนะคะ เพราะตอนมีชีวิตอยู่ไปเที่ยวด้วยกันทุกทริป ถ้าเที่ยวในไทยอะนะ)
วันเค้าเสีย ตอนขับรถไปวัดเราแวะซื้อดอกไม้สดไปโรยเค้าค่ะ ซื้อมาเยอะเลย ไปถึงวัดตอนรอเผาก็นั่งจัดดอกไม้ ตัด ๆ โรย ๆ
พระไม่ให้เผาที่นอนหมาอะ เลยได้แต่เผาผ้าห่มไปกับตัวเค้าค่ะ (ผ้าห่มเค้าคือสองผืนสีเทากับสีฟ้าที่ปูรองในภาพนี่แหละ มันนอนห่มทุกวันตอนมีชีวิต)
โรยดอกไม้ให้แล้วก็จุ๊บที่แก้ม ให้เค้าเอาไปอวดเพื่อนบนสวรรค์ (มีรอยลิปสติกสีชมพู ๆ ที่แก้มชัดเลย ถูกเพื่อนข้างบนล้อแหงม ๆ )
คนอื่นจะได้รู้ว่าตัวใหม่ที่ขึ้นมานี่ มีคนรักมากมาย
ปล. รักเหมือนลูก เหมือนคนในครอบครัวค่ะ จากคนที่ไม่เคยใส่บาตรทำบุญ เราตื่นมาใส่บาตรทำบุญให้เป็นเดือนเลย ตอนนี้ก็ยังใส่บาตรให้ในวันครบรอบวันเกิดกับวันตายเค้าค่ะ ปกติเราไม่เชื่อเรื่องพิธีกรรมทางศาสนาอะไรเลยแหละ เวลาไหว้พระเราไม่เคยขออะไรเลย
แต่พอหมาตาย ก็มีแอบอธิษฐานขอให้เค้ามีความสุข ถ้ามีบุญได้เจอกันก็ขอให้มาเจอกันอีก เสียดายเราไม่มีลูก ไม่มีสามี ไม่งั้นจะอธิษฐานให้เค้ามาเกิดเป็นสามีเป็นลูก 555 รักมากกกก
ปล.2 ตอนพระสวดมีหมาวัดเดินมาฟังสวดด้วยนะ หลายตัวเลย 55 น้องสาวเรานี่พนมมือไป น้ำตาหยดแหมะ ๆ ไป เพราะเพิ่งเสียตอนเช้าแล้วพามาวัดเลย ตอนวันเผาเจ้านี่ นี่โศกมากกค่ะ เจ้าของทำศพหมาไป ร้องไห้กันไปแบบจริงจังมาก
เราเผาตรงวัดแถวพระราม 4 จำชื่อวัดไม่ได้
มีสวดเล็กน้อย มีพระมาทำพิธีให้ เผากับเตาเผาสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะเลยค่ะ จำราคาไม่ได้ขอโทษที
จริง ๆ ถ้าบ้านเรามีที่ฝัง คงฝังในบ้านแหละค่ะ แต่บ้านไม่มีที่ฝังจริง ๆ เป็นตึกแถวอะ
ช่วงที่หมาเราป่วยหนัก เราลางานไม่มีกำหนดค่ะ เค้าป่วยหนักจริง ๆ ได้สองสามวัน เค้าก้เสีย เสียตอนเช้าแปดโมง
(ตอนแรกเคยคิดว่าถ้าหมาเราตาย จะรู้ได้ไงว่าเค้าตายแล้วจริง ๆ ไม่ใช่หลับหรือสลบ แต่พอตายจริง ๆ รู้เลยค่ะเพราะตัวเค้าจะเริ่มแข็ง)
สัก 10 โมงก็เสิร์ชหาวัด โทรนัดพระค่ะว่ารับเผาไหมวันนี้ พระบอกว่ามาได้เลย ไปถึงวัดก็ประมาณ 11 โมง
ทำพิธีอะไร ๆ เสร็จ (เหมือนคนเแต่พิธีเล็ก ๆ กว่า สวดนิดหน่อย และบริจาคเงินทำบุญให้พระ) จากนั้นก็รอเผา สัก 1-2 ชม. ก็กลับมารับกระดูกค่ะ
เราไม่ลอยอังคารค่ะ เรายังเก็บกระดูกเค้าไว้ในห้องนอนเรานี่แหละ (ตอนนั้นยังไม่ลอยอังคาร ทำใจไม่ได้ขอเอากลับบ้าน)
รักกันมาก ไม่นึกว่าจะจากไปปุบปับ เพราะตอนที่ป่วยมาก ๆ เค้าดีขึ้นมาพักนึงเลยค่ะ เหมือนว่าจะหายป่วยแล้ว
ไม่นึกว่าสองสามวันอาการจะทรุดหนักจนถึงตาย
ซากกระดูกเค้าเราก็ใส่กระเป๋าน่ารัก ๆ วางไว้หน้าทีวีเลยแหละ 555 (ตอนนี้ฝุ่นเกาะอยู่ แต่เวลาไปทะเล ไปตจว. แบบหัวหิน พัทยานี่ เราเอากระดูกเค้าไปเที่ยววด้วยกันนะคะ เพราะตอนมีชีวิตอยู่ไปเที่ยวด้วยกันทุกทริป ถ้าเที่ยวในไทยอะนะ)
วันเค้าเสีย ตอนขับรถไปวัดเราแวะซื้อดอกไม้สดไปโรยเค้าค่ะ ซื้อมาเยอะเลย ไปถึงวัดตอนรอเผาก็นั่งจัดดอกไม้ ตัด ๆ โรย ๆ
พระไม่ให้เผาที่นอนหมาอะ เลยได้แต่เผาผ้าห่มไปกับตัวเค้าค่ะ (ผ้าห่มเค้าคือสองผืนสีเทากับสีฟ้าที่ปูรองในภาพนี่แหละ มันนอนห่มทุกวันตอนมีชีวิต)
โรยดอกไม้ให้แล้วก็จุ๊บที่แก้ม ให้เค้าเอาไปอวดเพื่อนบนสวรรค์ (มีรอยลิปสติกสีชมพู ๆ ที่แก้มชัดเลย ถูกเพื่อนข้างบนล้อแหงม ๆ )
คนอื่นจะได้รู้ว่าตัวใหม่ที่ขึ้นมานี่ มีคนรักมากมาย
ปล. รักเหมือนลูก เหมือนคนในครอบครัวค่ะ จากคนที่ไม่เคยใส่บาตรทำบุญ เราตื่นมาใส่บาตรทำบุญให้เป็นเดือนเลย ตอนนี้ก็ยังใส่บาตรให้ในวันครบรอบวันเกิดกับวันตายเค้าค่ะ ปกติเราไม่เชื่อเรื่องพิธีกรรมทางศาสนาอะไรเลยแหละ เวลาไหว้พระเราไม่เคยขออะไรเลย
แต่พอหมาตาย ก็มีแอบอธิษฐานขอให้เค้ามีความสุข ถ้ามีบุญได้เจอกันก็ขอให้มาเจอกันอีก เสียดายเราไม่มีลูก ไม่มีสามี ไม่งั้นจะอธิษฐานให้เค้ามาเกิดเป็นสามีเป็นลูก 555 รักมากกกก
ปล.2 ตอนพระสวดมีหมาวัดเดินมาฟังสวดด้วยนะ หลายตัวเลย 55 น้องสาวเรานี่พนมมือไป น้ำตาหยดแหมะ ๆ ไป เพราะเพิ่งเสียตอนเช้าแล้วพามาวัดเลย ตอนวันเผาเจ้านี่ นี่โศกมากกค่ะ เจ้าของทำศพหมาไป ร้องไห้กันไปแบบจริงจังมาก
ปุยนุ่นนุ่มนิ่มสีขาว ซึ้ง, PomVoy ซึ้ง, พุดเดิ้ลสีขาวขนฟู ซึ้ง, คุณหมาขายาว ซึ้ง, สมาชิกหมายเลข 1376703 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น
วิธีจัดการน้องหมาเมื่อคราที่มันจากไป
1. ทิ้ง - อันนี้เจอบ่อยครับ โคตรจะสงสารและสมเพช หลายๆ บ้านที่เลี้ยงน้องหมา ไม่ว่าจะเป็นหมาเด็ก หรือหมาโต ซึ่งผมไม่รู้ว่าปัญหาอาจเกิดจากการไม่มีรถ หรือ เช่าบ้านอยู่ หรือ ไม่มีพื้นที่บ้าน หรือ เป็นคนต่างพื้นที่ ใดๆ ก็ตาม ผมเคยเจอคนที่พอน้องหมาตาย ก็ใส่ถุงขยะใหญ่ๆ บ้างก็ใส่ถุงปุ๋ย แล้วไปใส่ถังขยะ รอเทศบาลมาเก็บไปทิ้ง มันเป็นอะไรที่โคตรน่าสงสารทั้งน้องหมาและคนทำงานเก็บขยะมากๆ ที่ต้องแบกถังขยะเทใส่รถขยะ แล้วเจอถุงน้องหมาในนั้น แล้วก็ต้องหอบติดไปกับรถตลอดการทำงานจนกว่าจะเอาไปทิ้ง ซึ่งทุกวันนี้ผมเชื่อว่า ก็ยังมีแบบนี้อยู่ จะหมา หรือ แมวก็ตาม พอตายก็ใส่ถุงทิ้งทันที
2. ฝัง - อันนี้ดีขึ้นมาหน่อย หลายๆ คนไม่มีจุดฝัง ผมแนะนำว่า ให้ไปคุยกับพระที่วัด ขอพื้นที่ท้ายวัดฝังน้องหมา แล้วซื้อของสังฆทานทำบุญให้น้องหมา ดีที่สุดครับ แต่เวลาฝังก็ฝังลึกๆ หน่อยนะครับ อย่าสักแต่ขี้เกียจขุด จ้างคนมาขุดก็ได้ แต่ควรที่จะแจ้งวัด แจ้งพระเจ้าของสถานที่สักหน่อย อย่างผมนี่ล่าสุดน้องหมาอายุ 5 เดือนตาย ผมก็ร้องไห้นะครับ เศร้ามาก ก็เลยไปขอหลวงพ่อที่วัดฝังน้องเขาไว้ที่ท้ายวัด หลวงพ่อก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ขุด ฝัง กลบให้เรียบร้อย ควรจะลึกอย่างน้อยๆ สัก 1 ฟุต เพราะถ้าตื้นเกินไปเมื่อเวลาผ่านไปร่างเขาบวม มันจะดันดินขึ้นมาสร้างกลิ่นเหม็นได้เช่นกัน และไม่ใช่ว่าไปยกมือไหว้ขอพระ แล้วไปขุดกันเลย ควรจะนำศพน้องหมาเปิดให้พระดูหรือให้ใครเห็นบ้างสักหน่อย หลายๆ เคสที่ขอไปฝังน้องหมา แต่เป็นการฝังเด็กทารกพวกทำแท้งเถื่อน คลอดแล้วฆ่าทิ้งอะไรแบบนี้ ดังนั้นการฝัง ทำได้จะในพื้นที่บ้าน พื้นที่วัด ก็ได้หมด สะดวกหน่อย แล้วทำบุญให้เขาบ้างนะครับ
3. เผา - การเผาผมจะไม่นับการทำกองฟอนเผากันเอง และไม่แนะนำด้วยครับ การเผาสุนัขที่ตัวเองเลี้ยงและรักกันเองนั้น เมื่อทำกองฟอนขึ้นมาเผาน้อง น้องเขามีร่างกาย มีเนื้อไม่ต่างอะไรกับเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ เมื่อเผาไปในระดับหนึ่ง กลิ่นความสุกของเนื้อมันจะลอยคลุ้งไปหมด ซึ่งมันจะทำให้คนเลี้ยงอาจเกิดภาวะจิตตกเมื่อได้กลิ่นเนื้อย่าง หมูย่าง กลับกลายเป็นจิตไม่ปล่อยวาง คิดถึงน้องหมา และรู้สึกแย่ทุกครั้งที่ได้กลิ่นทำนองนั้น ส่วนการเผาที่วัด ผมเองอยู่ชลบุรี ผมก็รู้จักอยู่วัดเดียวคือ วัดสว่างฟ้า ตรงแยกนาเกลือ โดยการเผา สามารถทำได้ 2 เวลาคือช่วงเช้า 09.00-11.00 และช่วงบ่าย 14.00-16.00 โดยมีค่าใช้จ่าย 3,500 บาท ซึ่งเขาจะมีกล่องใส่น้องหมาให้, มีสังฆทาน, ดอกไม้ข้าวตอกโปรย, ดอกไม้จันทร์, ผ้าห่อ ให้เรียบร้อย โดยค่าใช้จ่ายตรงนี้ ไม่นับค่าใส่ซองให้พระได้บังสกุลให้กับน้องหมา จะใส่เท่าไหร่ก็แล้วแต่ รวมๆ แล้วก็ 4,000 บาท สำหรับการเผาน้องหมา ถือว่าค่อนข้างสูงเลยทีเดียว
หากใครมีข้อมูลดีๆ สามารถบอกเล่าวิธีจัดการน้องหมาเมื่อคราที่มันจากไปให้ทราบกันบ้างนะครับ เผื่อจะเป็นทางเลือก หรือตัวเลือกดีๆ อีกทาง