ฆ่าพระมรณะภาพอีก ๔ รูป สะท้อนความล่มสลายของแคว้นในสมัยพุทธกาล จากหลักธรรมใด?



ฉบับที่ ๗๔ วันเสาร์ที่ ๑๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๒

เรื่อง ฆ่าพระมรณะภาพอีก ๔ รูป สะท้อนความล่มสลายของแคว้นในสมัยพุทธกาล จากหลักธรรมใด?

       จากเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่ วัดรัตนานุภาพ บ้านโคกโก หมู่ที่ 2 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2562 เวลา 20.30น.ทำให้พระสงฆ์มรณภาพ 4 รูป ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นถึงระดับเจ้าคณะอำเภอ และเจ้าอาวาส
          ท่านเป็นพระมหาเถระผู้ทรงศีล ยอมสละแม้กระทั่งชีวิตเพื่อหยัดสู้ให้กับพระพุทธศาสนา ดั่งคำพูดที่เป็นเอกลักษณ์ของท่านมาโดยตลอดว่า ”ถ้าไม่ตายไม่ยอมเลิกทำความดี” จากเหตุการณ์ลอบทำร้ายฆ่าพระครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก ณ ดินแดนภาคใต้แห่งนี้ แต่ถูกฆ่า ทำร้าย มาโดยตลอด พระมรณภาพมากมาย และยังไม่มีทีท่าว่าจะให้การคุ้มครองท่านได้
         ในฐานะผู้เขียนเป็นชาวพุทธ เลื่อมใสในคำสอนพระพุทธองค์ ได้พบว่า เหตุการณ์สะเทือนขวัญต่อพระพุทธศาสนาแบบนี้ สะท้อนเรื่องใดบ้างในสมัยพุทธกาล? ถ้าเราคุ้มครองท่านเหล่านี้ไม่ได้จะเกิดอะไรขึ้น? เพื่อให้ผู้มีอำนาจตระหนักมากยิ่งขึ้น !!! ผู้เขียนเห็นชัดเจนในเหตุการณ์แคว้นวัชชี กับหลักธรรมที่ชื่อว่า “อปริหานิยธรรม” หลักธรรมที่ทำให้เจริญไม่มีวันเสื่อมเลย สามารถอธิบายเรื่องย่อ ๆ ได้ดังนี้
          แคว้นวัชชีมีกษัตริย์ชื่อ ลิจฉวี เป็นเมืองที่หมายปองของแคว้นต่าง ๆ โดยเฉพาะแคว้นมคธ เป็นแคว้นที่ยิ่งใหญ่ มีกองกำลังมาก นำโดยพระเจ้าอชาตศัตรู ได้รุกรานมาหลายครั้งแต่ไม่สามารถเอาชนะได้เลย เพราะว่า แคว้นแห่งนี้ได้ขอแนวทางในการรอดพ้นมหันตภัยจากแคว้น ๆ และได้ปฏิบัติตามคำสอนจากพระพุทธองค์เรื่อง อปริหานิยธรรม หลักธรรมที่ทำให้ไม่มีวันเสื่อม จะเจริญเพียงอย่างเดียว
             หลักอปริหานิยธรรม มี 7 ข้อ ดังนี้
        1.หมั่นประชุมกันเนือง ๆ
        2.ประชุมหรือเลิกประชุม และทำกิจของส่วนรวมอย่างพร้อมเพรียงกัน
        3.ไม่บัญญัติสิ่งที่มิได้บัญญัติ ไม่ถอนสิ่งที่ได้บัญญัติไว้แล้วยึดถือปฏิบัติตามหลักธรรมที่บัญญัติไว้
        4.เคารพนับถือเชื่อฟังและให้เกียรติแก่ผู้เป็นประธาน ผู้บริหารหมู่คณะ และปฏิบัติตามหลักธรรมที่บัญญัติไว้
        5.ให้เกียรติ ให้ความปลอดภัยแก่สตรีเพศ ไม่ข่มเหงฉุดคร่า
        6.เคารพนับถือบูชาพระเจดีย์ทั้งหลายทั้งภายในและภายนอกเมือง และไม่บั่นทอนผลประโยชน์ที่เคยอุปถัมภ์บำรุงพระเจดีย์เหล่านั้น
        7.จัดการอารักขาโดยธรรมแก่พระอริยะ ด้วยตั้งความปรารถนาว่า พระอริยะเหล่านี้ที่ยังไม่มาสู่บ้านนี้เมืองนี้ขอให้มา ส่วนที่มาแล้วขอให้ท่านอยู่ผาสุก
              แคว้นแห่งนี้รอดพ้นมายาวนาน แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อพระพุทธเจ้าก่อนปรินิพพาน ได้เสร็จมาแคว้นแห่งนี้และตรัสกับพระอานนท์ว่า การเห็นครั้งนี้เป็น “ปัจฉิมทัสนะ” คือการเห็นครั้งสุดท้าย หลังจากนั้น แคว้นแห่งนี้ไม่ได้ปฏิบัติ อปริหานิยธรรมเพราะถูกยั่วยุ ปลุกปั่น อันนำไปสู่การขาดหลักธรรม และล่มสลายในที่สุด ซึ่งแคว้นแห่งนี้เจริญขนาดไหนก่อนที่จะล่มสลาย ดูได้จากแคว้นมคธต้องย้ายเมืองหลวงมาแคว้นวัชชีหลังจากยึดได้ เพราะอุดมสมบูรณ์มาก ๆ
             จากเหตุการณ์เข่นฆ่าพระมรณะภาพภาคใต้มาโดยตลอด จึงสะท้อนได้อย่างชัดเจนในข้อที่ 7 ว่า ไม่สามารถอารักขา คุ้มครองท่านได้อย่างผาสุก ไม่สามารถออกบิณฑบาต ปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างปลอดภัย ผู้เขียนคิดว่าเป็นเรื่องอันตรายอย่างยิ่ง คงไม่ต้องอธิบายต่อ ถ้าท่านไม่ผาสุกจะส่งผลต่อความล่มสลายได้อย่างไร เอาไว้มีเวลาจะอธิบายชัดๆในตอนต่อไป
             ทุกท่านคิดเห็นอย่างไร แลกเปลี่ยนความรู้กันใน Comment Facebook, YouTube, Blog, Line, IG, Twitter, pantip ...กันนะครับ ขอบคุณครับ

                  B.S.
            19 ม.ค. 2562
       
ตอน  ฆ่าพระมรณะภาพอีก ๔ รูป สะท้อนความล่มสลายของแคว้นในสมัยพุทธกาล จากหลักธรรมใด? เวลา 14.00-14.20 น. https://youtu.be/MaVU3i3y0JM
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่