เรือสำราญ กับงานของเขา
“Guest Service อุ้ยอ้าย กับเจ้านาย 5000 กว่าคน” Part 2
สวัสดีครับ ก็มาต่อกันที่ ตอนที่สองของ Guest Service กันเลยนะครับ สำหรับ Q&A ให้ต่อที่ คห.ที่ 2 ได้เลยครับ จะมาตอบให้หมดทุกเรื่องครับ

ไม่พูดพร่ำทำเพลง พอมาถึงเรือนะครับ หลังจากโหลดกระเป๋าลงเรือเราก็ต้องเขียน Tag กระเป๋าให้ชัดเจนว่าเรามาทำตำแหน่งอะไร ให้ชัดเจน จากนั้น ก็เอากระเป๋าไปวางบนชั้นวางที่มีล้อเลื่อนครับ ทางเรือเขาจะจัดการให้ครับ
จากนั้นก่อนเข้าเรือจะมีด่านเล็กๆ นะครับ เขาจะขอดูพาสปอร์ตเรา แล้วก็ Seaman Book เล่มสีน้ำเงินของชาวเรือครับ (เดี๋ยวเอาภาพมาแปะให้ดูครับ)

เอาละ ทีนี้ ก็จะมี HR หรือ Onboard personal เดินมารับครับ เราก็เดินแถวตอนเรียงหนึ่งเหมือนลูกเป็ดน้อยตามแม่ สู่ Gangway หรือเรียกง่ายๆ คือ ทางเดินขึ้นเรือสำหรับพนักงานครับ
พอเข้าไปปุ๊บ พวกเราก็เก้ๆกังๆครับ ไม่รู้ต้องทำอะไรบ้าง
“เฮ้ย พวกเด็กใหม่ ถอดเข็มขัดและรองเท้า วางในถาดเครื่องแสกน มือถือและกระเป๋าตังก็เช่นกัน เร็วๆ’’
เราก็กุลีกุจอจัดการ
จากนั้นก็จะเดินผ่านเครื่องตรวจโลหะครับ เหมือนสนามบินเลย แต่เค้าจะเข้มมาก กลุ่มคนจีนที่ตามหลังมามีกรรไกรตัดเล็บเล็กๆในกระเป๋าก้นของกางเกง ยังโดนให้เอาออกทิ้งเลยครับ
ต่อมา เราก็จะเดินไปยังห้องอาหาร เรียกว่า Supper Club (เรือผมมีห้องอาหารเยอะมากกก ไว้มาเล่าอีกตอนนะครับ)

มาถึงตอนนี้ ก็มีการถ่ายภาพทำบัตรพนักงานบนเรือ รับป้ายชื่อ (ไปไหนในเรือ ต้องมีทั้งสองอย่างครับ) และนั่งรอให้หัวหน้าแผนกแต่ละแผนกมารับครับ
เอิ่ม........ไม่มีใครมารับผมเลยแฮะ ผมก็นั่งแกร่ว เซ็งๆอยู่คนเดียว นั่งมองเพื่อนๆชาวต่างชาติ เดินไปตามแผนกต่างๆ (แอบน้อยใจ ทำไมมารับเราช้าจัง)
“คุณคือมิสเตอร์ทริปฮอปใช่ไหม” สาวฟิลิปปินส์รูปร่างสันทัดตาดุๆเดินมา เอาเสาโทรศัพท์แตะๆบ่าผมจากข้างหลัง
“เอิ่ม ตรีภพ ครับ ไม่เป็นไรครับเพราะชื่อผมออกเสียงยาก”
“ตามชั้นมา จริงๆแล้ว คนที่มารับเธอต้องเป็นออสการ์แต่ตอนนี้พวกเรายุ่งกับเอกสารมากเลย เดี๋ยวพาไปนั่งออฟฟิศเล่นไปก่อนนะ”
....คิดในใจ กระเป๋าอยู่ไหน ละจะอะไรยังไงต่อ ทันใดนั้น หนุ่มรัสเซียตัวสูงใหญ่ตาสีฟ้าเดินมาเคาะโต๊ะ เอียงคอมองหน้า
“ชั้นคือออสการ์ ชั้นจะสอนแกให้ทำงานให้ได้เร็วที่สุด อย่าทำอะไรโง่ๆให้ชั้นเห็นหรือเกะกะพวกเราก็พอ”
(อ่านสำเนียงรัสเซียด้วยจะได้อารมณ์มากๆครับ)
“ออสการ์ อย่าขู่เด็กใหม่สิ” เสียงสำเนียงชาวอเมริกาใต้ตะโกนข้ามห้องมาไกลๆ
ออสการ์หลุดยิ้มมุมปาก
“รับน้องนิดหน่อยจะเป็นไรไปวะ เฮ้ย เอ็งน่ะ ลุกตามมา เร็วๆ “ ออสการ์กล่าว พร้อมเดินนำไปอย่างไว ผมแทบจะต้องวิ่งตามเลยทีเดียว
“ไป I95 กัน นี่คือห้องที่เอ็งต้องมาเอาเครื่องแบบ รีบมาหลังจากเดินกับฝ่ายเซฟตี้เสร็จนะ เดี๋ยวมันปิดละเอ็งจะเดือดร้อน นี่เบอร์กุ (ใช้กุเพราะออสการ์ใช้คำว่า มายฟักกิ้งโฟนนัมเบอร์ ในเรือจะมีโทรศัพท์ให้สำหรับติดต่อภายในของออฟฟิสเซอร์ครับ)
“มองหน้าทำกล้วยไร มองห้อง และจำทุกอย่างให้เร็ว เราขาดคนอย่างแรง นายต้องเรียนรู้ให้เร็วที่สุด” ออสการ์กล่าว
“อะ นี่ห้องเอ็ง 515 ไหน บัตรชั่วคราวเอ็งอะ เออ เสียบไป เปิดละ เชี่ย สะอาดจังโว้ย” ออสการ์สบถ
“เอ้า นั่งพัก เวลา 08.45 ไปห้องที่นายมาตอนแรก ละอย่าลืม รีบไปเอาชุดซะล่ะ!!!”
หลังจากนั้น ก็ไปห้อง Supper Club ครับ ก็จะมี Safety Officer พาเดินรอบเรือ จนถึงเวลา 09.50 เขาก็ปล่อยแถว ให้ไปเอากระเป๋าที่ I95 (I95 คือทางด่วนสำหรับพนักงานในเรือครับ สามารถเดินจากหัวเรือไปยังท้ายเรือได้เลยครับ)
ปรากฏว่า ห้องปิด !!! เลยโทรไปหาออสการ์ “มีหรือไม่มีชุด นายต้องย้ายตูดมาออฟฟิศนะ ชั้นยุ่งอยู่ ละเจอกัน เตรียมสมองมาด้วย อย่าร้องไห้เวลาชั้นสอนละกัน เจ้าเนื้อสด(Fresh meat onboard –ใช้เรียกพวกเด็กใหม่สดๆซิงๆไม่เคยขึ้นเรือครับ ถ้าเป็นสาวไทยละก็ระวังให้ดี เพราะสาวไทย คือผู้หญิงที่คนบนเรือจะรุมจีบ ขนาดผมเป็น...ผู้ชายแท้ๆ ยังโดนผู้ชายด้วยกันจีบอะครับ คิดดู...)
วางสายปุ๊บ มีคนมาสะกิด “น้องคนไทยป่ะ กรี๊ด ใช่จริงๆด้วย นี่เบอร์ห้องพี่นะ ทั้งลำเรามีกันแค่ห้าคนเอง สงสัยไรโทรมาละกัน พี่ชื่อวินะ พอดีแฟนพี่เจอเราที่หน้าห้องนี้ เห็นป้ายชื่อติดธงไทย เลยมาบอกพี่น่ะ” “…….พี่วิ คือคนไทยคนแรก ที่ทำให้ผมหายกลัวและประหม่า
“เครื่องแบบเขาเปิดสิบโมง ไม่ใช่ปิด รอตรงนี้แหละ อะ นั่นไง เปิดละ ไปๆๆๆ ไปเอาเครื่องแบบซะ”
ในที่สุด ผมก็ได้เครื่องแบบสักที......

เวลา 11.00 เพิ่งถึงออฟฟิส “เอ็งไปทำเชี่ยที่ไหนมาวะ... เออ ได้เครื่องแบบด้วย ดีมาก นั่งลง เอ็งรู้จักระบบ Opera ป่ะ ที่นี่ใช้คล้ายๆกันเรียกว่า Fidelio ส่วนนี่ เรียกว่าระบบคีย์การ์ด หรือ Ving System เอ้า อ่าน!!!!”
อ่านจนตาลาย เอกสารราวๆเกือบสามร้อยหน้า อ่านยังไม่หมด....เวลา 12.00
“ออสการ์ พาเด็กใหม่ไปกินข้าว สั่นละนั่น” ออฟฟิศเซอร์คนแรกที่มารับผมเดินมาพร้อมกับบอกออสการ์
“แล้วอย่าทำเด็กใหม่ร้องไห้แบบคิมูร์อีกล่ะ”
ออสการ์ลุกขึ้น ยิ้มมุมปาก และพาผมไปทานข้าวที่ Crew Mess
อาหารที่นี่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ มีแกงอินเดีย แกงฟิลิปปินส์ แต่ไม่มีอาหารไทยเลย พิซซ่าหน้าชีส ซุป ไข่ สลัดบาร์ ไก่ย่าง ไก่ทอด เบคอนทอด ชีสหั่นเต๋า บรรยายไม่หมดครับ อ่อ มีเค้กอีกหลายๆแบบเลยครับให้เลือกกิน
ออสการ์บอก “รีบแดรก แล้วย้ายตูดไปออฟฟิสซะ ชั้นจะไปพัก ไปหาคาร์เมล่าซะ เดี๋ยวนางจะสอนอะไรๆนายเองแหละ”
พอกลับมาถึงออฟฟิส
“มานี่เจ้าฮิปฮอป....นายมีชื่อเล่นป่ะ”
ออฟฟิศเซอร์คนแรกที่ผมเจอตะโกน ผมมองไปที่ป้ายชื่อนางพร้อมๆกับทราบว่า นี่คือคาร์เมล่า Guest Service Supervisor หรือ GSS
“ชื่อเดฟครับ” ผมตอบ
“เอ้า นั่ง ตอบโทรศัพท์ลูกค้าซะเจ้าเดฟ”
สายแรกดังขึ้น “ห้องอาหาร....ไปทางไหน” ผมมองไปที่คาร์เมล่า
คาร์เมล่า “ตอบสิเจ้าทึ่ม”
ผมทำปาก “ผมไม่รู้.....”
คาร์เมล่า ตะโกน .... “ห่วย” แล้วแย่งโทรศัพท์ไปตอบลูกค้า
(ในภาพคือห้องโอเปอร์เรเตอร์หรือรับโทรศัพท์ ซึ่งสำคัญมาก ไว้จะมาเล่าในลำดับต่อไปครับ)

นางยัดเอกสารอะไรสักอย่างใส่กระเป๋าเสื้อ “ให้เวลาห้านาที ไปท่องจำมา ถ้าตอบไม่ได้ กลับห้องละพิจารณาตัวเองซะ”
คนอื่นๆ ในห้องนั้น มองผมแบบสงสาร ผมก็ขอบคุณแล้วเดินออกไป ไม่ได้คิดอะไร ไม่มีอารมณ์ใดๆในหัว รู้แต่ว่า ต้องทำให้ได้ จากนั้น สามนาที คาร์เมล่าเดินมาถามข้อมูลต่างๆ ผมตอบได้หมด นางก็บอก ผ่าน!!! แล้วโทรไปหาออสการ์ว่า “เด็กใหม่เอ็งน่ะ ผ่าน ไม่โง่ ภาษาผ่าน จะให้ตามติด พนง.เก่าออกหน้าฟร้อนท์ทันที ตามนั้น”
ตูม!!!! ออสการ์เปิดประตูมา ยิ้มมุมปาก “ดีมาก ที่นายไม่โง่และเรียนรู้ไว มา ตามหลังชั้นให้เป็นเงาเลย แต่อย่ามาใกล้มาก ชั้นเกลียดเกย์โว้ย”
ที่ฟรอนท์ ลูกค้านับร้อยต่อแถวยาวเหยียด ออสการ์บอกให้ไปล้างลิปมันออกละค่อยตามมา (ผมริมฝีปากแห้งง่าย ละไม่รู้ว่าลิปมันที่ซื้อมา มันมีสีชมพู!!!!)
ผมเดินออกมาอีกครั้ง ออสการ์กำลังโดนลูกค้าตะโกนใส่หน้า ด่าเรื่องอะไรสักอย่าง..... พอผมเดินไปไกล้ๆ
“เฮ้ย เดฟ นายอยู่แผนกนี้เหรอ” จับมือๆ.....ลูกค้าครอบครัวที่ผมช่วยยกกระเป๋า ยิ้มให้พร้อมดึงมือผมไปจับ “เรือนายนี่ จองนั่นนี่ยากจริงๆ ....ผมเลยบอก ไปที่แผนก....สิ เร็วกว่าเยอะ พวกผมทำได้แค่โทรละให้เขาจองอีกทีมันเลยช้าน่ะ”
“เอ้า ละไม่บอกแต่แรกวะ ไอ่หนุ่มรัสเซียนี่ทำชั้นรอเป็นสิบนาทีเลย ไปก่อนนะเดฟ ละเจอกัน”
ออสการ์หันมา หูแดง ตาแดง
“เดฟ ห้าม

คุยกับลูกค้าถ้าชั้นไม่บอก แล้วอีกอย่าง ชั้นมาจากลัทเวีย อย่าเรียกชั้นรัสเซียล่ะ ไม่งั้นสวยแน่”
หลังจากพายุลูกค้าที่กระหน่ำแผนกผม ซึ่งโดยมาก ลูกค้าทั้งหลายจะถามเหมือนที่คาร์เมล่าให้เอกสารผมอ่าน ผมก็เห็นออสการ์ตอบตามนั้นครับ แต่ก็ยืนตัวลีบๆ จดๆๆๆๆเพื่อที่จะเรียนรู้ให้เร็วที่สุด จนถึงเวลา 14.35 ได้เวลาลูกค้าฝึกการอพยพยามฉุกเฉิน ผมจึงถูกต้อนให้เข้าไปหลบในห้องประชุม ที่นั่น ผมเห็นแผนกผมทุกคน ทุกคนแนะนำตัว.....จนถึงคนจีนคนนึง ที่ภาษาอังกฤษแม้แต่แนะนำตัว ยังตะกุกตะกัก นั่นคือคิมูร์ อดีตเด็กใหม่ที่ออสการ์ฝึกนั่นเอง ออสการ์มองไปที่คิมูร์แล้วมองกลับมาที่ผม พร้อมกับพูดว่า “เดฟเหนือกว่าคิมูร์ทุกอย่าง เดฟมาได้วันแรก ตามทันทุกอย่างและแก้ปัญหาลูกค้าได้ ถึงจะข้ามหน้าไปแต่ชั้นก็ต้องยอมรับ เดฟ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ทีม” ออสการ์กล่าว....พร้อมกับเดินมาไกล้ๆผมแล้วชี้หน้า “แต่อย่าทำอะไรโง่ๆล่ะ” ทุกคนหัวเราะ รวมถึงคิมูร์....
.วันแรกของเรือสำราญของผมก็จบลง....
“เดฟ -เบียร์โว้ย นั่งเอ๋อทำเพื่อ แหกตาดูตารางด้วย หมดเวลาทำงานแล้วววววว” ออสการ์เดินมากระชากแขนเสื้อหลังจากผมเสร็จสิ้นภาระกิจวันที่สองในห้องรับโทรศัพท์ที่ลูกค้าจะถามคำถามเดิมๆ ซ้ำๆว่าอะไรอยู่ที่ไหนอย่างไร เปิดปิดกี่โมง มีอะไรให้ทำบ้างวันนี้....
“นายมาได้จังหวะ วันนี้มีจัดเลี้ยงของแผนก ไป ไปช่วยโรเบิร์ตขนไก่ทอด นาโชชีสและสลัดที่ I95 เร็ว”
โรเบิร์ต คือหนุ่มชาวโปแลนด์ร่างยักษ์ ตาดุ แต่นิสัยน่ารัก เห็นผมเดินมาจะช่วยเลยบอกให้ผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ....แล้วมาเจอกันที่ห้อง Supper Club
(เวลาพนักงานเดินเที่ยวในเรือต้องแต่งกายสุภาพเสมอครับ)

มาที่ห้องจัดเลี้ยง.....
“ออสการ์สอนนายเรืองสิทธิประโยชน์ของนายยัง?” โนมิต้า ผู้จัดการแผนกถาม ผมตอบ
“ยังครับ เพราะพวกเรายุ่งมากครับ” ผมตอบ
โนมิต้า จึงให้โรเบิร์ตอธิบาย พร้อมๆกับทานอาหารรอพนักงานแผนกท่านอื่นๆ
“เดฟ ชั้นจะบอกเป็นข้อๆดังนี้ จดให้ทันล่ะ” โรเบิร์ตบอก พร้อมๆกับมองที่กระเป๋าเสื้อผม ที่ผมชอบพกโนทเล็กๆไว้จดทุกอย่างเสมอ
1. เสื้อผ้า ไม่ต้องซักเอง เว้นแต่ กกน.กับถุงเท้า นายต้องซักเอง เรามีห้องซักรีด
2. ห้องนอนนาย นายไม่ต้องทำความสะอาด มีคนทำให้ แต่ถ้ามันสกปรกไป โทรบอกคนๆนั้นเลยนะ
3. นายสามารถไปทานอาหารโซนลูกค้าได้เวลาวันเทียบท่าเท่านั้น วันที่เรือล่องกลางทะเล นายไปได้ในกรณีที่ลูกค้าไม่เต็มร้านเท่านั้น ของทุกอย่างที่นายซื้อ จะมีราคาพนักงานหรือไม่มีก็ได้ ดังนั้นระวังให้ดี
4. อินเตอร์เน็ท ชม.ละ ห้าดอลล่าห์ อย่าเผลอเปิดทิ้งไว้ไม่งั้นหมดแน่นอน
5. เราสามารถพาสาวๆจากแผนกอื่นไปทานอาหารห้องอาหารลูกค้าได้ แต่ต้องตามกฎข้อสาม
6. นายพาสาวๆไปชิกกี้ๆที่ห้องได้ เพราะห้องนายเป็นห้องส่วนตัว ห้องน้ำแชร์กับอีกห้อง
7. นายไปออกกำลังที่ยิมลูกค้าได้
8. นายไปส่วนโรงแรม Haven ได้ ถ้าอยากไปเที่ยวหาเพื่อนหรือลูกค้าที่นั่น (บางจุด ลูกเรือบางตำแหน่งไปไม่ได้ครับ)
ณ คืนนั้น ผมไม่ได้ดื่มอะไร เพราะผมได้สัญญากับที่บ้านไว้ว่าจะไม่ดื่ม (แหม่ เสียดาย) แต่นั่น....ยังไม่จบ นี่แค่สองวันแรกเท่านั้น....
เรือสำราญ กับงานของเขา “Guest Service อุ้ยอ้าย กับเจ้านาย 5000 กว่าคน” Part 2
“Guest Service อุ้ยอ้าย กับเจ้านาย 5000 กว่าคน” Part 2
สวัสดีครับ ก็มาต่อกันที่ ตอนที่สองของ Guest Service กันเลยนะครับ สำหรับ Q&A ให้ต่อที่ คห.ที่ 2 ได้เลยครับ จะมาตอบให้หมดทุกเรื่องครับ
ไม่พูดพร่ำทำเพลง พอมาถึงเรือนะครับ หลังจากโหลดกระเป๋าลงเรือเราก็ต้องเขียน Tag กระเป๋าให้ชัดเจนว่าเรามาทำตำแหน่งอะไร ให้ชัดเจน จากนั้น ก็เอากระเป๋าไปวางบนชั้นวางที่มีล้อเลื่อนครับ ทางเรือเขาจะจัดการให้ครับ
จากนั้นก่อนเข้าเรือจะมีด่านเล็กๆ นะครับ เขาจะขอดูพาสปอร์ตเรา แล้วก็ Seaman Book เล่มสีน้ำเงินของชาวเรือครับ (เดี๋ยวเอาภาพมาแปะให้ดูครับ)
เอาละ ทีนี้ ก็จะมี HR หรือ Onboard personal เดินมารับครับ เราก็เดินแถวตอนเรียงหนึ่งเหมือนลูกเป็ดน้อยตามแม่ สู่ Gangway หรือเรียกง่ายๆ คือ ทางเดินขึ้นเรือสำหรับพนักงานครับ
พอเข้าไปปุ๊บ พวกเราก็เก้ๆกังๆครับ ไม่รู้ต้องทำอะไรบ้าง
“เฮ้ย พวกเด็กใหม่ ถอดเข็มขัดและรองเท้า วางในถาดเครื่องแสกน มือถือและกระเป๋าตังก็เช่นกัน เร็วๆ’’
เราก็กุลีกุจอจัดการ
จากนั้นก็จะเดินผ่านเครื่องตรวจโลหะครับ เหมือนสนามบินเลย แต่เค้าจะเข้มมาก กลุ่มคนจีนที่ตามหลังมามีกรรไกรตัดเล็บเล็กๆในกระเป๋าก้นของกางเกง ยังโดนให้เอาออกทิ้งเลยครับ
ต่อมา เราก็จะเดินไปยังห้องอาหาร เรียกว่า Supper Club (เรือผมมีห้องอาหารเยอะมากกก ไว้มาเล่าอีกตอนนะครับ)
มาถึงตอนนี้ ก็มีการถ่ายภาพทำบัตรพนักงานบนเรือ รับป้ายชื่อ (ไปไหนในเรือ ต้องมีทั้งสองอย่างครับ) และนั่งรอให้หัวหน้าแผนกแต่ละแผนกมารับครับ
เอิ่ม........ไม่มีใครมารับผมเลยแฮะ ผมก็นั่งแกร่ว เซ็งๆอยู่คนเดียว นั่งมองเพื่อนๆชาวต่างชาติ เดินไปตามแผนกต่างๆ (แอบน้อยใจ ทำไมมารับเราช้าจัง)
“คุณคือมิสเตอร์ทริปฮอปใช่ไหม” สาวฟิลิปปินส์รูปร่างสันทัดตาดุๆเดินมา เอาเสาโทรศัพท์แตะๆบ่าผมจากข้างหลัง
“เอิ่ม ตรีภพ ครับ ไม่เป็นไรครับเพราะชื่อผมออกเสียงยาก”
“ตามชั้นมา จริงๆแล้ว คนที่มารับเธอต้องเป็นออสการ์แต่ตอนนี้พวกเรายุ่งกับเอกสารมากเลย เดี๋ยวพาไปนั่งออฟฟิศเล่นไปก่อนนะ”
....คิดในใจ กระเป๋าอยู่ไหน ละจะอะไรยังไงต่อ ทันใดนั้น หนุ่มรัสเซียตัวสูงใหญ่ตาสีฟ้าเดินมาเคาะโต๊ะ เอียงคอมองหน้า
“ชั้นคือออสการ์ ชั้นจะสอนแกให้ทำงานให้ได้เร็วที่สุด อย่าทำอะไรโง่ๆให้ชั้นเห็นหรือเกะกะพวกเราก็พอ”
(อ่านสำเนียงรัสเซียด้วยจะได้อารมณ์มากๆครับ)
“ออสการ์ อย่าขู่เด็กใหม่สิ” เสียงสำเนียงชาวอเมริกาใต้ตะโกนข้ามห้องมาไกลๆ
ออสการ์หลุดยิ้มมุมปาก
“รับน้องนิดหน่อยจะเป็นไรไปวะ เฮ้ย เอ็งน่ะ ลุกตามมา เร็วๆ “ ออสการ์กล่าว พร้อมเดินนำไปอย่างไว ผมแทบจะต้องวิ่งตามเลยทีเดียว
“ไป I95 กัน นี่คือห้องที่เอ็งต้องมาเอาเครื่องแบบ รีบมาหลังจากเดินกับฝ่ายเซฟตี้เสร็จนะ เดี๋ยวมันปิดละเอ็งจะเดือดร้อน นี่เบอร์กุ (ใช้กุเพราะออสการ์ใช้คำว่า มายฟักกิ้งโฟนนัมเบอร์ ในเรือจะมีโทรศัพท์ให้สำหรับติดต่อภายในของออฟฟิสเซอร์ครับ)
“มองหน้าทำกล้วยไร มองห้อง และจำทุกอย่างให้เร็ว เราขาดคนอย่างแรง นายต้องเรียนรู้ให้เร็วที่สุด” ออสการ์กล่าว
“อะ นี่ห้องเอ็ง 515 ไหน บัตรชั่วคราวเอ็งอะ เออ เสียบไป เปิดละ เชี่ย สะอาดจังโว้ย” ออสการ์สบถ
“เอ้า นั่งพัก เวลา 08.45 ไปห้องที่นายมาตอนแรก ละอย่าลืม รีบไปเอาชุดซะล่ะ!!!”
หลังจากนั้น ก็ไปห้อง Supper Club ครับ ก็จะมี Safety Officer พาเดินรอบเรือ จนถึงเวลา 09.50 เขาก็ปล่อยแถว ให้ไปเอากระเป๋าที่ I95 (I95 คือทางด่วนสำหรับพนักงานในเรือครับ สามารถเดินจากหัวเรือไปยังท้ายเรือได้เลยครับ)
ปรากฏว่า ห้องปิด !!! เลยโทรไปหาออสการ์ “มีหรือไม่มีชุด นายต้องย้ายตูดมาออฟฟิศนะ ชั้นยุ่งอยู่ ละเจอกัน เตรียมสมองมาด้วย อย่าร้องไห้เวลาชั้นสอนละกัน เจ้าเนื้อสด(Fresh meat onboard –ใช้เรียกพวกเด็กใหม่สดๆซิงๆไม่เคยขึ้นเรือครับ ถ้าเป็นสาวไทยละก็ระวังให้ดี เพราะสาวไทย คือผู้หญิงที่คนบนเรือจะรุมจีบ ขนาดผมเป็น...ผู้ชายแท้ๆ ยังโดนผู้ชายด้วยกันจีบอะครับ คิดดู...)
วางสายปุ๊บ มีคนมาสะกิด “น้องคนไทยป่ะ กรี๊ด ใช่จริงๆด้วย นี่เบอร์ห้องพี่นะ ทั้งลำเรามีกันแค่ห้าคนเอง สงสัยไรโทรมาละกัน พี่ชื่อวินะ พอดีแฟนพี่เจอเราที่หน้าห้องนี้ เห็นป้ายชื่อติดธงไทย เลยมาบอกพี่น่ะ” “…….พี่วิ คือคนไทยคนแรก ที่ทำให้ผมหายกลัวและประหม่า
“เครื่องแบบเขาเปิดสิบโมง ไม่ใช่ปิด รอตรงนี้แหละ อะ นั่นไง เปิดละ ไปๆๆๆ ไปเอาเครื่องแบบซะ”
ในที่สุด ผมก็ได้เครื่องแบบสักที......
เวลา 11.00 เพิ่งถึงออฟฟิส “เอ็งไปทำเชี่ยที่ไหนมาวะ... เออ ได้เครื่องแบบด้วย ดีมาก นั่งลง เอ็งรู้จักระบบ Opera ป่ะ ที่นี่ใช้คล้ายๆกันเรียกว่า Fidelio ส่วนนี่ เรียกว่าระบบคีย์การ์ด หรือ Ving System เอ้า อ่าน!!!!”
อ่านจนตาลาย เอกสารราวๆเกือบสามร้อยหน้า อ่านยังไม่หมด....เวลา 12.00
“ออสการ์ พาเด็กใหม่ไปกินข้าว สั่นละนั่น” ออฟฟิศเซอร์คนแรกที่มารับผมเดินมาพร้อมกับบอกออสการ์
“แล้วอย่าทำเด็กใหม่ร้องไห้แบบคิมูร์อีกล่ะ”
ออสการ์ลุกขึ้น ยิ้มมุมปาก และพาผมไปทานข้าวที่ Crew Mess
อาหารที่นี่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนไปเรื่อยๆ มีแกงอินเดีย แกงฟิลิปปินส์ แต่ไม่มีอาหารไทยเลย พิซซ่าหน้าชีส ซุป ไข่ สลัดบาร์ ไก่ย่าง ไก่ทอด เบคอนทอด ชีสหั่นเต๋า บรรยายไม่หมดครับ อ่อ มีเค้กอีกหลายๆแบบเลยครับให้เลือกกิน
ออสการ์บอก “รีบแดรก แล้วย้ายตูดไปออฟฟิสซะ ชั้นจะไปพัก ไปหาคาร์เมล่าซะ เดี๋ยวนางจะสอนอะไรๆนายเองแหละ”
พอกลับมาถึงออฟฟิส
“มานี่เจ้าฮิปฮอป....นายมีชื่อเล่นป่ะ”
ออฟฟิศเซอร์คนแรกที่ผมเจอตะโกน ผมมองไปที่ป้ายชื่อนางพร้อมๆกับทราบว่า นี่คือคาร์เมล่า Guest Service Supervisor หรือ GSS
“ชื่อเดฟครับ” ผมตอบ
“เอ้า นั่ง ตอบโทรศัพท์ลูกค้าซะเจ้าเดฟ”
สายแรกดังขึ้น “ห้องอาหาร....ไปทางไหน” ผมมองไปที่คาร์เมล่า
คาร์เมล่า “ตอบสิเจ้าทึ่ม”
ผมทำปาก “ผมไม่รู้.....”
คาร์เมล่า ตะโกน .... “ห่วย” แล้วแย่งโทรศัพท์ไปตอบลูกค้า
(ในภาพคือห้องโอเปอร์เรเตอร์หรือรับโทรศัพท์ ซึ่งสำคัญมาก ไว้จะมาเล่าในลำดับต่อไปครับ)
นางยัดเอกสารอะไรสักอย่างใส่กระเป๋าเสื้อ “ให้เวลาห้านาที ไปท่องจำมา ถ้าตอบไม่ได้ กลับห้องละพิจารณาตัวเองซะ”
คนอื่นๆ ในห้องนั้น มองผมแบบสงสาร ผมก็ขอบคุณแล้วเดินออกไป ไม่ได้คิดอะไร ไม่มีอารมณ์ใดๆในหัว รู้แต่ว่า ต้องทำให้ได้ จากนั้น สามนาที คาร์เมล่าเดินมาถามข้อมูลต่างๆ ผมตอบได้หมด นางก็บอก ผ่าน!!! แล้วโทรไปหาออสการ์ว่า “เด็กใหม่เอ็งน่ะ ผ่าน ไม่โง่ ภาษาผ่าน จะให้ตามติด พนง.เก่าออกหน้าฟร้อนท์ทันที ตามนั้น”
ตูม!!!! ออสการ์เปิดประตูมา ยิ้มมุมปาก “ดีมาก ที่นายไม่โง่และเรียนรู้ไว มา ตามหลังชั้นให้เป็นเงาเลย แต่อย่ามาใกล้มาก ชั้นเกลียดเกย์โว้ย”
ที่ฟรอนท์ ลูกค้านับร้อยต่อแถวยาวเหยียด ออสการ์บอกให้ไปล้างลิปมันออกละค่อยตามมา (ผมริมฝีปากแห้งง่าย ละไม่รู้ว่าลิปมันที่ซื้อมา มันมีสีชมพู!!!!)
ผมเดินออกมาอีกครั้ง ออสการ์กำลังโดนลูกค้าตะโกนใส่หน้า ด่าเรื่องอะไรสักอย่าง..... พอผมเดินไปไกล้ๆ
“เฮ้ย เดฟ นายอยู่แผนกนี้เหรอ” จับมือๆ.....ลูกค้าครอบครัวที่ผมช่วยยกกระเป๋า ยิ้มให้พร้อมดึงมือผมไปจับ “เรือนายนี่ จองนั่นนี่ยากจริงๆ ....ผมเลยบอก ไปที่แผนก....สิ เร็วกว่าเยอะ พวกผมทำได้แค่โทรละให้เขาจองอีกทีมันเลยช้าน่ะ”
“เอ้า ละไม่บอกแต่แรกวะ ไอ่หนุ่มรัสเซียนี่ทำชั้นรอเป็นสิบนาทีเลย ไปก่อนนะเดฟ ละเจอกัน”
ออสการ์หันมา หูแดง ตาแดง
“เดฟ ห้าม
หลังจากพายุลูกค้าที่กระหน่ำแผนกผม ซึ่งโดยมาก ลูกค้าทั้งหลายจะถามเหมือนที่คาร์เมล่าให้เอกสารผมอ่าน ผมก็เห็นออสการ์ตอบตามนั้นครับ แต่ก็ยืนตัวลีบๆ จดๆๆๆๆเพื่อที่จะเรียนรู้ให้เร็วที่สุด จนถึงเวลา 14.35 ได้เวลาลูกค้าฝึกการอพยพยามฉุกเฉิน ผมจึงถูกต้อนให้เข้าไปหลบในห้องประชุม ที่นั่น ผมเห็นแผนกผมทุกคน ทุกคนแนะนำตัว.....จนถึงคนจีนคนนึง ที่ภาษาอังกฤษแม้แต่แนะนำตัว ยังตะกุกตะกัก นั่นคือคิมูร์ อดีตเด็กใหม่ที่ออสการ์ฝึกนั่นเอง ออสการ์มองไปที่คิมูร์แล้วมองกลับมาที่ผม พร้อมกับพูดว่า “เดฟเหนือกว่าคิมูร์ทุกอย่าง เดฟมาได้วันแรก ตามทันทุกอย่างและแก้ปัญหาลูกค้าได้ ถึงจะข้ามหน้าไปแต่ชั้นก็ต้องยอมรับ เดฟ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ทีม” ออสการ์กล่าว....พร้อมกับเดินมาไกล้ๆผมแล้วชี้หน้า “แต่อย่าทำอะไรโง่ๆล่ะ” ทุกคนหัวเราะ รวมถึงคิมูร์....
.วันแรกของเรือสำราญของผมก็จบลง....
“เดฟ -เบียร์โว้ย นั่งเอ๋อทำเพื่อ แหกตาดูตารางด้วย หมดเวลาทำงานแล้วววววว” ออสการ์เดินมากระชากแขนเสื้อหลังจากผมเสร็จสิ้นภาระกิจวันที่สองในห้องรับโทรศัพท์ที่ลูกค้าจะถามคำถามเดิมๆ ซ้ำๆว่าอะไรอยู่ที่ไหนอย่างไร เปิดปิดกี่โมง มีอะไรให้ทำบ้างวันนี้....
“นายมาได้จังหวะ วันนี้มีจัดเลี้ยงของแผนก ไป ไปช่วยโรเบิร์ตขนไก่ทอด นาโชชีสและสลัดที่ I95 เร็ว”
โรเบิร์ต คือหนุ่มชาวโปแลนด์ร่างยักษ์ ตาดุ แต่นิสัยน่ารัก เห็นผมเดินมาจะช่วยเลยบอกให้ผมไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ....แล้วมาเจอกันที่ห้อง Supper Club
(เวลาพนักงานเดินเที่ยวในเรือต้องแต่งกายสุภาพเสมอครับ)
มาที่ห้องจัดเลี้ยง.....
“ออสการ์สอนนายเรืองสิทธิประโยชน์ของนายยัง?” โนมิต้า ผู้จัดการแผนกถาม ผมตอบ
“ยังครับ เพราะพวกเรายุ่งมากครับ” ผมตอบ
โนมิต้า จึงให้โรเบิร์ตอธิบาย พร้อมๆกับทานอาหารรอพนักงานแผนกท่านอื่นๆ
“เดฟ ชั้นจะบอกเป็นข้อๆดังนี้ จดให้ทันล่ะ” โรเบิร์ตบอก พร้อมๆกับมองที่กระเป๋าเสื้อผม ที่ผมชอบพกโนทเล็กๆไว้จดทุกอย่างเสมอ
1. เสื้อผ้า ไม่ต้องซักเอง เว้นแต่ กกน.กับถุงเท้า นายต้องซักเอง เรามีห้องซักรีด
2. ห้องนอนนาย นายไม่ต้องทำความสะอาด มีคนทำให้ แต่ถ้ามันสกปรกไป โทรบอกคนๆนั้นเลยนะ
3. นายสามารถไปทานอาหารโซนลูกค้าได้เวลาวันเทียบท่าเท่านั้น วันที่เรือล่องกลางทะเล นายไปได้ในกรณีที่ลูกค้าไม่เต็มร้านเท่านั้น ของทุกอย่างที่นายซื้อ จะมีราคาพนักงานหรือไม่มีก็ได้ ดังนั้นระวังให้ดี
4. อินเตอร์เน็ท ชม.ละ ห้าดอลล่าห์ อย่าเผลอเปิดทิ้งไว้ไม่งั้นหมดแน่นอน
5. เราสามารถพาสาวๆจากแผนกอื่นไปทานอาหารห้องอาหารลูกค้าได้ แต่ต้องตามกฎข้อสาม
6. นายพาสาวๆไปชิกกี้ๆที่ห้องได้ เพราะห้องนายเป็นห้องส่วนตัว ห้องน้ำแชร์กับอีกห้อง
7. นายไปออกกำลังที่ยิมลูกค้าได้
8. นายไปส่วนโรงแรม Haven ได้ ถ้าอยากไปเที่ยวหาเพื่อนหรือลูกค้าที่นั่น (บางจุด ลูกเรือบางตำแหน่งไปไม่ได้ครับ)
ณ คืนนั้น ผมไม่ได้ดื่มอะไร เพราะผมได้สัญญากับที่บ้านไว้ว่าจะไม่ดื่ม (แหม่ เสียดาย) แต่นั่น....ยังไม่จบ นี่แค่สองวันแรกเท่านั้น....