[BR] เหล่านักช็อปเตรียมเช็คอิน รวมแหล่งช็อปปิ้ง ในโอซาก้า,โกเบ,ฟุคุโอกะ,โตเกียวครบจบในที่ห้างเดียว

Hello Osaka~ ถ้าพูดถึง โอซาก้า เพื่อนๆ นึกถึงอะไรกันนะ บางคนก็อาจจะคิดถึงทาโกะยากินุ่มๆ โอโคโนมิยากิแสนอร่อย ปราสาทโอซาก้าอันทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์และสวยงาม  หรือจะเป็นภาพใบไม้เปลี่ยนสีแดงสดทั่วเมือง ที่ลอยเข้ามาในหัว ถ้าเพื่อนๆ มีภาพเหล่านี้อยู่ในหัวล่ะก็ เราคือเพื่อนกัน เพราะโอซาก้า เป็นเมืองใหญ่ทางตอนใต้ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เฉพาะตัว จนใครๆ ก็ต้องตกหลุมรัก

แต่ของดีโอซาก้ายังไม่หมดเพียงเท่านี้น้า เพราะยังมีอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่นักเดินทางไม่ควรพลาดหากมาที่นี่ นั่นก็คือ Hankyu Umeda Main Store ห้างใหญ่ใจกลางโอซาก้า ที่รวมแฟชั่น เครื่องสำอาง อาหาร และขนมหวานชื่อดังของญี่ปุ่น ตลอดจนของฝากต่าง ๆ มาที่นี่ได้ครบจบในย่านเดียว  และเพื่อให้ทริปโอซาก้าของเพื่อนๆ สนุกยิ่งขึ้นมากกว่าเดิม เราจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักทุกซอกทุกมุมของที่นี่กัน
ใกล้กับ Hankyu Umeda Main Store แล้วยังมี Hanshin Umeda Main Store และ Hankyu Men’s Osaka ก็อยู่ใกล้ๆ กัน สามารถเพลิดเพลินกับแฟชั่นและเครื่องสำอางล้ำสมัย รวมถึงอาหาร ขนมหวาน และของฝากที่เป็นตัวแทนของญี่ปุ่นและโอซาก้าได้อย่างครบถ้วนในที่เดียว

นอกจากนี้ ยังมีสาขาในเมืองอื่นๆ เช่น Hankyu Hakata ซึ่งเชื่อมต่อโดยตรงกับสถานีฮากาตะในจังหวัดฟุกุโอกะ และ Hankyu Men’s Tokyo ที่ตั้งอยู่ในยูราคุโจ กรุงโตเกียว ซึ่งเป็นจุดแวะช้อปปิ้งที่น่าสนใจเมื่อเดินทางไปฟุกุโอกะหรือโตเกียวอีกด้วย ที่สำคัญที่นี่ก็มีบริการ tax-free shopping  และ wifi free สำหรับลูกค้า พร้อมทั้งมีแผนกช่วยเหลือ คอยดูแล ให้ความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวทุกคนด้วยน้า มาดูซิ มีอะไรน่าสนใจบ้างเอ่ย?

Hankyu Umeda Main Store

ก่อนจะไปเดินเข้าช็อป เรามาทำความรู้จักห้างแห่งนี้กันสักหน่อยดีกว่า Hankyu Umeda Main Store เป็นห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมียมใจกลางโอซาก้า เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 1929 และเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งแรกของโลกที่เชื่อมต่อโดยตรงกับสถานีรถไฟ หากเพื่อนๆ คนไหนอยากแวะมาเช็คอินที่นี่ ก็แค่นั่งรถไฟฟ้ามายัง สถานีหลักอย่าง Hankyu Osaka Umeda และ JR Osaka ก็สามารถมาที่นี่ได้อย่างง่ายดาย สะดวกสุดๆ ไปเลย


สายแฟ ที่หาลุคคูล เท่ๆ หรือจะรันวงการตัวแม่ ก็สามารถตอบโจทย์ได้ดีเลยล่ะ เพราะที่นี่เข้าได้รวบรวมแบรนด์แฟนชั่นชั้นนำไว้มากมาย ตั้งแต่แฟชั่นแบรนด์หรูระดับโลก แฟชั่นโมเดิร์นล้ำสมัย ไปจนถึงโซนเครื่องสำอางที่ใหญ่ที่สุดในแถบภูมิภาคคันไซ รวมไปถึงกระเป๋าแบรนด์เนม & กระเป๋าสตางค์ ก็มีทั้งรุ่นใหม่ล่าสุดและรุ่นยอดนิยมจากแบรนด์ให้ได้เลือกกันอย่างชอบใจ บอกเลยว่าแค่ได้เดินดูรอบๆ ก็ทำให้หัวใจเต้นแรงแล้ว

สำหรับ สาวๆ สายบิวตี้ ก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะ ชั้น 2-10 ของที่นี่นั้น จะพาทุกคนก้าวเข้าสู่จักรวาลของโลกแห่งความสวยงาม เพื่อนๆ จะพบกับชั้นเครื่องสำอาง HANKYU BEAUTY ที่ให้สามารถเดินช็อปกันอย่างเพลิดเพลิน ชั้นนี้เขาได้รวบรวมแบรนด์ Luxury ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงแบรนด์แนว Natural และ Organic ก็มีให้ได้เลือกกันอย่างเต็มอิ่ม ที่สำคัญเราสามารถปรึกษา Beauty Advisor ที่มีความรู้เชี่ยวชาญ เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับตัวเองได้อีกด้วยนะ สาวๆ คนไหนที่อยากจะอัปเดตเทรนด์ความงาม อย่าลืมแวะมาชั้นนี้กันนะ

กองทัพต้องเดินด้วยท้อง สำหรับ สายกิน ที่นี่มีโซนใต้ดิน เตรียมไว้ให้เหล่านักชิมได้ไปลิ้มลองความอร่อยไปกับ ธีมพาร์คแห่งของอร่อย โซนอาหารที่มีสารพัดเมนูความหวานจากทั่วประเทศญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น สินค้าใหม่ตามฤดูกาล ขนมหวานขึ้นชื่อ หรือจะเป็นเมนูสุดลิมิเต็ดที่หาซื้อได้เฉพาะที่นี่ เช่น ขนมที่ทำจากชาเขียว ขนมญี่ปุ่น และอื่นๆมากมาย ให้เพื่อนๆ ซื้อกลับไปฝากคนพิเศษก็มีน้า  บอกเลยว่าถ้าได้เข้ามาในโซนนี้เพื่อนๆ จะอิ่มทั้งกายทั้งใจเลยเชียวล่ะ

ไม่ใช่ว่าที่นี่จะมีแค่สายแฟ สายบิวตี้ หรือสายกินเท่านั้นนะ ไหนๆ ใครชอบเสพงานอาร์ต งานศิลป์ เชิญมาทางนี้ เพราะที่นี่เขามี Window Display หน้าต่างโชว์สินค้าตามแนวคอนคอร์สซึ่งเปรียบเสมือนหน้าตาของห้างนี้ ถือเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่ง มีทั้งงานติดตั้งที่ร่วมมือกับศิลปินชื่อดัง รวมไปถึงการจัดแสดงหุ่นละครที่ถ่ายทอดเรื่องราวตามฤดูกาล ทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาเพลิดเพลินกับความงามและความคิดสร้างสรรค์เหล่านี้ เห็นแบบนี้แล้วสายอาร์ตต้องมาชมกันแล้ว

ยังไม่หมดนะ ถ้าเพื่อนๆ เดินขึ้นชั้น 9 ของที่นี่ เพื่อนๆ จะพบกับ ลานจัดงาน Shukusai Hiroba ขนาดใหญ่สูง ถึง 4 ชั้น ถือเป็นสัญลักษณ์ของห้างนี้ ที่นี่สามารถรองรับผู้คนได้อย่างมากมาย โดยชั้นนี้เขาจะมีอีเวนต์คอยอยู่มาจัดงานอยู่ตลอดทั้งปี ถ้าช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีและช่วงหน้าหนาวนี้ ที่นี่จะมีจัดงานChristmas Market   และอื่นๆไม่ว่าจะเป็น  British Fair Hawaii Fair Valentine Chocolate Expo ทำให้บรรยากาศของชั้นนี้แตกต่างกันออกไป เรียกได้ว่าไม่ว่าจะมากี่ครั้งก็ไม่มีเบื่อ

เรียกได้ว่าครบจบในทีเดียวจริงๆ แต่ทว่าความสะดวกสบายยังไม่หมดน้า เพราะเขาเสิร์ฟ ความเป็นมิตรให้กับนักช็อปปิ้งให้ได้สะดวกสบายกับ มีเคาน์เตอร์ยกเว้นภาษี Tax Free สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ชั้นB1และเครื่องยกเว้นภาษี Tax Freeแบบอัตโนมัติที่ชั้น 1  ที่สำคัญที่นี่มี Free Wi-Fi ภายในห้างไว้คอยให้บริการ และสำหรับนักท่องเที่ยวก็สบายใจได้เลย เพราะที่นี่เขามีพนักงานที่สามารถสื่อสารได้หลายภาษา ไม่ต้องกังวลเรื่องภาษา สามารถช็อปกันได้อย่างสบายใจ แถมยังมีส่วนลดให้อีกด้วยน้า เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆ ไปเลย