เรือสำราญ กับงานของเขา
“Officer อุ้ยอ้าย กับเจ้านาย 5000 กว่าคน” Part 1
ภาคต่อครับ
เรือสำราญ กับงานของเขา “Guest Service อุ้ยอ้าย กับเจ้านาย 5000 กว่าคน” Part 2
https://pantip.com/topic/38465031

สวัสดีครับผมชื่อเดฟ อดีตชาวเรือสำราญและกำลัง(พยายามที่จะ)กลับไปทำงานเรืออีกครับ
ก่อนอื่นผมต้องเกริ่นไว้ก่อนว่า ผมเขียนเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่ง อาจจะมีภาพเซลฟี่ที่เซ็นเซอร์หน้าตาอัน....ของผมประปรายและวิดีโอลิงค์นะครับ
เอ้า เริ่มจากตอนไหน ?
สมัยเด็กๆ พ่อเพื่อนผม ชื่อลุง ศ. แกไปทำงานเรือสำราญในตำแหน่งเชฟ สมัยนั้นราวๆ พ.ศ.2548 ได้ครับ ผมก็มองแกเป็นไอดอลประจำตัวเพราะแกไปทำงานต่างประเทศ บนเรือสำราญ มีเงินซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน และอะไรต่างๆมากมายครับ
เวลาผ่านไปพอผมเรียนจบ ป.ตรี ผมก็ลืมไปซะงั้น มานึกได้อีกทีตอนปี 2559 ว่า “เฮ้ย...เราเคยมีฝันนี่หว่า”
เลยลองโทรไปบริษัทจัดหางานแห่งหนึ่ง อยู่แถวๆหลังสวน ซ.5 ครับ พี่สตาฟใจดีมากๆ บอก “ประวัติน้องน่าสนใจนะ” มาทราบทีหลังว่าแกชื่อ พี่ อ. พอไปถึงปุ๊บ ไม่พูดพร่ำทำเพลง จับผมสอบภาษาอังกฤษเบื้องต้นเลย แหม่ ผมจบสาขาภาษาอังกฤษมา จะน้อยหน้าได้อย่างไร....... ผ่านสิครับ (ขิงอีก) พอผ่านข้อเขียนก็ไปสัมภาษณ์รอบสองต่อกับพี่ บ. พี่ บ.ก็ใจดีครับ ตอนแกสัมภาษณ์ผม แกก็มองเห็น “ เฮ้ย ประวัติทำงานโรงแรม เป็นฟร้อนท์มาก่อนนี่นา ทำไมไม่สมัครฟรอนท์ มาสมัครตำแหน่งผู้ช่วยพนักงานเสิร์ฟทำไม “ ..... อ่ะ ผมก็เปลี่ยนตามแกว่าสิ ......
อีกสามเดือนต่อมา!!! ไวมาก... พี่ อ.บอกว่า “บริษัทเรือต้องการให้เราส่งวิดีโอแนะนำตัวไปเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้น่าสนใจนะ”
.... อ่ะ .... ผมก็แอบอัดวิดีโอคลิป ใส่สูทผูกไทด์เต็มยศ ในห้องประชุมของ บ.ญี่ปุ่นที่ผมยังทำงานอยู่นั่นแหละ
ผ่านไปอีกเดือน ราวๆ ปลายปี ผมก็แหม่ อยากกลับบ้าน อยู่เมืองกรุงนานๆ ก็แอบเหงา เลยลาออกจาก บ.ญี่ปุ่นที่ทำ ไปเป็นไกด์เมืองเหนือครับ ขณะที่กำลังทำทัวร์อย่างเมามันส์นั้น....
พี่ อ.โทรมา!!! “เดฟฟฟฟฟ เรืออยากสัมภาษณ์รอบสุดท้าย ....”
เอ้า เราก็กำลังไปงานแต่งเพื่อน ที่ จ.เลย ทาง บ.เรือก็นัดสองทุ่มเวลาไทย เพื่อที่จะวิดีโอคอลล์ รอจนสองทุ่มจะครึ่งไม่คอลมาสักที เลย เออ ท่าจะแห้ว ซดเบียร์กับเพื่อนเลย
ทันใดนั้น โทรศัพท์สั่นอย่างแรวงง์ เพื่อนตกใจกำแก้วเบียร์ไปนั่งตรงบันใด ผมก็สัมภาษณ์ไปทั้งๆที่มึนๆไปสามสี่ขวดแล้ว....แถสด ด้นสด แถเปี่อย ไทย อิง ฝรั่งเศสเยอรมันขนมาหมด....คิดในใจหลังสัมภาษณ์จบ เฮ่อ...คงไม่ได้ละมั้ง
ผ่านไปสามวันหลังจากงานแต่งเพื่อนที่ จ.เลย นั่งเครื่องบินกลับมาเชียงใหม่ด้วยคำว่า
“เฮ้อ เอาไงต่อดี”
เมล์ก็เด้งเตือน ตามภาพครับ....ไมอามี่!!!
ผมมีเวลาสามเดือนก่อนตรวจร่างกายรอบสุดท้าย จัดฟิตเนสเต็มข้อวันละสอง ชม.ขึ้นไป เหล้าเบียร์ไม่แตะ อาหารก็คลีนจนคิดว่าอิ่มทิพย์ไปแล้ว.....เอาให้มันสุดชีวิต เหนื่อยให้สุดๆ พยายามให้สุดๆ
พอตรวจร่างกาย ผ่าน ตรวจประวัติอาชญากรรม ผ่าน นั่นนี่นู่น ผ่านๆๆๆๆๆๆๆๆ
เอาละสิ ผมก็ไม่รู้เลยว่า คนไทย สามารถเป็น Officer ได้ด้วยเหรอ มาครับ ผมจะพาข้ามน้ำข้ามทะเล ไปดูชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงานเรือสำราญในอีกตำแหน่งนึง เรียกว่า Guest Service Associate ครับ
Update ครับ Part 1 ต่อที่ คห. 14 และ 15 ครับ
(ส่วน Part 2 ต่อวันที่ 16 ครับ ติดงานด่วน แง้....มีอะไรแนะนำด้านการเขียน บอกได้นะครับ สำหรับ Part 2 3 4 etc จะแยกกระทู้ออกไปครับ สัญญาว่าจะให้จบตอนทุกครั้งครับ)
เรือสำราญ กับงานของเขา “Guest Service อุ้ยอ้าย กับเจ้านาย 5000 กว่าคน”
“Officer อุ้ยอ้าย กับเจ้านาย 5000 กว่าคน” Part 1
ภาคต่อครับ
เรือสำราญ กับงานของเขา “Guest Service อุ้ยอ้าย กับเจ้านาย 5000 กว่าคน” Part 2
https://pantip.com/topic/38465031
สวัสดีครับผมชื่อเดฟ อดีตชาวเรือสำราญและกำลัง(พยายามที่จะ)กลับไปทำงานเรืออีกครับ
ก่อนอื่นผมต้องเกริ่นไว้ก่อนว่า ผมเขียนเล่าเรื่องไม่ค่อยเก่ง อาจจะมีภาพเซลฟี่ที่เซ็นเซอร์หน้าตาอัน....ของผมประปรายและวิดีโอลิงค์นะครับ
เอ้า เริ่มจากตอนไหน ?
สมัยเด็กๆ พ่อเพื่อนผม ชื่อลุง ศ. แกไปทำงานเรือสำราญในตำแหน่งเชฟ สมัยนั้นราวๆ พ.ศ.2548 ได้ครับ ผมก็มองแกเป็นไอดอลประจำตัวเพราะแกไปทำงานต่างประเทศ บนเรือสำราญ มีเงินซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน และอะไรต่างๆมากมายครับ
เวลาผ่านไปพอผมเรียนจบ ป.ตรี ผมก็ลืมไปซะงั้น มานึกได้อีกทีตอนปี 2559 ว่า “เฮ้ย...เราเคยมีฝันนี่หว่า”
เลยลองโทรไปบริษัทจัดหางานแห่งหนึ่ง อยู่แถวๆหลังสวน ซ.5 ครับ พี่สตาฟใจดีมากๆ บอก “ประวัติน้องน่าสนใจนะ” มาทราบทีหลังว่าแกชื่อ พี่ อ. พอไปถึงปุ๊บ ไม่พูดพร่ำทำเพลง จับผมสอบภาษาอังกฤษเบื้องต้นเลย แหม่ ผมจบสาขาภาษาอังกฤษมา จะน้อยหน้าได้อย่างไร....... ผ่านสิครับ (ขิงอีก) พอผ่านข้อเขียนก็ไปสัมภาษณ์รอบสองต่อกับพี่ บ. พี่ บ.ก็ใจดีครับ ตอนแกสัมภาษณ์ผม แกก็มองเห็น “ เฮ้ย ประวัติทำงานโรงแรม เป็นฟร้อนท์มาก่อนนี่นา ทำไมไม่สมัครฟรอนท์ มาสมัครตำแหน่งผู้ช่วยพนักงานเสิร์ฟทำไม “ ..... อ่ะ ผมก็เปลี่ยนตามแกว่าสิ ......
อีกสามเดือนต่อมา!!! ไวมาก... พี่ อ.บอกว่า “บริษัทเรือต้องการให้เราส่งวิดีโอแนะนำตัวไปเป็นภาษาอังกฤษ ทำให้น่าสนใจนะ”
.... อ่ะ .... ผมก็แอบอัดวิดีโอคลิป ใส่สูทผูกไทด์เต็มยศ ในห้องประชุมของ บ.ญี่ปุ่นที่ผมยังทำงานอยู่นั่นแหละ
ผ่านไปอีกเดือน ราวๆ ปลายปี ผมก็แหม่ อยากกลับบ้าน อยู่เมืองกรุงนานๆ ก็แอบเหงา เลยลาออกจาก บ.ญี่ปุ่นที่ทำ ไปเป็นไกด์เมืองเหนือครับ ขณะที่กำลังทำทัวร์อย่างเมามันส์นั้น....
พี่ อ.โทรมา!!! “เดฟฟฟฟฟ เรืออยากสัมภาษณ์รอบสุดท้าย ....”
เอ้า เราก็กำลังไปงานแต่งเพื่อน ที่ จ.เลย ทาง บ.เรือก็นัดสองทุ่มเวลาไทย เพื่อที่จะวิดีโอคอลล์ รอจนสองทุ่มจะครึ่งไม่คอลมาสักที เลย เออ ท่าจะแห้ว ซดเบียร์กับเพื่อนเลย
ทันใดนั้น โทรศัพท์สั่นอย่างแรวงง์ เพื่อนตกใจกำแก้วเบียร์ไปนั่งตรงบันใด ผมก็สัมภาษณ์ไปทั้งๆที่มึนๆไปสามสี่ขวดแล้ว....แถสด ด้นสด แถเปี่อย ไทย อิง ฝรั่งเศสเยอรมันขนมาหมด....คิดในใจหลังสัมภาษณ์จบ เฮ่อ...คงไม่ได้ละมั้ง
ผ่านไปสามวันหลังจากงานแต่งเพื่อนที่ จ.เลย นั่งเครื่องบินกลับมาเชียงใหม่ด้วยคำว่า
“เฮ้อ เอาไงต่อดี”
เมล์ก็เด้งเตือน ตามภาพครับ....ไมอามี่!!!
ผมมีเวลาสามเดือนก่อนตรวจร่างกายรอบสุดท้าย จัดฟิตเนสเต็มข้อวันละสอง ชม.ขึ้นไป เหล้าเบียร์ไม่แตะ อาหารก็คลีนจนคิดว่าอิ่มทิพย์ไปแล้ว.....เอาให้มันสุดชีวิต เหนื่อยให้สุดๆ พยายามให้สุดๆ
พอตรวจร่างกาย ผ่าน ตรวจประวัติอาชญากรรม ผ่าน นั่นนี่นู่น ผ่านๆๆๆๆๆๆๆๆ
เอาละสิ ผมก็ไม่รู้เลยว่า คนไทย สามารถเป็น Officer ได้ด้วยเหรอ มาครับ ผมจะพาข้ามน้ำข้ามทะเล ไปดูชีวิตความเป็นอยู่ของพนักงานเรือสำราญในอีกตำแหน่งนึง เรียกว่า Guest Service Associate ครับ
Update ครับ Part 1 ต่อที่ คห. 14 และ 15 ครับ
(ส่วน Part 2 ต่อวันที่ 16 ครับ ติดงานด่วน แง้....มีอะไรแนะนำด้านการเขียน บอกได้นะครับ สำหรับ Part 2 3 4 etc จะแยกกระทู้ออกไปครับ สัญญาว่าจะให้จบตอนทุกครั้งครับ)