
คณะวิจัยทางวัฒนธรรม สถาบันสังคมศาสตร์จีน ได้เดินทางมาศึกษาวิจัยการเผยแพร่ “อนุตรธรรม”หรือ อี้ ก้วน เต้า ซึ่งเป็นวัฒนธรรมจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2562 โดยมูลนิธิเทิดพระคุณ ถนนศรีนครินทร์ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เป็นตัวแทนของไทยให้การต้อนรับ
อี้ ก้วน เต้า เกิดขึ้นที่จีนแผ่นดินใหญ่ ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่บนผืนแผ่นดินจีน อี้ ก้วน เต้า จึงได้อพยพขยับขยายไปไต้หวัน แล้วข้ามน้ำข้ามทะเลไปอีกหลายแห่ง จนได้แพร่กระจายไปทั่วโลกในปัจจุบัน และได้เข้ามาเจริญรุ่งเรืองที่สุดบนผืนแผ่นดินไทย แต่ก็ไม่แปลกอันใด แม้แต่วัฒนธรรมของอินเดีย ก็ได้เข้ามาเจริญรุ่งเรือง จนทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแห่งโลกไปแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ อี้ ก้วน เต้า ได้เข้ามาเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วบนผืนแผ่นดินไทยในระยะเวลาแค่ 30-40 ปี เพราะคนไทยนับถือศาสนาพุทธเป็นส่วนใหญ่ มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกรัชกาล ทุกยุคทุกสมัยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ทำนุบำรุงพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
การเดินทางมาทำการศึกษาวิจัยวัฒนธรรม “อี้ ก้วน เต้า”ของจีนในครั้งนี้ ใช้ทีมวิจัยหลายสิบคน ซึ่งในจำนวนนี้มีอาจารย์ทรงคุณวุฒิระดับศาสตราจารย์ถึง 4 คน ถือได้ว่าจีนให้ความสำคัญกับ “อี้ ก้วน เต้า”ซึ่งเคยเกิดบนผืนแผ่นดินจีน แต่ก็ได้ถูกกวาดล้างทำลายด้วยเหตุผลทางการเมือง ทว่า “อี้ ก้วน เต้า”กลับไม่หายสาบสูญไปจากโลกใบนี้ แต่กลับแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างอัศจรรย์ และกำลังจะเดินทางย้อนกลับสู่มาตุภูมิอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแน่นอน คนไทยที่ได้ฝึกฝน “อี้ ก้วน เต้า”จนเชี่ยวชาญระดับแนวหน้า ก็จะได้มีโอกาสได้ทำงานแล้ว
เราคนไทย เกิดบนผืนแผ่นดินไทย มีความภาคภูมิใจอย่างที่สุด ที่ไทยเราได้กลายเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแห่งโลกอย่างแท้จริงอย่างต่อเนื่องยาวนานตลอดไป ทั้งนี้เพราะเราได้รวมเอา วิถีธรรมทั้งเก่าและใหม่ผสมผสานกันอย่างลงตัว นั่นเอง เราจึงไม่เสียใจ แม้พระพุทธเจ้าประสูติที่อินเดีย แต่ศาสนาพุทธก็มาเจริญรุ่งเรื่องบนผืนแผ่นดินไทย เราได้คัดเลือกแยกแยะส่วนที่ดีมีคุณค่าเอาไว้ เราไม่เสียใจ แม้ “อี้ ก้วน เต้า”เกิดขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ “อี้ ก้วน เต้า”ก็เข้ามาเติบโตอย่างรวดเร็วล้ำหน้าใครอื่นทั้งโลกบนผืนแผ่นดินไทย เรารู้จักประยุกต์ของเก่าและใหม่ให้เข้ากันอย่างกลมกลืน เราลูกหลานไทยกราบสำนึกในความเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตของบรรพชนไทยทุกพระองค์ทุกท่าน ที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทยและรักษามรดกทางวัฒนธรรมเอาไว้ เราลูกหลานจึงต้องแบกรับภารกิจอันทรงเกียรตินี้ต่อไปให้อนุชนรุ่นหลังได้ใช้ประโยชน์และส่งมอบจากรุ่นสู่รุ่นอย่างต่อเนื่องต่อไปในอนาคตยาวนาน
การปกป้องผืนแผ่นดินไทยและการดูแลรักษามรดกทางวัฒนธรรม เป็นภารหน้าที่อันสำคัญยิ่งก็จริง แต่ก็ยังมีภารหน้าที่ที่สำคัญกว่ารอคอยอยู่ แผ่นดินไทยเคยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแห่งโลก และขณะนี้แผ่นดินไทยกำลังแบกรับภารหน้าที่ในการเผยแพร่วัฒนธรรม “อี้ ก้วน เต้า”ให้กระจายไปทั่วทุกมุมโลก ตามโองการฟ้า ที่ปรารถนาให้ “อี้ ก้วน เต้า”ฉุดช่วยพี่น้องเวไนยที่กำลังเผชิญมหันตภัยใกล้ตัว กาลฟ้าคับขันต้องเร่งรีบทำงานแข่งกับเวลา เร่งรีบแยกหยกที่หมกอยู่กับหิน เร่งรีบคัดกรองคนดีที่มีอยู่ในหมู่คนเลว เร่งรีบบ่มเพาะ “เมล็ดพันธุ์บุญ”เก็บไว้ใช้ในอนาคตกาล ใช้ในยุคพระศรีอารียเมตไตรย ทรงมีมหาปณิธานแปรเปลี่ยนโลกเป็นดินแดนดอกบัวบาน ปลูกดอกบัวท่ามกลางกองเพลิงแห่งกิเลสตัณหา
เมื่อถึงกาลเวลาภัยพิบัติกวาดล้างโลก ทำลายความอำมหิตผิดบาปที่กำลังครอบงำอยู่ทุกมุมโลก เพื่อคืนความสะอาด สว่าง สงบให้โลกดังเดิม เพื่อ “เมล็ดพันธุ์บุญ”ที่ได้คัดสรรไว้อยู่อย่างสงบร่มเย็นบำเพ็ญธรรมให้สำเร็จมรรคผลต่อไป เพื่อเตรียมการรองรับยุคพระศรีอารียเมตไตรยในอนาคตกาลอย่างเต็มรูปแบบนั่นเอง
เมื่อวันนั้นมาถึง ก็ถือได้ว่า ภารกิจของ “อี้ ก้วน เต้า”ได้สำเร็จสมบูรณ์ ตามเจตนารมณ์แห่งฟ้าแล้ว
อี้ ก้วน เต้า....วัฒนธรรมโลกในอนาคตอันใกล้และยืนยาวไกลในกัปล์สุดท้าย
คณะวิจัยทางวัฒนธรรม สถาบันสังคมศาสตร์จีน ได้เดินทางมาศึกษาวิจัยการเผยแพร่ “อนุตรธรรม”หรือ อี้ ก้วน เต้า ซึ่งเป็นวัฒนธรรมจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2562 โดยมูลนิธิเทิดพระคุณ ถนนศรีนครินทร์ ต.บางเมือง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เป็นตัวแทนของไทยให้การต้อนรับ
อี้ ก้วน เต้า เกิดขึ้นที่จีนแผ่นดินใหญ่ ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่บนผืนแผ่นดินจีน อี้ ก้วน เต้า จึงได้อพยพขยับขยายไปไต้หวัน แล้วข้ามน้ำข้ามทะเลไปอีกหลายแห่ง จนได้แพร่กระจายไปทั่วโลกในปัจจุบัน และได้เข้ามาเจริญรุ่งเรืองที่สุดบนผืนแผ่นดินไทย แต่ก็ไม่แปลกอันใด แม้แต่วัฒนธรรมของอินเดีย ก็ได้เข้ามาเจริญรุ่งเรือง จนทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแห่งโลกไปแล้ว จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ อี้ ก้วน เต้า ได้เข้ามาเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วบนผืนแผ่นดินไทยในระยะเวลาแค่ 30-40 ปี เพราะคนไทยนับถือศาสนาพุทธเป็นส่วนใหญ่ มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกรัชกาล ทุกยุคทุกสมัยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน ทำนุบำรุงพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
การเดินทางมาทำการศึกษาวิจัยวัฒนธรรม “อี้ ก้วน เต้า”ของจีนในครั้งนี้ ใช้ทีมวิจัยหลายสิบคน ซึ่งในจำนวนนี้มีอาจารย์ทรงคุณวุฒิระดับศาสตราจารย์ถึง 4 คน ถือได้ว่าจีนให้ความสำคัญกับ “อี้ ก้วน เต้า”ซึ่งเคยเกิดบนผืนแผ่นดินจีน แต่ก็ได้ถูกกวาดล้างทำลายด้วยเหตุผลทางการเมือง ทว่า “อี้ ก้วน เต้า”กลับไม่หายสาบสูญไปจากโลกใบนี้ แต่กลับแพร่กระจายไปทั่วโลกอย่างอัศจรรย์ และกำลังจะเดินทางย้อนกลับสู่มาตุภูมิอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแน่นอน คนไทยที่ได้ฝึกฝน “อี้ ก้วน เต้า”จนเชี่ยวชาญระดับแนวหน้า ก็จะได้มีโอกาสได้ทำงานแล้ว
เราคนไทย เกิดบนผืนแผ่นดินไทย มีความภาคภูมิใจอย่างที่สุด ที่ไทยเราได้กลายเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแห่งโลกอย่างแท้จริงอย่างต่อเนื่องยาวนานตลอดไป ทั้งนี้เพราะเราได้รวมเอา วิถีธรรมทั้งเก่าและใหม่ผสมผสานกันอย่างลงตัว นั่นเอง เราจึงไม่เสียใจ แม้พระพุทธเจ้าประสูติที่อินเดีย แต่ศาสนาพุทธก็มาเจริญรุ่งเรื่องบนผืนแผ่นดินไทย เราได้คัดเลือกแยกแยะส่วนที่ดีมีคุณค่าเอาไว้ เราไม่เสียใจ แม้ “อี้ ก้วน เต้า”เกิดขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่ แต่ “อี้ ก้วน เต้า”ก็เข้ามาเติบโตอย่างรวดเร็วล้ำหน้าใครอื่นทั้งโลกบนผืนแผ่นดินไทย เรารู้จักประยุกต์ของเก่าและใหม่ให้เข้ากันอย่างกลมกลืน เราลูกหลานไทยกราบสำนึกในความเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตของบรรพชนไทยทุกพระองค์ทุกท่าน ที่ปกป้องผืนแผ่นดินไทยและรักษามรดกทางวัฒนธรรมเอาไว้ เราลูกหลานจึงต้องแบกรับภารกิจอันทรงเกียรตินี้ต่อไปให้อนุชนรุ่นหลังได้ใช้ประโยชน์และส่งมอบจากรุ่นสู่รุ่นอย่างต่อเนื่องต่อไปในอนาคตยาวนาน
การปกป้องผืนแผ่นดินไทยและการดูแลรักษามรดกทางวัฒนธรรม เป็นภารหน้าที่อันสำคัญยิ่งก็จริง แต่ก็ยังมีภารหน้าที่ที่สำคัญกว่ารอคอยอยู่ แผ่นดินไทยเคยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาแห่งโลก และขณะนี้แผ่นดินไทยกำลังแบกรับภารหน้าที่ในการเผยแพร่วัฒนธรรม “อี้ ก้วน เต้า”ให้กระจายไปทั่วทุกมุมโลก ตามโองการฟ้า ที่ปรารถนาให้ “อี้ ก้วน เต้า”ฉุดช่วยพี่น้องเวไนยที่กำลังเผชิญมหันตภัยใกล้ตัว กาลฟ้าคับขันต้องเร่งรีบทำงานแข่งกับเวลา เร่งรีบแยกหยกที่หมกอยู่กับหิน เร่งรีบคัดกรองคนดีที่มีอยู่ในหมู่คนเลว เร่งรีบบ่มเพาะ “เมล็ดพันธุ์บุญ”เก็บไว้ใช้ในอนาคตกาล ใช้ในยุคพระศรีอารียเมตไตรย ทรงมีมหาปณิธานแปรเปลี่ยนโลกเป็นดินแดนดอกบัวบาน ปลูกดอกบัวท่ามกลางกองเพลิงแห่งกิเลสตัณหา
เมื่อถึงกาลเวลาภัยพิบัติกวาดล้างโลก ทำลายความอำมหิตผิดบาปที่กำลังครอบงำอยู่ทุกมุมโลก เพื่อคืนความสะอาด สว่าง สงบให้โลกดังเดิม เพื่อ “เมล็ดพันธุ์บุญ”ที่ได้คัดสรรไว้อยู่อย่างสงบร่มเย็นบำเพ็ญธรรมให้สำเร็จมรรคผลต่อไป เพื่อเตรียมการรองรับยุคพระศรีอารียเมตไตรยในอนาคตกาลอย่างเต็มรูปแบบนั่นเอง
เมื่อวันนั้นมาถึง ก็ถือได้ว่า ภารกิจของ “อี้ ก้วน เต้า”ได้สำเร็จสมบูรณ์ ตามเจตนารมณ์แห่งฟ้าแล้ว