You : เพราะรัก ต้องเธอ
ติดตามรีวิว ข่าวสาร หนังเก่า/ใหม่ ไทย/เทศ ซีรี่/แอนิเมชัน ได้ที่ เพจ เฟสบุ้ค Movie Crazy
เมื่อโจรักเบค เขาทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมา ดูเหมือนความรักทั่วๆ ไปหากทุกอย่างที่ว่าไม่ใช่แอบติดตามเธอ แอบเข้าห้องขโมยกางเกงใน แอบค้นคอมขโมยมือถือ และ...ฆ่าใครก็ตามที่ขวางทาง
ซีรี่ Netflix ที่กำลังเป็นกระแสฮือฮา สร้างจากนิยายขายดีในชื่อเดียวกัน ซีนเปิดที่เหมือนรักแรกพบ คำพร่ำเพ้อของขายหนุ่มที่มีต่อหญิงสาวที่เขาเพิ่งเจอและต้องตาต้องใจ แต่เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้นนิยายรักหวานซึ้งที่ว่าก็กลายเป็นเรื่องความรักโรคจิตของสตอคเกอร์หนุ่มที่ติดตามชีวิตสาวเจ้าทุกฝีก้าวและทำทุกอย่างให้ได้เธอมา
และไอ้การพลิกคว่ำความหวานแหววโรแมนติกไปสู่รักจิตหลุดนี่แหละคือสิ่งที่ดึงความสนใจคนดูได้อยู่หมัดและทำให้ซีรี่มีความโดดเด่นและแตกต่าง มีความน่าติดตามด้วยกลิ่นของความจิตอันเป็นตัวตนของพระเอก
นั่นเป็นส่วนที่ชอบที่สุดเพราะไอ้ความจิตที่ใส่เข้ามามันก็สะท้อนแง่มุมความรักที่เรามีต่อกัน สำหรับคนที่เป็นฝ่ายรักไปก่อนเขา (หรือเธอ) ย่อมอยากรู้จักอีกฝ่ายแบบทุกซอกทุกมุม อยากเข้าไปยืนอยู่ในชีวิตของอีกคน และนั่นก็เทียบเคียงได้กับความจิตของพระเอกในเรื่อง เราทุกคนมีความอยากตรงนี้เพียงแต่มันไม่ได้ถูกขับออกมาชัดและเป็นรูปธรรมแบบที่หนังถ่ายทอดผ่านคาแรกเตอร์ของโจก็เท่านั้น
และถ้าหากหนังมีแค่การแทนที่ “การอยากรู้จัก” ด้วยการเป็นสตอกเกอร์ นี่ก็จะเป็นแค่หนังรักที่พยายามเก๋ แต่หนังไปไกลกว่านั้นด้วยการใส่สัญลักษณ์เล็กๆ น้อยๆ และเรื่องราวหลักต่างๆ ที่ตัวละครต้องผ่าน เพื่อพยายามสำรวจตรวจตราและพยายามทำความเข้าใจความรักในแง่มุมต่างๆ ตั้งแต่รักเริ่มต้น (สตอกเกอร์) รักเบ่งบาน (ฆาตกรรมกำจัดคู่แข่ง) ความหึงหวง ไม่เชื่อใจ (การค้นหาความจริงแห่งฆาตกรรม) หรือการไม่อาจทำใจสูญเสีย การกักขังความสำพันธ์ และอื่นๆ ก็ล้วนถูกแทนที่ด้วยส่วนที่เป็นหนังระทึกขวัญ เป็นการแทนค่าที่ลงตัวและน่าสนใจ
แต่การสำรวจแทนค่าก็เหมือนมีการเล่าซ้ำประเด็น ซ้อนไปย้อนมาในช่วงกลางเรื่องทำให้หนังดูย้วยๆ ยืดๆ ไปบ้าง เกิดความรู้สึกว่า จะเล่าทำไมหลายรอบ เล่าให้มันตรงทีเดียวพุ่งไปหาบทสรุปจะไม่ดีกว่าเหรอ แบบนี้มันดูยึกยักๆ และด้วยความที่การเล่าซ้ำตรงนี้มันคือพาร์ทของรักโรแมนติก ปัญหาระหองระแหงระหว่างกันมันเลยยิ่งน่าเบื่อเพราะเราก็เห็นแง่มุมเหล่านี้ผ่านหนังกันมาตั้งมากมาย
การเอาตัวรอดของโจจากความจิตที่เขาทำหลายครั้งมันง่าย ถูกทำให้บังเอิญรอดจนทำให้เขาไม่ได้ดูฉลาด และคนที่ปล่อยให้เขารอดไปได้ดูโคตรโง่ เช่นเดียวกับความโง่ทั่วไปของตัวละครสมทบหรือตัวที่ถูกสร้างมาให้ตาย
“ยิ่งเราต้องการอีกฝ่ายมากขึ้นเท่าไหร่ อีกฝ่ายก็ยิ่งต้องการเราน้อยลงเท่านั้น” ประโยคสั้นๆ ของการบาลานซ์ความสัมพันธ์ รู้สึกน้อยไปก็จืดจาง รู้สึกมากไปก็อึดอัด บีบรัดอีกฝ่ายในอ้อมกอดของความรัก
โดยรวมคือชอบ เป็นหนังที่เล่าสนุก แทนค่าความสัมพันธ์ได้ค่อนข้างดี และไล่ระดับ สำรวจแง่มุมต่างๆ ของความรักได้น่าสนใจ
[CR] Review ซีรี่ You
ติดตามรีวิว ข่าวสาร หนังเก่า/ใหม่ ไทย/เทศ ซีรี่/แอนิเมชัน ได้ที่ เพจ เฟสบุ้ค Movie Crazy
เมื่อโจรักเบค เขาทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอมา ดูเหมือนความรักทั่วๆ ไปหากทุกอย่างที่ว่าไม่ใช่แอบติดตามเธอ แอบเข้าห้องขโมยกางเกงใน แอบค้นคอมขโมยมือถือ และ...ฆ่าใครก็ตามที่ขวางทาง
ซีรี่ Netflix ที่กำลังเป็นกระแสฮือฮา สร้างจากนิยายขายดีในชื่อเดียวกัน ซีนเปิดที่เหมือนรักแรกพบ คำพร่ำเพ้อของขายหนุ่มที่มีต่อหญิงสาวที่เขาเพิ่งเจอและต้องตาต้องใจ แต่เพียงไม่กี่นาทีหลังจากนั้นนิยายรักหวานซึ้งที่ว่าก็กลายเป็นเรื่องความรักโรคจิตของสตอคเกอร์หนุ่มที่ติดตามชีวิตสาวเจ้าทุกฝีก้าวและทำทุกอย่างให้ได้เธอมา
และไอ้การพลิกคว่ำความหวานแหววโรแมนติกไปสู่รักจิตหลุดนี่แหละคือสิ่งที่ดึงความสนใจคนดูได้อยู่หมัดและทำให้ซีรี่มีความโดดเด่นและแตกต่าง มีความน่าติดตามด้วยกลิ่นของความจิตอันเป็นตัวตนของพระเอก
นั่นเป็นส่วนที่ชอบที่สุดเพราะไอ้ความจิตที่ใส่เข้ามามันก็สะท้อนแง่มุมความรักที่เรามีต่อกัน สำหรับคนที่เป็นฝ่ายรักไปก่อนเขา (หรือเธอ) ย่อมอยากรู้จักอีกฝ่ายแบบทุกซอกทุกมุม อยากเข้าไปยืนอยู่ในชีวิตของอีกคน และนั่นก็เทียบเคียงได้กับความจิตของพระเอกในเรื่อง เราทุกคนมีความอยากตรงนี้เพียงแต่มันไม่ได้ถูกขับออกมาชัดและเป็นรูปธรรมแบบที่หนังถ่ายทอดผ่านคาแรกเตอร์ของโจก็เท่านั้น
และถ้าหากหนังมีแค่การแทนที่ “การอยากรู้จัก” ด้วยการเป็นสตอกเกอร์ นี่ก็จะเป็นแค่หนังรักที่พยายามเก๋ แต่หนังไปไกลกว่านั้นด้วยการใส่สัญลักษณ์เล็กๆ น้อยๆ และเรื่องราวหลักต่างๆ ที่ตัวละครต้องผ่าน เพื่อพยายามสำรวจตรวจตราและพยายามทำความเข้าใจความรักในแง่มุมต่างๆ ตั้งแต่รักเริ่มต้น (สตอกเกอร์) รักเบ่งบาน (ฆาตกรรมกำจัดคู่แข่ง) ความหึงหวง ไม่เชื่อใจ (การค้นหาความจริงแห่งฆาตกรรม) หรือการไม่อาจทำใจสูญเสีย การกักขังความสำพันธ์ และอื่นๆ ก็ล้วนถูกแทนที่ด้วยส่วนที่เป็นหนังระทึกขวัญ เป็นการแทนค่าที่ลงตัวและน่าสนใจ
แต่การสำรวจแทนค่าก็เหมือนมีการเล่าซ้ำประเด็น ซ้อนไปย้อนมาในช่วงกลางเรื่องทำให้หนังดูย้วยๆ ยืดๆ ไปบ้าง เกิดความรู้สึกว่า จะเล่าทำไมหลายรอบ เล่าให้มันตรงทีเดียวพุ่งไปหาบทสรุปจะไม่ดีกว่าเหรอ แบบนี้มันดูยึกยักๆ และด้วยความที่การเล่าซ้ำตรงนี้มันคือพาร์ทของรักโรแมนติก ปัญหาระหองระแหงระหว่างกันมันเลยยิ่งน่าเบื่อเพราะเราก็เห็นแง่มุมเหล่านี้ผ่านหนังกันมาตั้งมากมาย
การเอาตัวรอดของโจจากความจิตที่เขาทำหลายครั้งมันง่าย ถูกทำให้บังเอิญรอดจนทำให้เขาไม่ได้ดูฉลาด และคนที่ปล่อยให้เขารอดไปได้ดูโคตรโง่ เช่นเดียวกับความโง่ทั่วไปของตัวละครสมทบหรือตัวที่ถูกสร้างมาให้ตาย
“ยิ่งเราต้องการอีกฝ่ายมากขึ้นเท่าไหร่ อีกฝ่ายก็ยิ่งต้องการเราน้อยลงเท่านั้น” ประโยคสั้นๆ ของการบาลานซ์ความสัมพันธ์ รู้สึกน้อยไปก็จืดจาง รู้สึกมากไปก็อึดอัด บีบรัดอีกฝ่ายในอ้อมกอดของความรัก
โดยรวมคือชอบ เป็นหนังที่เล่าสนุก แทนค่าความสัมพันธ์ได้ค่อนข้างดี และไล่ระดับ สำรวจแง่มุมต่างๆ ของความรักได้น่าสนใจ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้