Better Call Saul: ชีวิตบัดซบที่โคตรจะ "ดี" จนอยากดูซ้ำอีกรอบ! (รีวิวแบบบ้านๆ สไตล์คนดูจริง)


TITLE: Better Call Saul: ชีวิตบัดซบที่โคตรจะ "ดี" จนอยากดูซ้ำอีกรอบ! (รีวิวแบบบ้านๆ สไตล์คนดูจริง)

สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้ผมมีซีรี่ย์ดีๆ มาฝากกันอีกเรื่องครับ ชื่อว่า "Better Call Saul" ครับ ถ้าใครเคยดู Breaking Bad มาก่อน น่าจะคุ้นๆ ชื่อตัวละคร "ซอล กู๊ดแมน" หรือ "จิมมี่ แม็คกิลล์" ทนายความสุดแสบที่คอยช่วยเหลือวอลเตอร์ ไวท์นะครับ ซีรี่ย์เรื่องนี้แหละครับ คือเรื่องราวชีวิตของเขา ก่อนที่จะกลายมาเป็นซอล กู๊ดแมนใน Breaking Bad นั่นเองครับ

ผมยอมรับเลยว่า ตอนแรกที่เห็นว่ามีซีรี่ย์แยกออกมาของตัวละครนี้ ผมก็แอบคิดในใจว่า "มันจะสนุกจริงเหรอวะ?" คือซอลมันเป็นตัวละครที่ออกแนวตลกๆ กวนๆ แต่ใน Breaking Bad เราเห็นแต่ด้านที่เป็นทนายตัวร้าย ช่วยเหลืออาชญากร แต่พอมาดู Better Call Saul นี่แหละครับ ถึงได้รู้ว่าเบื้องหลังของชายคนนี้มันมีอะไรมากกว่าที่เราคิดเยอะเลย

เรื่องราวเริ่มต้นที่ "จิมมี่ แม็คกิลล์" ครับ เขายังเป็นทนายโนเนมที่พยายามดิ้นรนทำมาหากินในวงการกฎหมายที่โคตรจะเน่าเฟะ เขาต้องรับเคสเล็กๆ น้อยๆ ที่แทบจะไม่ได้เงิน สู้กับพวกบริษัทกฎหมายใหญ่ๆ ที่มีเงินถุงเงินถัง แถมยังมีพี่ชายที่ประสบความสำเร็จอย่าง "ชัค แม็คกิลล์" ที่เหมือนเป็นเงาที่คอยกดดันเขาอยู่ตลอดเวลา จิมมี่มีความฝันอยากจะเป็นทนายที่เก่งกาจ แต่ด้วยนิสัยที่ค่อนข้างจะขี้โกงนิดๆ ชอบเอาเปรียบหน่อยๆ มันก็เลยทำให้เขาไปไม่ถึงไหนสักที

สิ่งที่ผมชอบมากในซีรี่ย์เรื่องนี้คือการเล่าเรื่องครับ มันค่อยๆ ขยายปมในอดีตของตัวละครออกมาอย่างละเมียดละไม ไม่ได้รีบร้อน แต่ก็ไม่น่าเบื่อ คือเราจะได้เห็นพัฒนาการของจิมมี่ จากคนที่พยายามจะเป็นคนดี เป็นทนายที่ซื่อตรง แต่สุดท้ายก็ค่อยๆ ถูกบีบคั้นจากสภาพแวดล้อม และความผิดพลาดของตัวเอง จนสุดท้ายก็เลือกเดินในเส้นทางที่มันง่ายกว่า แม้จะไม่ใช่เส้นทางที่ถูกต้องก็ตาม

ตัวละคร "คิม เว็กซ์เลอร์" นี่ก็เป็นอีกตัวละครที่ผมประทับใจมากๆ ครับ เธอเป็นทนายสาวที่เก่ง ฉลาด และมีความทะเยอทะยาน แต่เธอก็มีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนกับจิมมี่ คือบางทีเธอก็เป็นเหมือนแสงสว่าง เป็นคนที่คอยดึงจิมมี่กลับเข้าฝั่ง แต่บางทีเธอก็เหมือนจะถูกจิมมี่ดึงลงไปในวังวนของความไม่ถูกต้องด้วยเหมือนกันครับ เคมีระหว่างจิมมี่กับคิมนี่คือดีมากๆ เลยนะครับ ดูแล้วอินจนอยากให้ทั้งคู่ได้ดีจริงๆ

อีกแกนหลักของเรื่องที่ขาดไม่ได้เลยคือเรื่องราวของ "กัส ฟริง" ครับ ถ้าใครดู Breaking Bad มาแล้วจะรู้ว่ากัสเป็นใคร แต่ใน Better Call Saul เราจะได้เห็นเขาในยุคที่เขายังไม่ได้เป็นเจ้าพ่อค้ายาที่ทรงอิทธิพลขนาดนั้น เราจะได้เห็นเบื้องหลังการสร้างอาณาจักรของเขา การวางแผนที่แยบยลมาก การควบคุมทุกอย่างให้เป็นไปตามที่เขาต้องการ และผมบอกเลยว่าการปรากฏตัวของกัสในแต่ละฉากนี่คือขลังมากๆ ครับ ความนิ่ง ความฉลาด ความเหี้ยมโหดของเขา ทำให้คนดูขนลุกได้ตลอด

นอกจากตัวละครหลักๆ แล้ว ซีรี่ย์เรื่องนี้ยังมีตัวละครรองที่น่าสนใจอีกเพียบครับ อย่าง "ไมค์ เออร์แมนทราอูท์" อดีตตำรวจที่กลายมาเป็นนักเลงรับจ้างของกัส เรื่องราวของไมค์ก็มีเสน่ห์ในแบบของตัวเองครับ เขาเป็นคนที่มีหลักการ มีความสุขุม และมีความเป็นมืออาชีพในแบบของเขาเอง การเล่าเรื่องราวของไมค์นี่ก็มีมิติมากๆ ครับ ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมเขาถึงต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้

สิ่งที่ผมรู้สึกว่า Better Call Saul ทำได้ดีมากๆ คือการสร้างโลกของซีรี่ย์ครับ ทุกอย่างมันดูสมจริงมากๆ ตั้งแต่บรรยากาศของเมืองอัลบูเคอร์คี การใช้ชีวิตของตัวละคร ไปจนถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในฉาก คือมันทำให้เรารู้สึกเหมือนเราเข้าไปอยู่ในเรื่องราวเหล่านั้นจริงๆ ครับ

แล้วก็ต้องพูดถึงเรื่องบทครับ บทของ Better Call Saul นี่คือสุดยอดจริงๆ ครับ มันมีความซับซ้อน มีการวางแผนที่ชาญฉลาด มีการหักมุมที่คาดไม่ถึง แต่ก็ไม่รู้สึกว่ายัดเยียด คือทุกอย่างมันเกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ และสอดคล้องกับพัฒนาการของตัวละครครับ การใช้บทสนทนาก็เฉียบคม มีทั้งความตลก ความเสียดสี และความจริงจัง ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

ผมชอบที่ซีรี่ย์เรื่องนี้มันไม่ได้เน้นไปที่ฉากแอ็คชั่นตูมตามเหมือนซีรี่ย์เรื่องอื่นๆ ครับ แต่มันเน้นไปที่การพัฒนาตัวละคร การสร้างปม และการเล่าเรื่องที่เข้มข้น ถึงแม้บางช่วงอาจจะดูเนิบๆ ไปบ้าง แต่ผมว่ามันจำเป็นต่อการสร้างอารมณ์ร่วม และทำให้เราเข้าใจตัวละครมากขึ้นครับ

ผมดู Better Call Saul มาจนถึงซีซั่นสุดท้ายแล้วครับ และผมบอกเลยว่ามันจบได้อย่างสมบูรณ์แบบมากๆ ครับ มันเป็นการปิดฉากเรื่องราวของจิมมี่ แม็คกิลล์ ได้อย่างน่าประทับใจ และทิ้งท้ายให้เราได้คิดตามตลอดครับ มันทำให้เราเห็นว่าการเลือกแต่ละครั้งในชีวิต มันส่งผลกระทบต่อเรามากแค่ไหน และสุดท้ายแล้ว ไม่มีใครหนีพ้นจากผลของการกระทำของตัวเองไปได้หรอกครับ

ถ้าให้เปรียบเทียบกับ Breaking Bad ผมว่า Better Call Saul มีความแตกต่างกันในแง่ของโทนเรื่องครับ Breaking Bad จะเน้นความดิบ ความรุนแรง และความบ้าคลั่งของตัวละครหลักมากกว่า แต่ Better Call Saul จะมีความละเมียดละไมกว่า เน้นการพัฒนาตัวละคร และปมชีวิตที่ซับซ้อนกว่า แต่ทั้งสองเรื่องคือสุดยอดซีรี่ย์ในแบบของตัวเองครับ

สำหรับใครที่กำลังมองหาซีรี่ย์ดีๆ ที่มีความลึกซึ้ง น่าติดตาม และมีตัวละครที่น่าจดจำ ผมขอแนะนำ "Better Call Saul" เลยครับ มันไม่ใช่แค่ซีรี่ย์เกี่ยวกับทนาย แต่เป็นเรื่องราวชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งที่ต้องต่อสู้ ดิ้นรน และสุดท้ายก็เลือกเส้นทางของตัวเองครับ รับรองว่าดูแล้วจะติดใจแน่นอนครับ!

สุดท้ายนี้ ขอให้คะแนน "Better Call Saul" ไปเลย 10 เต็ม 10 ครับ! สุดยอดจริงๆ ครับ!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่