คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
เค้าแค่โตมาไม่เหมือนคุณเท่านั้น
ถ้าคุณคิดว่าความต่างคือปัญหา มันก็คือปัญหา
เวลาคนสองคนมาอยู่ร่วมกัน ต่างจิตต่างใจต่างสภาวะเเวดล้อม
อะไรทำให้จะอยู่ร่วมกันได้ชั่วชีวิต?
คำตอบผมก็คงไม่เหมือนคุณหรอก แต่ผมจะบอก. การยอมรับและปรับตัวไง
นี่ไม่ใช่พูดแต่ในมุมของตัวเองฝ่ายเดียว อีกฝ่ายก็ต้องเปลี่ยนด้วย
ถ้ามันถูกในอนาคตแฟนคุณต้องเหมือนคุณ และคุณต้องเหมือนแฟนคุณ
ถ้าคุณคิดว่าความต่างคือปัญหา มันก็คือปัญหา
เวลาคนสองคนมาอยู่ร่วมกัน ต่างจิตต่างใจต่างสภาวะเเวดล้อม
อะไรทำให้จะอยู่ร่วมกันได้ชั่วชีวิต?
คำตอบผมก็คงไม่เหมือนคุณหรอก แต่ผมจะบอก. การยอมรับและปรับตัวไง
นี่ไม่ใช่พูดแต่ในมุมของตัวเองฝ่ายเดียว อีกฝ่ายก็ต้องเปลี่ยนด้วย
ถ้ามันถูกในอนาคตแฟนคุณต้องเหมือนคุณ และคุณต้องเหมือนแฟนคุณ
ความคิดเห็นที่ 20
หยุดก่อนๆ อย่าเพิ่งมโนไปไกล อย่าเพิ่งคิดเองเออเอง
ตอนนี้คุณเป็นแค่แฟน คุณยังไม่ใช่เมียเขา
เรื่องเงินเรื่องทองยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรไปยุ่งเด็ดขาดเลยจำไว้ ขนาดผัวเมีย พี่น้อง ญาติ ยังฆ่ากันตายเพราะเรื่องเงินเลย และเรื่องส่วนตัวเราควรจะเว้นช่องว่างด้วย อย่าไปก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของเขา เพราะตอนนี้เราเป็นแค่แฟน เราไม่ใช่เมียเขา
ถูกต้องแล้วที่เวลามีอะไร ผู้ชายจะปรึกษาครอบครัวก่อน เขาเป็นคนรอบคอบดี เพราะถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาคนที่จะดูแลช่วยเหลือเขาคนแรกก็คือพ่อแม่เขานั่นเอง
จงปลง อะไรที่มันใช่ของเรามันก็คือของของเรา
อย่าไปคาดหวังอะไรมากมาย เพราะถ้ามันไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้มันจะเจ็บ
ผู้ชายเขาคิดถูกแล้วที่เขาเลือกปรึกษาพ่อแม่ก่อน เพราะยังไงพ่อแม่ก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีๆให้ลูกเสมอ เขาอยู่กับพ่อแม่เขามากี่ปี แล้วคุณรู้จักเขามากี่ปีแล้วจะมาเจ้ากี้เจ้าการกับเขา บอกเลยผู้ชายที่มีนิสัยแบบนี้ถ้าคุณจี้เขามากไป แล้วเขารู้สึกไม่ปลอดภัยเดี๋ยวเขาก็ตีตัวออกห่างคุณเอง
สมัยนี้มิจฉาชีพมันเยอะเชื่อใจใครไม่ได้หรอก
และนี่เพิ่งรู้จักกันกี่ปีเองจะให้เขาเชื่อใจ ไว้ใจทั้งหมดมันเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะเดี๋ยวนี้คนมันรู้หน้าไม่รู้ใจ ของแบบนี้มันต้องดูกันไปนานๆ
ดีแล้วที่เขาปรึกษาพ่อแม่ทุกเรื่อง ถ้ามันพลาดอะไรมาอย่างน้อยพ่อแม่ก็ได้รับรู้และช่วยแก้ไขได้ทันเวลา
***ถ้าคุณมีลูกชายคุณจะเข้าใจผู้ชายคนนี้เอง
ตอนนี้คุณเป็นแค่แฟน คุณยังไม่ใช่เมียเขา
เรื่องเงินเรื่องทองยิ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรไปยุ่งเด็ดขาดเลยจำไว้ ขนาดผัวเมีย พี่น้อง ญาติ ยังฆ่ากันตายเพราะเรื่องเงินเลย และเรื่องส่วนตัวเราควรจะเว้นช่องว่างด้วย อย่าไปก้าวก่ายความเป็นส่วนตัวของเขา เพราะตอนนี้เราเป็นแค่แฟน เราไม่ใช่เมียเขา
ถูกต้องแล้วที่เวลามีอะไร ผู้ชายจะปรึกษาครอบครัวก่อน เขาเป็นคนรอบคอบดี เพราะถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นมาคนที่จะดูแลช่วยเหลือเขาคนแรกก็คือพ่อแม่เขานั่นเอง
จงปลง อะไรที่มันใช่ของเรามันก็คือของของเรา
อย่าไปคาดหวังอะไรมากมาย เพราะถ้ามันไม่ได้ตามที่คาดหวังไว้มันจะเจ็บ
ผู้ชายเขาคิดถูกแล้วที่เขาเลือกปรึกษาพ่อแม่ก่อน เพราะยังไงพ่อแม่ก็ต้องเลือกสิ่งที่ดีๆให้ลูกเสมอ เขาอยู่กับพ่อแม่เขามากี่ปี แล้วคุณรู้จักเขามากี่ปีแล้วจะมาเจ้ากี้เจ้าการกับเขา บอกเลยผู้ชายที่มีนิสัยแบบนี้ถ้าคุณจี้เขามากไป แล้วเขารู้สึกไม่ปลอดภัยเดี๋ยวเขาก็ตีตัวออกห่างคุณเอง
สมัยนี้มิจฉาชีพมันเยอะเชื่อใจใครไม่ได้หรอก
และนี่เพิ่งรู้จักกันกี่ปีเองจะให้เขาเชื่อใจ ไว้ใจทั้งหมดมันเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะเดี๋ยวนี้คนมันรู้หน้าไม่รู้ใจ ของแบบนี้มันต้องดูกันไปนานๆ
ดีแล้วที่เขาปรึกษาพ่อแม่ทุกเรื่อง ถ้ามันพลาดอะไรมาอย่างน้อยพ่อแม่ก็ได้รับรู้และช่วยแก้ไขได้ทันเวลา
***ถ้าคุณมีลูกชายคุณจะเข้าใจผู้ชายคนนี้เอง
แสดงความคิดเห็น
ดีหรือไม่? มีแฟนอายุ 29 ที่พ่อแม่เขาจัดการเรื่องเงิน และทุกเรื่องของชีวิตให้ทุกอย่าง
ตอนที่คบกันแรกๆ ทั้งเราและแฟนก็มีงานของตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งมันก็เป็นความรับผิดชอบของแต่ละคนอยู่แล้ว ต่างฝ่ายต่างไม่เคยยุ่งในเรื่องนี้ เวลาไปเที่ยว ไปทานข้าว ค่าใช้จ่ายทุกอย่างคือหารคนละครึ่ง มีครั้งเดียวที่แฟนเลี้ยงเราคือ ไปทานอาหารญี่ปุ่นในวันเกิดเรา เพราะนางไม่รู้จะซื้ออะไรให้เป็นของขวัญวันเกิด แฟนจะเป็นคนที่ทำงานเป็นหลักอย่างเดียว ไม่คิดจะทำอย่างอื่น หรือ ศึกษาเรียนรู้อะไรเพิ่มเติม เช่น การลงทุน ท่องเที่ยว ยกตัวอย่าง
- เวลาเราชวนไปเที่ยวก็ไป แต่เราต้องจัดการเอง ทั้งแพลนทริปและที่พัก
- ชวนอ่านหนังสือกองทุนรวมก็อ่าน2-3หน้า พอ!
- ชวนไปถ่ายรูปขายลง shutter stock ก็ไปถ่าย แต่ถ่ายๆเสร็จ กลับมาก็ไม่แต่งรูป หรืออัพต่อ
- ชวนทำงานเสริม วันหยุด ตอนแรกบอกทำๆ ไปๆ แต่เอาเข้าจริงๆก็ไม่เอา
เขาให้เหตุผลว่าที่ไม่ทำ เพราะต้องปรึกษาที่บ้านก่อน เราก็ปลง แล้วก็ไม่ได้ไปเซ้าซี๊อะไรต่อ เราเริ่มตะหงิดจากกรณีดังนี้
1. ก่อนหน้านี้แฟนเราจะไปปลูกผม เพราะหัวเริ่มล้าน ตอนไปคลินิคก็ต้องพาคุณพ่อคุณแม่มาจ่ายเงินให้ (ประมาณ3แสน)
2. แฟนทำบัตรเครดิตใบแรกในชีวิต ก็ต้องขออนุญาตพ่อแม่ก่อนทำ พอทำแล้วเอาไปใช้ แฟนก็จำวันที่ตัดบัตรไม่ได้ เรางง แล้วก็บ่นๆ บอกว่าเดือนหน้าเอาใหม่นะ จำไม่ได้ก็จด ก็ตั้งเตือนในมือถือซะ เขาบอกไม่เป็นไร เดี๋ยวบอกให้แม่เขาจัดการ เราแบบ ห๊ะ!
3. เรากับแฟนมีแพลนไปเที่ยวเกาหลี เลยนัดกันวันอาทิตย์ว่าจะไปแลกเงินที่ห้าง พอไปถึงห้างก็แยกย้ายไปกดตัง เราก็ถอนตู้ปกติ เสร็จก็เดินมาหาแฟนอีกธนาคาร แฟนถอนจากสมุดบัญชี ซึ่งนานมากกก เราก็ถามทำไมนานจัง ปกติไม่น่าจะนานขนาดนี้
เรา : แซวว่า นานจัง ถอนล้านนึงหรอ หรือว่าคิวเยอะ
แฟน : ป่าวๆ จนท เขาทำให้อยู่
เรา : อ่อเค แล้วเขามีปัญหาไรป่าว ลองไปถามซิ
แฟน : ไม่หรอก พอดีถอนต่างสาขาอะ เลยนานแหละมั้ง
เรา : ห๊ะ! ไม่เกี่ยวมั้ง บัญชีประเภทไหนอะ ออมทรัพย์ป่าวเนี่ย
แฟน : ออมทรัพย์นี่แหละ เดี๋ยวก็ได้แหละ
สักพัก จนท. เรียกไปพอดี ซึ่งไกลมาก ไม่ได้ยินว่าคุยอะไรกัน พอแฟนเดินกลับมาเลยถาม เรียบร้อยไหม แฟนบอกนี่เป็นบัญชีฝากประจำอะ เลยนาน เราก็อ่าว แล้วจะมีปัญหาป่าว โดนลดดอกเบี้ยป่าวเนี่ย นางบอกไม่รู้ จนท.พูดไรไม่รู้ เรางง ถามไปว่า เงินตัวเองเก็บเองทำไมไม่รู้ล่ะ นางบอกแม่เปิดให้ตั้งแต่เด็กๆ พอทำงานก็ให้แม่เอาไปฝากให้ตลอดเลย เราก็ตะหงิดบอกนาง จัดการเองสิ จะเลข3แล้วเนี่ย นางบอกเดี๋ยวถามพ่อแม่ก่อน เอิ่ม...
ด้วยความที่เราเป็นคนที่มาจากครอบครัวเงินหมุน พ่อแม่เราค้าขาย หมุนเงินจนเป็นหนี้ เราเรียนจบมาก็ต้องนั่งจ่ายหนี้ให้ที่บ้านมาตลอด ทำให้เราคิดและจัดการเรื่องเงินนี้ด้วยตัวเอง เพราะไม่ไว้ใจใคร กรณีแฟนเราก็ทำตัวไม่ถูก ไม่อยากจะไปก้าวก่ายหรือพูดอะไรมาก แค่รู้สึกว่าแบบนี้ใช่ๆปะ ถูกแล้วใช่ไหม 5555 เรารู้สึกว่า อายุทั้งเราและแฟนก็ไม่น้อยแล้ว เราเองดูแลตัวเองได้ตลอด ตั้งแต่ก่อนแฟนจะเข้ามาในชีวิต ถึงมีแฟน เราก็ไม่เคยทำตัวให้เป็นภาระแฟน หรือคนอื่น ซึ่งถ้าอนาคตคบกันต่อไป สมมติไปถึงแต่งงาน เราก็ต้องดูแลแฟนแทนพ่อแม่เขาหรอ? แล้วแฟนไม่คิดที่จะจัดการอะไรๆในชีวิตตัวเองบ้างเลยหรอ? กลายเป็นว่าอีกหน่อยเราต้องดูแลทั้งตัวเองและแฟนด้วย? งี้หรอ?
เราเลยอยากรู้ว่า มีบ้านใครกรณีแบบนี้บ้าง แล้วเคยมีความคิดที่จะจัดการเรื่องเงินหรือเรื่องอื่นๆเองบ้างไหม๊ คือเราเข้าใจว่าพ่อแม่ห่วงลูกแหละ แต่เราจะรบกวนท่านไปจนถึงเมื่อไหร่ ในเมื่อท่านก็อายุมากขึ้นเรื่อยๆ
**จริงๆมีเรื่องหนักกว่านี้ แต่ขอความคิดเห็นแค่เรื่องนี้ก่อนนะคะ**
============================================================================
**********ขอเรียนชี้แจ้งว่า จากหลายๆ คห. เม้นมา บางเม้นเราก็เม้นกลับขำๆไป แต่...
กรณีที่เราจะจับผู้ชาย, ควบคุมให้อยู่ในโอวาท หรือ ฮุบสมบัติเงินทองครอบครัวเขา เหมือนในละครหลังข่าวอะไรแบบนั้น
เราไม่เคยมีความคิดนั้นอยู่ในหัวเลยแม้แต่น้อยนะคะ
ตอนนี้เราอายุไม่น้อยแล้ว จะคบใครเราก็ไม่อยากจะเลิกอีกแล้ว อยากคบยาวๆ สร้างฐานะ สร้างครอบครัว สู้ด้วยตัวเราเองทั้ง2คนจริงๆ ไม่เคยมีความคิดจะไปพึ่งพาใคร ทั้งนี้ที่มาตั้งกระทู้ถาม เพราะเราแค่อยากรู้ อยากทำความเข้าใจถึงคนที่ถูกเลี้ยงดูมาในลักษณะนี้ ซึ่งมันก็ไม่ได้ผิดนะคะ แต่เนื่องจากเราดิ้นมาตลอดไงคะ จึงไม่เคยมีประสบการณ์แบบนั้น เลยอยากรู้ว่ามีกรณีแบบนี้บ้างไหม? แล้วถ้าถึงเวลา เขาจะมีความคิดเป็นของตัวเองได้บ้างไหม เรื่องปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ไม่เคยว่าหรอก แต่เราก็ต้องยืนขึ้นได้ด้วยตัวเองใช่ไหมคะ และที่สำคัญเราก็แค่อยากมั่นใจจริงๆ ว่าเราจะไม่ได้สู้อยู่คนเดียว...