‘Dermophis donaldtrumpi’ สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ถูกตั้งชื่อตามทรัมป์ เพื่อสร้างความตระหนักเรื่องโลกร้อน


สัตว์พันธุ์ใหม่ชื่อทรัมป์ นักวิทย์เสียดสีผู้นำสหรัฐไม่เชื่อโลกร้อน

สัตว์พันธุ์ใหม่ชื่อทรัมป์ – เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. เว็บไซต์ เดอะการ์เดียน รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ค้นพบตัวเซซิเลียน หรือ เขียดงู สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกชนิดใหม่ ลักษณะตาบอด มีพฤติกรรมชอบมุดเอาหัวฝังในทราย ก่อนตั้งชื่อให้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ตามชื่อประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่มืดบอดในปัญหาโลกร้อนของนายทรัมป์

Dermophis donaldtrumpi

เขียดงูชนิดใหม่มีชื่อทางการว่า Dermophis donaldtrumpi – เดอร์มอฟิส โดนัลด์ทรัมปี คัดเลือกชื่อโดยนายเอดัน เบลล์ ผู้อำนวยการ บริษัท EnviroBuild บริษัทวัสดุก่อสร้างที่ยั่งยืน ซึ่งทุ่มจ่ายเงิน 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 817,000 บาท ในการประมูลเพื่อให้ได้สิทธิเลือกชื่อให้สัตว์ดังกล่าว

เบลกล่าวว่า “เป็นชื่อที่ไร้ที่ติ ซึ่งเขียดงูหรือเซซิเลียนมาจากคำว่า เซคัส ในภาษาละติน หมายถึง บอด ซึ่งเหมือนกับวิสัยทัศน์ของทรัมป์ต่อประเด็นโลกร้อน

สำหรับสัตว์ชนิดใหม่นี้ขนาดเล็กไม่มีขา ยาว 10 เซนติเมตร มีผู้พบในประเทศปานามา และนักวิทยาศาสตร์เห็นด้วยว่าใช้ชื่อ เดอร์มอฟิส โดนัลด์ทรัมปี เมื่อตีพิมพ์การค้นพบในสิ่งตีพิมพ์วิทยาศาสตร์ ด้วยความเป็นสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก โดยเฉพาะเป็นสัตว์ที่มีความรู้สึกไวต่อผลของโลกร้อน และดังนั้นจึงเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ต่อมา

ก่อนหน้านี้ ผมที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของทรัมป์ถูกนำไปเปรียบเทียบกับหนอนผีเสื้อขนมีพิษและไก่ฟ้าขนทอง มาแล้ว
    

หนอนผีเสื้อ Trumpapillar

เดอะการ์เดียนรายงานว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทำอันตรายแก่ชีวิตชาวอเมริกันแล้ว ตั้งแต่ภัยไฟป่าไปจนถึงน้ำท่วมและสถานการณ์จะยิ่งแย่กว่าเดิมตามที่รัฐบาลสหรัฐรายงานเมื่อเดือนพ.ย. แต่ทรัมป์ระบุว่า “ผมไม่เชื่อรายงานนั้น” ทั้งอ้างว่าเป็นข้อมูลที่หลอกลวงเพื่อให้จีนได้รับประโยชน์

เงินที่ได้จากการประมูลสิทธิตั้งชื่อนำไปให้องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมที่ไม่แสวงหากำไร หรือกองทุนเพื่อป่าฝนดิบชื้น Rainforest Trust

นายคริส เรดส์ตัน ผู้อำนวยการบริหาร Rainforest Trust ในสหราชอาณาจักรระบุว่า การคุ้มครองป่าดิบชื้นที่ยังเหลืออยู่ เป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดที่ได้รับการยอมรับเพื่อลดการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ อย่างไรก็ตาม ในแต่ละวันป่าดิบชื้นถูกทำลายเกือบ 70,000 เอเคอร์ หรือราว 283 ตารางกิโลเมตร

…………….

ข่าวสด
THE MATTER
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่