หนอนผีเสื้อ แปลงร่างเป็นงู พลางตัวเพื่อให้รอดจากนก
"หนอนแก้วหัวงู" หนอนผีเสื้อที่ธรรมชาติช่างสร้างสรรค์ มีหัวเหมือนงูแถมเลียนแบบพฤติกรรมงูได้เหมือนเป๊ะ
เป็นหนอนของผีเสื้อกลางคืนที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hemeroplanes triptolemus มีถิ่นที่อยู่ในแถบภูมิภาคแอฟริกา แอฟริกาใต้ และอเมริกากลาง และมีสายพันธุ์แยกย่อยออกเป็น 2 สายพันธุ์ คือสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในป่าแห้งกับอาศัยอยู่ในป่าดิบชื้น ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า นี่เป็นวิวัฒนาการเพื่อความอยู่รอดของสัตว์ เนื่องจากศัตรูของหนอนก็คือนก และสัตว์ที่นกกลัวก็คืองู นั่นเอง
โดยทันทีที่มันถูกคุกคาม เจ้าหนอนสายพันธุ์นี้จะใช้ส่วนท้ายยึดเกาะกับกิ่งไม้ไว้แล้วห้อยตัวชูส่วนหัวขึ้น จากนั้นบิดหงายช่วงท้องที่มีสีสันเหมือนงูขึ้นมา พร้อมกับพองหัวให้ใหญ่ขึ้นในลักษณะคล้ายหัวงู แม้ว่ามันจะไม่มีเขี้ยว และการพองหัวก็ไม่สามารถทำอันตรายใครได้อยู่ดี แต่วิธีการนี้ก็ช่วยขู่ให้สัตว์ที่จะเข้ามาทำร้ายมันกลัวและล่าถอยออกไป ไม่เว้นแม้แต่มนุษย์เอง บางครั้งเห็นมันแวบ ๆ ก็ยังกลัวจนวิ่งหนี เพราะมองแวบแรกมันเหมือนงูจริง ๆ นี่นา
หลังจากที่หนอนแก้วหัวงูผ่านวงจรชีวิตช่วงตัวอ่อนไปแล้ว ก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วงดักแด้ จากนั้นก็กลายเป็นผีเสื้อกลางคืนตัวเต็มวัยในที่สุด และนี่คือภาพของหนอนแก้วหัวงู เมื่อมันโตเต็มวัยกลายเป็นผีเสื้อกลางคืน


ที่มาข้อมูล : www.thaiinfonet.com
Cr.
http://www.horonumber.com/blog-2599
Cr.
https://hilight.kapook.com/view/130003
หมึกมหัศจรรย์ แปลงร่างเป็นสารพัดสัตว์

หมึกสายจอมเลียนแบบ หรือ มิมิค ออคโตปุส (Mimic Octopus หรือ Thaumoctopus mimicus) เป็นหมึกที่อาศัยอยู่ในทะเลแถบอินโด-แปซิฟิก บริเวณปากอ่าวในน่านน้ำของอินโดนีเซียและมาเลเซีย แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจนิดหน่อยก็คือมนุษย์เราเพิ่งจะค้นพบมันเมื่อปี 1998 นี่เอง บางทีอาจเป็นเพราะสกิลการพรางตัวขั้นสุดยอดของมัน ที่อาจทำให้เราเข้าใจว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น
(ภาพจาก Ross Piper , University of Utah)

หมึกแปลงกายชนิดนี้ มีลำตัวอ่อนนุ่ม ไม่มีกระดอง ไม่มีกระดูก แถมยังไม่มีพิษ เรียกได้ว่ามันคืออาหารชั้นยอดของนักล่าที่กินเนื้อ ฉะนั้นมันจึงอาศัยการพรางตัวในการเอาตัวรอดจากการถูกล่า โดยมักเปลี่ยนตัวเองให้เมือนสัตว์มีพิษอื่นๆ อาทิ ดอกไม้ทะเล ปลาลิ้นหมา ปลาสิงโต งูทะเล ฯลฯ เพื่อขับไล่นักล่าออกไป แต่ในขณะเดียวกันมันก็ใช้การ พรางตัวนี้เพื่อหาอาหารด้วย สัตว์เล็กหลาย ๆ ชนิดที่เป็นอาหารของหมึก อย่างปลาตัวน้อย ๆ และรวมถึงครัสตาเชียนเล็ก ๆ ต่าง ๆ อาทิ กุ้ง ปู ล้วนจะว่ายหนีกันหมดเมื่อเห็นหมึกเข้ามาใกล้ เจ้าหมึกสายเลียนแบบจึงพรางตัวเป็นสิ่งอื่นที่จะไม่ทำให้เหยื่อของมันตกใจ เมื่อสบโอกาสก็เข้าใกล้ แล้วใช้หนวดที่มีปุ่มสุญญากาศจับล็อกเหยื่อผู้โชคร้ายเอาไว้ทันใด
เท่าที่มีการศึกษาพบว่า เจ้าหมึกจอมเลียนแบบนี้สามารถพรางตัวเป็นสัตว์อื่นที่อยู่ร่วมพื้นที่เดียวกันได้ถึง 15 สายพันธุ์ด้วยกัน และไม่ใช่แค่พรางตัวเปลี่ยนสีสันเท่านั้น มันยังเลียนแบบทั้งรูปทรง รูปแบบการเคลื่อนไหว การว่ายน้ำ ความเร็วในการว่าย ถือว่าลอกเลียนได้อย่างแนบเนียนและแยบยลสุด ๆ ทีเดียว
Cr.
https://hilight.kapook.com/view/120702
แมงกะพรุน เปลี่ยนร่างแปลงกายได้

ทีมสำรวจมหาสมุทรทรัสต์ บนเรือนอติลุส สามารถบันทึกวิดีโอที่แสดงให้เห็นสิ่งมีชีวิตปริศนาและลี้ลับที่สุดชนิดหนึ่งที่ยังดำรงอยู่
แมงกะพรุนพันธุ์ ดีพสทาเรีย ( Deepstaria ) ที่ความลึกกว่า 762 เมตร ใต้มหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลาง ใกล้เกาะเบเกอร์ เปลี่ยนร่างแปลงกายจากรูปทรงระฆัง เป็นผ้าพันคอใยไหมพลิ้วไหว บางจังหวะก็เหมือนถุงพลาสติกลอยไปตามกระแสน้ำ เพื่อพรางตัวเองบนพื้นทะเลลึก โดยมันยังมีผู้โดยสารเป็นไอโซพอดอยู่ภายในตัวของมันด้วย

ดีพสตาเรีย ไม่มีหนวดหนามเหมือนกับแมงกะพรุนชนิดอื่นๆ แต่ลำตัวทรงระฆังสามารถเปิดปิดได้เหมือนกระเป๋า ใช้ดักเหยื่อที่ลอยมาไว้ข้างในได้
กระนั้น ความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ของสัตว์สองชนิดยังไม่ทราบแน่ชัด แต่นักวิจัยเชื่อว่า ไอโซพอ สัตว์ทะเลเปลือกแข็งตัวเล็กๆ ไม่ใช่เหยื่อ มันน่าจะกำลังเกาะกินแมงกะพรุนขณะซ่อนตัวอยู่ในร่างผู้ล่า
Cr.
https://board.postjung.com/1166163
มดที่เปลี่ยนร่างกายตัวเองให้กลายเป็นถังเก็บน้ำหวาน
มดน้ำผึ้ง หรือ
(Honey Pot Ant) ถือเป็นมดสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อโตเต็มวัย พวกมันสามารถกักเก็บน้ำผึ้ง ไว้ในท้องได้มากกว่าขนาดลำตัว ซึ่งมีขนาดพอ ๆ กับลูกองุ่นลูกหนึ่งเลยทีเดียว มีความยาวสูงสุดถึง 15 มิลลิเมตร ลักษณะเด่นของมันคือ มีขาและหนวดยาว มีหนวดแบบหักข้อศอก จำนวน 12 ปล้อง
สามารถพบได้ในพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมแห้งแล้ง รังของพวกมัน มีความลึกถึง 1.7 เมตร และมีความยาวกว่า 2.4 เมตร ถือเป็นรังที่มีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับมดสายพันธุ์ทั่วไป ส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะอาศัยอยู่ในแถบอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ และในบางหมู่เกาะของประเทศอินโดนีเซีย ในประเทศไทยพบได้ในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติเขานัน นครศรีธรรมราช
มดชนิดนี้ ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่รุกรานถิ่นฐานของสัตว์อื่นๆได้ร้ายแรงที่สุดในโลก มักล่าเหยื่อโดยการพ่นกรดออกมา บ่อยครั้งที่พวกมันรุกรานราชินีมดท้องถิ่น จนทำให้มดท้องถิ่นสูญพันธุ์ไป ที่น่ากลัวกว่านั้น ในบางประเทศพวกมันเข้าล่าปูน้ำจืดบางชนิดจนสูญพันธุ์มาแล้ว
สิ่งที่ทำให้มดชนิดนี้พิเศษกว่ามดทั่วไป คือ มดงานจะเปลี่ยนร่างกายตัวเองให้กลายเป็นถังเก็บน้ำหวาน เพื่อใช้เป็นเสบียงในเวลาฉุกเฉิน เมื่อมดงานเก็บน้ำหวานมาได้ พวกมันจะได้สิทธิ์พิเศษ ในการนั่งกินนอนกินไม่ต้องเคลื่อนไหวใดๆ อยู่แต่ภายในรัง และเมื่อมีมดที่ต้องการจะมาเบิกน้ำหวาน พวกมันก็อ้าปากแล้วบังคับลิ้นพิเศษที่อยู่ภายในท้อง ดันน้ำหวานออกมาให้มดที่มาเบิกนำน้ำหวานไปใช้งาน
และด้วยความหวานหอมนี้ ทำให้มดชนิดนี้กลายเป็นอาหารอันโอชะของชนเผ่าอะบอริจิน ชนเผ่าพื้นเมืองเจ้าของแผ่นดินทวีปออสเตรเลีย พวกเขากินมันประหนึ่งกำลังกินองุ่นเลยทีเดียว
Cr.
https://www.flagfrog.com/honey-pot-ant-animal/
กบขรุขระแปลงร่างเป็นกบตัวเรียบ

ในป่าดิบชื้นบนเทือกเขาแอนดีสของประเทศเอกวาดอร์ คณะนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันได้ค้นพบ กบชนิดใหม่คือ Pristimantis mutabilis ที่เปลี่ยนแปลงรูปร่างตัวเองได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
นี่เป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างตัวเองได้ เมื่อนักวิทยาศาสตร์พบกบชนิดนี้ครั้งแรกในกองใบไม้ผุที่ปกคลุมด้วยมอสส์ ตัวของมันเต็มไปด้วยปุ่มตะปุ่มตะป่ำคล้ายหนาม แต่พออีกวัน เมื่อพวกเขาจับมันมาวางบนพื้นผิวเรียบๆ เพื่อเตรียมถ่ายรูป ผิวตะปุ่มตะป่ำของกบก็ยุบเนียนลง จนกลายเป็นผิวเรียบสนิทเหมือนพื้นผิวที่มันนั่งทับอยู่ กบชนิดนี้เปลี่ยนแปลงลักษณะของผิวหนังให้เข้ากับ สภาพแวดล้อมของมันได้ในเวลาแค่ 3 นาทีกว่าๆ นี่เป็นกลยุทธ์ในการพรางตัวเพื่อเอาตัวรอดจากสายตาและกรงเล็บของนกและนักล่าอื่นๆ ในธรรมชาติ
Cr.
http://scienceillustratedthailand.com/nature
ปลาไหล Gulper eel แปลงร่างเก็บขากรรไกร

ปลาไหลกรูเปอร์(gulper eel) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Eurypharynx pelecanoides พวกมันอยู่ในน้ำลึกประมาณ 150 - 1,800 เมตร ในมหาสมุทรเขตร้อน และหนาวทั่วโลก เป็นปลาน้ำลึก ที่มีรูปร่างประหลาด โดยมีปากขนาดใหญ่ แต่กับมีร่างกายที่มีลักษณะเรียวเล็ก
พวกมันมีขากรรไกรที่ยึดกันอย่างหลวมๆทำให้สามารถอ้าปากได้กว้างจนสามารถกลืนเหยื่อที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเองได้ เมื่อพวกมันกลืนเหยื่อเข้าไป เหยื่อจะถูกเก็บอยู่ที่อวัยวะพิเศษที่มีลักษณะเหมือนกระเป๋าที่ขากรรไกรล่าง(เหมือนนกพีลิแกน ซึ่งทำให้บางครั้งพวกมันถูกเรียกว่าปลาไหลพีลิแกน หรือบ้างก็ถูกเรียกว่า ปลาไหลปากร่มกรูเปอร์)
ปลาไหลกรูเปอร์มีความยาวตั้งแต่ 3 - 6 ฟุต โดยทั่วไปมีสีดำ หรือ เขียวเข้ม บางตัวมีแถบสีขาวด้านข้างครีบ หลัง(dorsal fin)พวกมันมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากปลาน้ำลึกอื่นคือ มีดวงตาขนาดเล็ก ที่เชื่อกันว่าวิวัฒนาการมาเพื่อตรวจตรวจจับแสงลางๆ ไม่ใช่เพื่อมองภาพพวกมันมีลักษณะที่แต่ต่างจากปลาไหลอื่นอย่างมาก คือ ไมีคลีบอก(pectoral fins)ขนาดเล็กมากจนแทบจะเรียกว่าไม่มีก็ได้
พวกมันยังมีหางที่มีลักษณะเหมือน แส้ที่ยาวมาก จนทำให้ตัวอย่างของพวกมันทึ่ถูกลากขึ้นมาบนผิวน้ำจะพบว่าหางของพวกมันมักจะมัดติดอวนหลายปม โดยปลายหางจะมีอวัยวะที่ที่สร้างแสงได้ที่เรียกว่า photophore พวกมันสร้างแสงเป็นสีชมพูที่จะกระพริบได้(คาดว่ามีประโยชน์ในการล่อเหยื่อมาเข้าปลากขนาดใหญ่ของพวกมันเมื่อเหยื่อเข้ามใกล้พวกมันก็จะพุ่งงับด้วยปากขนาดใหญ่ เนื่องจากร่างกายของพวกมันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ไปว่ายไล่งับเหยื่อ)

ถึงพวกมันจะมีปลาขนาดใหญ่แต่ก็คาดกันว่าอาหารหลักๆของพวกมันจะเป็นสัตว์ขนาดเล็ก เพราะพวกมันมีฟันขนาดเล็กมากซึ่งไม่เหมาะสมในการล่าเหยื่อขนาดใหญ่ การที่พวกมันมีปากขนาดใหญ่อาจเพื่อให้สามารถล่าเหยื่อได้หลากหลายขนาดในเวลาที่อาหารขาดแคลน หรือใช้ปากในลักษณะแหขนาดใหญ่โดยปลาไหลจะว่ายเข้าสู่ฝูงกุ้ง หรือเหยื่อโดยอ้าปากกว้างเมื่อเหยื่อเข้าปากพวกมันก็จะปิดปากแล้วกรองน้ำผ่านเหงือก
Cr.
https://fishmanman.blogspot.com/2015/10/gulper-eel.html
มหัศจรรย์สัตว์โลกแปลงร่าง
หนอนผีเสื้อ แปลงร่างเป็นงู พลางตัวเพื่อให้รอดจากนก
"หนอนแก้วหัวงู" หนอนผีเสื้อที่ธรรมชาติช่างสร้างสรรค์ มีหัวเหมือนงูแถมเลียนแบบพฤติกรรมงูได้เหมือนเป๊ะ
เป็นหนอนของผีเสื้อกลางคืนที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Hemeroplanes triptolemus มีถิ่นที่อยู่ในแถบภูมิภาคแอฟริกา แอฟริกาใต้ และอเมริกากลาง และมีสายพันธุ์แยกย่อยออกเป็น 2 สายพันธุ์ คือสายพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในป่าแห้งกับอาศัยอยู่ในป่าดิบชื้น ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า นี่เป็นวิวัฒนาการเพื่อความอยู่รอดของสัตว์ เนื่องจากศัตรูของหนอนก็คือนก และสัตว์ที่นกกลัวก็คืองู นั่นเอง
โดยทันทีที่มันถูกคุกคาม เจ้าหนอนสายพันธุ์นี้จะใช้ส่วนท้ายยึดเกาะกับกิ่งไม้ไว้แล้วห้อยตัวชูส่วนหัวขึ้น จากนั้นบิดหงายช่วงท้องที่มีสีสันเหมือนงูขึ้นมา พร้อมกับพองหัวให้ใหญ่ขึ้นในลักษณะคล้ายหัวงู แม้ว่ามันจะไม่มีเขี้ยว และการพองหัวก็ไม่สามารถทำอันตรายใครได้อยู่ดี แต่วิธีการนี้ก็ช่วยขู่ให้สัตว์ที่จะเข้ามาทำร้ายมันกลัวและล่าถอยออกไป ไม่เว้นแม้แต่มนุษย์เอง บางครั้งเห็นมันแวบ ๆ ก็ยังกลัวจนวิ่งหนี เพราะมองแวบแรกมันเหมือนงูจริง ๆ นี่นา
หลังจากที่หนอนแก้วหัวงูผ่านวงจรชีวิตช่วงตัวอ่อนไปแล้ว ก็จะเริ่มเข้าสู่ช่วงดักแด้ จากนั้นก็กลายเป็นผีเสื้อกลางคืนตัวเต็มวัยในที่สุด และนี่คือภาพของหนอนแก้วหัวงู เมื่อมันโตเต็มวัยกลายเป็นผีเสื้อกลางคืน
ที่มาข้อมูล : www.thaiinfonet.com
Cr.http://www.horonumber.com/blog-2599
Cr.https://hilight.kapook.com/view/130003
หมึกมหัศจรรย์ แปลงร่างเป็นสารพัดสัตว์
หมึกสายจอมเลียนแบบ หรือ มิมิค ออคโตปุส (Mimic Octopus หรือ Thaumoctopus mimicus) เป็นหมึกที่อาศัยอยู่ในทะเลแถบอินโด-แปซิฟิก บริเวณปากอ่าวในน่านน้ำของอินโดนีเซียและมาเลเซีย แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจนิดหน่อยก็คือมนุษย์เราเพิ่งจะค้นพบมันเมื่อปี 1998 นี่เอง บางทีอาจเป็นเพราะสกิลการพรางตัวขั้นสุดยอดของมัน ที่อาจทำให้เราเข้าใจว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น
(ภาพจาก Ross Piper , University of Utah)
หมึกแปลงกายชนิดนี้ มีลำตัวอ่อนนุ่ม ไม่มีกระดอง ไม่มีกระดูก แถมยังไม่มีพิษ เรียกได้ว่ามันคืออาหารชั้นยอดของนักล่าที่กินเนื้อ ฉะนั้นมันจึงอาศัยการพรางตัวในการเอาตัวรอดจากการถูกล่า โดยมักเปลี่ยนตัวเองให้เมือนสัตว์มีพิษอื่นๆ อาทิ ดอกไม้ทะเล ปลาลิ้นหมา ปลาสิงโต งูทะเล ฯลฯ เพื่อขับไล่นักล่าออกไป แต่ในขณะเดียวกันมันก็ใช้การ พรางตัวนี้เพื่อหาอาหารด้วย สัตว์เล็กหลาย ๆ ชนิดที่เป็นอาหารของหมึก อย่างปลาตัวน้อย ๆ และรวมถึงครัสตาเชียนเล็ก ๆ ต่าง ๆ อาทิ กุ้ง ปู ล้วนจะว่ายหนีกันหมดเมื่อเห็นหมึกเข้ามาใกล้ เจ้าหมึกสายเลียนแบบจึงพรางตัวเป็นสิ่งอื่นที่จะไม่ทำให้เหยื่อของมันตกใจ เมื่อสบโอกาสก็เข้าใกล้ แล้วใช้หนวดที่มีปุ่มสุญญากาศจับล็อกเหยื่อผู้โชคร้ายเอาไว้ทันใด
เท่าที่มีการศึกษาพบว่า เจ้าหมึกจอมเลียนแบบนี้สามารถพรางตัวเป็นสัตว์อื่นที่อยู่ร่วมพื้นที่เดียวกันได้ถึง 15 สายพันธุ์ด้วยกัน และไม่ใช่แค่พรางตัวเปลี่ยนสีสันเท่านั้น มันยังเลียนแบบทั้งรูปทรง รูปแบบการเคลื่อนไหว การว่ายน้ำ ความเร็วในการว่าย ถือว่าลอกเลียนได้อย่างแนบเนียนและแยบยลสุด ๆ ทีเดียว
Cr.https://hilight.kapook.com/view/120702
แมงกะพรุน เปลี่ยนร่างแปลงกายได้
ทีมสำรวจมหาสมุทรทรัสต์ บนเรือนอติลุส สามารถบันทึกวิดีโอที่แสดงให้เห็นสิ่งมีชีวิตปริศนาและลี้ลับที่สุดชนิดหนึ่งที่ยังดำรงอยู่
แมงกะพรุนพันธุ์ ดีพสทาเรีย ( Deepstaria ) ที่ความลึกกว่า 762 เมตร ใต้มหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลาง ใกล้เกาะเบเกอร์ เปลี่ยนร่างแปลงกายจากรูปทรงระฆัง เป็นผ้าพันคอใยไหมพลิ้วไหว บางจังหวะก็เหมือนถุงพลาสติกลอยไปตามกระแสน้ำ เพื่อพรางตัวเองบนพื้นทะเลลึก โดยมันยังมีผู้โดยสารเป็นไอโซพอดอยู่ภายในตัวของมันด้วย
ดีพสตาเรีย ไม่มีหนวดหนามเหมือนกับแมงกะพรุนชนิดอื่นๆ แต่ลำตัวทรงระฆังสามารถเปิดปิดได้เหมือนกระเป๋า ใช้ดักเหยื่อที่ลอยมาไว้ข้างในได้
กระนั้น ความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ของสัตว์สองชนิดยังไม่ทราบแน่ชัด แต่นักวิจัยเชื่อว่า ไอโซพอ สัตว์ทะเลเปลือกแข็งตัวเล็กๆ ไม่ใช่เหยื่อ มันน่าจะกำลังเกาะกินแมงกะพรุนขณะซ่อนตัวอยู่ในร่างผู้ล่า
Cr.https://board.postjung.com/1166163
มดที่เปลี่ยนร่างกายตัวเองให้กลายเป็นถังเก็บน้ำหวาน
มดน้ำผึ้ง หรือ (Honey Pot Ant) ถือเป็นมดสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เมื่อโตเต็มวัย พวกมันสามารถกักเก็บน้ำผึ้ง ไว้ในท้องได้มากกว่าขนาดลำตัว ซึ่งมีขนาดพอ ๆ กับลูกองุ่นลูกหนึ่งเลยทีเดียว มีความยาวสูงสุดถึง 15 มิลลิเมตร ลักษณะเด่นของมันคือ มีขาและหนวดยาว มีหนวดแบบหักข้อศอก จำนวน 12 ปล้อง
สามารถพบได้ในพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมแห้งแล้ง รังของพวกมัน มีความลึกถึง 1.7 เมตร และมีความยาวกว่า 2.4 เมตร ถือเป็นรังที่มีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับมดสายพันธุ์ทั่วไป ส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะอาศัยอยู่ในแถบอเมริกาเหนือ ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ และในบางหมู่เกาะของประเทศอินโดนีเซีย ในประเทศไทยพบได้ในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติเขานัน นครศรีธรรมราช
มดชนิดนี้ ถือเป็นสิ่งมีชีวิตที่รุกรานถิ่นฐานของสัตว์อื่นๆได้ร้ายแรงที่สุดในโลก มักล่าเหยื่อโดยการพ่นกรดออกมา บ่อยครั้งที่พวกมันรุกรานราชินีมดท้องถิ่น จนทำให้มดท้องถิ่นสูญพันธุ์ไป ที่น่ากลัวกว่านั้น ในบางประเทศพวกมันเข้าล่าปูน้ำจืดบางชนิดจนสูญพันธุ์มาแล้ว
สิ่งที่ทำให้มดชนิดนี้พิเศษกว่ามดทั่วไป คือ มดงานจะเปลี่ยนร่างกายตัวเองให้กลายเป็นถังเก็บน้ำหวาน เพื่อใช้เป็นเสบียงในเวลาฉุกเฉิน เมื่อมดงานเก็บน้ำหวานมาได้ พวกมันจะได้สิทธิ์พิเศษ ในการนั่งกินนอนกินไม่ต้องเคลื่อนไหวใดๆ อยู่แต่ภายในรัง และเมื่อมีมดที่ต้องการจะมาเบิกน้ำหวาน พวกมันก็อ้าปากแล้วบังคับลิ้นพิเศษที่อยู่ภายในท้อง ดันน้ำหวานออกมาให้มดที่มาเบิกนำน้ำหวานไปใช้งาน
และด้วยความหวานหอมนี้ ทำให้มดชนิดนี้กลายเป็นอาหารอันโอชะของชนเผ่าอะบอริจิน ชนเผ่าพื้นเมืองเจ้าของแผ่นดินทวีปออสเตรเลีย พวกเขากินมันประหนึ่งกำลังกินองุ่นเลยทีเดียว
Cr.https://www.flagfrog.com/honey-pot-ant-animal/
กบขรุขระแปลงร่างเป็นกบตัวเรียบ
ในป่าดิบชื้นบนเทือกเขาแอนดีสของประเทศเอกวาดอร์ คณะนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันได้ค้นพบ กบชนิดใหม่คือ Pristimantis mutabilis ที่เปลี่ยนแปลงรูปร่างตัวเองได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
นี่เป็นครั้งแรกที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปร่างตัวเองได้ เมื่อนักวิทยาศาสตร์พบกบชนิดนี้ครั้งแรกในกองใบไม้ผุที่ปกคลุมด้วยมอสส์ ตัวของมันเต็มไปด้วยปุ่มตะปุ่มตะป่ำคล้ายหนาม แต่พออีกวัน เมื่อพวกเขาจับมันมาวางบนพื้นผิวเรียบๆ เพื่อเตรียมถ่ายรูป ผิวตะปุ่มตะป่ำของกบก็ยุบเนียนลง จนกลายเป็นผิวเรียบสนิทเหมือนพื้นผิวที่มันนั่งทับอยู่ กบชนิดนี้เปลี่ยนแปลงลักษณะของผิวหนังให้เข้ากับ สภาพแวดล้อมของมันได้ในเวลาแค่ 3 นาทีกว่าๆ นี่เป็นกลยุทธ์ในการพรางตัวเพื่อเอาตัวรอดจากสายตาและกรงเล็บของนกและนักล่าอื่นๆ ในธรรมชาติ
Cr.http://scienceillustratedthailand.com/nature
ปลาไหล Gulper eel แปลงร่างเก็บขากรรไกร
ปลาไหลกรูเปอร์(gulper eel) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Eurypharynx pelecanoides พวกมันอยู่ในน้ำลึกประมาณ 150 - 1,800 เมตร ในมหาสมุทรเขตร้อน และหนาวทั่วโลก เป็นปลาน้ำลึก ที่มีรูปร่างประหลาด โดยมีปากขนาดใหญ่ แต่กับมีร่างกายที่มีลักษณะเรียวเล็ก
พวกมันมีขากรรไกรที่ยึดกันอย่างหลวมๆทำให้สามารถอ้าปากได้กว้างจนสามารถกลืนเหยื่อที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวเองได้ เมื่อพวกมันกลืนเหยื่อเข้าไป เหยื่อจะถูกเก็บอยู่ที่อวัยวะพิเศษที่มีลักษณะเหมือนกระเป๋าที่ขากรรไกรล่าง(เหมือนนกพีลิแกน ซึ่งทำให้บางครั้งพวกมันถูกเรียกว่าปลาไหลพีลิแกน หรือบ้างก็ถูกเรียกว่า ปลาไหลปากร่มกรูเปอร์)
ปลาไหลกรูเปอร์มีความยาวตั้งแต่ 3 - 6 ฟุต โดยทั่วไปมีสีดำ หรือ เขียวเข้ม บางตัวมีแถบสีขาวด้านข้างครีบ หลัง(dorsal fin)พวกมันมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากปลาน้ำลึกอื่นคือ มีดวงตาขนาดเล็ก ที่เชื่อกันว่าวิวัฒนาการมาเพื่อตรวจตรวจจับแสงลางๆ ไม่ใช่เพื่อมองภาพพวกมันมีลักษณะที่แต่ต่างจากปลาไหลอื่นอย่างมาก คือ ไมีคลีบอก(pectoral fins)ขนาดเล็กมากจนแทบจะเรียกว่าไม่มีก็ได้
พวกมันยังมีหางที่มีลักษณะเหมือน แส้ที่ยาวมาก จนทำให้ตัวอย่างของพวกมันทึ่ถูกลากขึ้นมาบนผิวน้ำจะพบว่าหางของพวกมันมักจะมัดติดอวนหลายปม โดยปลายหางจะมีอวัยวะที่ที่สร้างแสงได้ที่เรียกว่า photophore พวกมันสร้างแสงเป็นสีชมพูที่จะกระพริบได้(คาดว่ามีประโยชน์ในการล่อเหยื่อมาเข้าปลากขนาดใหญ่ของพวกมันเมื่อเหยื่อเข้ามใกล้พวกมันก็จะพุ่งงับด้วยปากขนาดใหญ่ เนื่องจากร่างกายของพวกมันไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ไปว่ายไล่งับเหยื่อ)
ถึงพวกมันจะมีปลาขนาดใหญ่แต่ก็คาดกันว่าอาหารหลักๆของพวกมันจะเป็นสัตว์ขนาดเล็ก เพราะพวกมันมีฟันขนาดเล็กมากซึ่งไม่เหมาะสมในการล่าเหยื่อขนาดใหญ่ การที่พวกมันมีปากขนาดใหญ่อาจเพื่อให้สามารถล่าเหยื่อได้หลากหลายขนาดในเวลาที่อาหารขาดแคลน หรือใช้ปากในลักษณะแหขนาดใหญ่โดยปลาไหลจะว่ายเข้าสู่ฝูงกุ้ง หรือเหยื่อโดยอ้าปากกว้างเมื่อเหยื่อเข้าปากพวกมันก็จะปิดปากแล้วกรองน้ำผ่านเหงือก
Cr.https://fishmanman.blogspot.com/2015/10/gulper-eel.html