ขาลงวงการสื่อต้องไม่ละเลยคุณภาพและจรรยาบรรณที่ต้องรักษา



ผมขอพูดถึง ฐานเศรษฐกิจ ที่ช่วงหลัง ๆ นี่เป็นอะไร เสนอข่าวขาดความน่าเชื่อถือลงไปเยอะเลย แถมลดเกรดตัวเองลงไปจนแทบจะกลายเป็นสื่อประเภทหัวสี ชวนตีไปเรื่อย ทั้งการนำเสนอในสื่อหลัก และในรายการของวิเคราะห์ข่าวของคุณบากบั่น

ปีที่แล้วก็โดนคิงพาวเวอร์ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย 800 กว่าล้านบาท ที่ไปกล่าวหาเขากรณีการประมูลดิวตี้ฟรี

ปีนี้ก็เพิ่งโดนซีพีฟ้องร้องอีก 600 กว่าล้านบาท เรื่องที่ดินโยธะกา ที่เอาความไม่จริงไปพูดซะเป็นวรรคเป็นเวร

ไม่กี่วันหลังจากโดนซีพีฟ้องร้อง เอาอีกแล้ว ถึงขนาดที่ คุณวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟฯ เอ่ยปากว่า “ไปเอาข่าวมาจากไหน” แถมทำผิดมารยาทการเปิดเผยข้อมูลการประมูลอีก เพราะข้อมูลยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา กรณีการกล่าวหาซีพีขอให้รัฐการันตีกำไร 6% ในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ยังไม่พอแค่นั้น ยังไปลากเอาคุณมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) มาเอี่ยวด้วย จนคนใกล้ชิดคุณมานะต้องออกมาปฏิเสธว่า คุณมานะรู้บทบาทตัวเอง ในฐานะสักขีพยานการเปิดซองประมูล ไม่สามารถพูดได้ เพราะผิดกกฎหมายและผิดเงื่อนไขที่ถูกเชิญให้เป็นคนกลาง พร้อมกับเรียกร้องให้ทุกฝ่ายรักษากติกา และช่วยกันหาตัวคนปล่อยข่าวโดยเร็ว  

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

สมัยก่อนผมชอบอ่านสื่อฉบับนี้มาก แต่ 1-2 ปีมานี้ หลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอข่าว ผมไม่ค่อยอยากเสพสื่อค่ายนี้เลย เพราะกลิ่นอายสื่อที่น่าเชื่อถือมันเปลี่ยนไป และไม่ใช่แค่ผมที่รู้สึกอย่างนี้ แม้แต่สื่อด้วยกันเอง ก็มีการพูดถึงเรื่องนี้กันมาก คนในวงการเดียวกัน เขาก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับค่ายนี้ ระยะหลัง ๆ สื่ออื่น ๆ จึงไม่ค่อยให้ความสำคัญกับสื่อค่ายนี้เท่าไรนัก

เป็นที่รู้กันดีอยู่ว่า ช่วงนี้สื่อถูกคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างมาก แต่ละค่ายจึงต้องดิ้นรน พยายามเอาตัวรอดกันเต็มที่ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า การดิ้นรนเอาตัวรอดต้องละทิ้งคุณภาพและจรรยาบรรณที่สื่อควรมี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่