ลิเวอร์พูล กับนักเตะบางคนและโอกาสที่ไม่เหมือนกัน

.

        ชัยชนะหลังเกมส์แดงเดือด แม้อาจมีความหมายทางจิตใจ ที่มีชัยเหนือทีมคู่อริ แต่ว่ากันจริงๆแล้ว หากจะหวังกลับมาสู่ยุคยิ่งใหญ่ อยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ การลงเล่นเพื่อชัยชนะต่อทีมใหญ่ด้วยกันในบ้านของตัวเอง ก็เป็นเรื่องที่ปกติที่ลิเวอร์พูลของ  JK ต้องหวังและต้องทำให้ได้อยู่แล้ว และเมื่อทำได้ก็ไม่จำเป็นต้องดีใจเป็นพิเศษ หรือใช้เป็นเหตุเฉลิมฉลองใดๆทั้งสิ้น เพราะว่านี้ มันยังไม่ถึงครึ่งทางเลย เว้นแต่ว่า ชัยชนะเหนือแมนยูเมื่อคืนไม่ได้มีผลให้มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้จัดการทีมคู่อริ อย่าง มูรินโญ่ แล้วอันนี้ใครจะใช้เป็นเหตุผล จัดมหรสพเฉลิมฉลอง เพื่อความยืนยงสถาพรในเก้าอี้กุนซือของจ่ามู ก็ทำกันได้ทำกันตามความสาแก่ใจ

        แต่ประเด็นสำคัญของกะทู้นี้ มิได้หวังตั้งขึ้นมาเพื่อเยาะเย้ย ถากถาง สร้างความอับอายให้กับใคร(เหรอ..?) เพราะกลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ป่านนี้ ขุดรูหนีหาย หอบความอับอาย หายศรีษะไปหมดแล้ว ดังนั้นจึงเปลืองตัวอักษรเปล่าๆที่จะพิมพ์เย้ยหยันกันโดยเปล่าประโยชน์ (นี้ขนาดเปล่าประโยชน์ เมิงยังพิมพ์มาตั้งสองวรรคเลยนะ ไอ้รอง 55+)

        มาว่ากันถึงประเด็นของกะทู้นี้กันจริงๆสักที ที่อยากจะหยิบยกเรื่องการได้โอกาสลงเล่น ของนักเตะหลายคนของลิเวอร์พูล เพราะด้วยฟอร์มการเล่นของทีมที่ดูหรู และน่าจะเป็นนัดที่ฟอร์มดูหรูที่สุดนับจากเปิดฤดูกาลมา กับการดาหน้าบุกกระหน่ำอยู่ข้างเดียว นักเตะทุกคนมีเอี่ยวในการใช้โอกาสทำประตู(ยกเว้น อลิสซอน) และการครองเกมส์ที่เหนือว่า นั้นบ่งชี้ถึงความลงตัวของระบบทีมและคุณภาพการเล่นของผู้เล่นชุดนี้ ซึ่งมีหลายตำแหน่งเปลี่ยนแปลงไปจากผู้เล่นชุดหลักที่คล้อปใช้อยู่เป็นประจำ

       ไล่กันมาจากแผงหลังยันแดนหน้า เริ่มจาก เดยัน ลอฟเร่น ที่เคยถูกคาดการณ์ ว่าจะเป็นตัวหลักยืนคู่ฟานไดร์ แต่ทำไปทำมา ตอนต้นฤดูกาลที่ตัวเขาเจ็บ โจ โกเมช ที่ได้โอกาสลงแทน ก็กลับแสดงพัฒนาการที่ยอดเยี่ยม เยี่ยมถึงขนาดมองกันว่า ตำแหน่งตัวหลักของทีได้ถูกแย่งไปจากมือลอฟเร่นแล้ว และถ้า โจ โกเมชไม่เจ็บยาวไป โอกาสคงไม่มาถึงลอฟเร่นแน่ๆ

        แต่เมื่อได้รับโอกาส กองหลังเลือดโครแอตรายนี้ ก็แสดงภึงความ"มีดี"ให้เห็นเหมือนกัน แต่ที่ดีไปกว่าฟอร์มการเล่นนั้น ก็คือ เพลสชั่น หรืออารมณ์ร่วมกับเกมส์ ลอฟเร่นคือผู้เล่นที่มีสิ่งนี้อยู่เต็มเปี่ยม และจุดนี้ยังเหนือว่า โจ โกเมช ซึ่งยังอ่อนวัยวุฒิอยู่พอสมควร ลอฟเร่น เป็นเซ้นเตอร์ ที่ไม่ลน ไม่ล่ก จนออกอาการ ส่วนไอ้ที่เคยเหวอๆไปไปก่อนหน้านี้นั้น เป็นเพราะเขายังไม่ได้ยกระดับฝีเท้าตัวเองขึ้นมาเป็นกองหลังที่แข็งแกร่ง แต่ตอนนี้ เขาเป็นอย่างนั้นแล้ว แม้คำพูดคำจาจะออกมาดูโม้ๆไปหน่อยเวลาสัมภาษณ์ แต่จริงๆแล้ว ฟอร์มตั้งแต่บอลโลกมาจนถึงปัจจุบัน มันบอกได้ว่า ลอฟเร่น คือหนึ่งในเซ้นเตอร์แบ๊คชั้นดี แม้จะมีความเก่งกาจไม่ถึงชั้นแนวหน้าก็เถอะ แต่ก็ถือว่าใช้ได้ ยิ่งได้มาจับคู่กับฟานไดร์ ซึ่งคอยสั่งการแนวรับได้อย่างเฉียบขาด ลอฟเร่น ก็นับว่าเป็นกำลังสำคัญคนหนึ่งที่ทีมสมควรต้องมีไว้ใช้ช่วงชิงความสำเร็จ

        ซึ่งบอกตามตรง ในมุมมองของ จขกท. ลอฟเร่นคือตัวเลือกที่ดีกว่า มาติป ในกรณีที่ โจโกเมช ยังไม่กลับมา หรือกลับมาแล้ว แต่ต้องการหมุนเวียนผู้เล่นในตำแหน่งนี้ ลอฟเร่นก็คือคนที่ JK สมควรเลือกใช้เป็นคนแรก หรือคิดไปไกลกว่านั้น ถ้าลอฟเร่นยังพลักดันตัวเองให้ฟอร์มคงเส้นคงวาแบบนี้ ในตอนที่ได้รับโอกาส ให้คิดเสียว่าเขาก็น่าจะได้โอกาสพิสูจน์อีกที ว่าตำแหน่งตัวหลักนี้ น่าจะเป็นตัวเก๋าอย่างเขา หรือดาวรุ่งอย่าง โกเมช ที่ได้ประโยชน์ก็คงไม่ใช่แค่ตัวเขาเอง แต่เป็นทีมด้วย ที่ได้ประโยชน์ จากการแข่งขันแย่งตำแหน่งกันของผู้เล่นคุณภาพ

        ซึ่งกรณีของลอฟเร่นนั้น ก็เหมือนกับ นาธาเนียน ไคลน์ นักเตะอีกคนของลิเวอร์พูลเช่นกัน ที่ได้โอกาสหลังจากเสียตำแหน่งตัวจริงไปให้กับดาวรุ่งอีกคนอย่าง เทรน อาโนลด์ เพียงกรณีของไคลน์แตกต่างออกไป เพราะเหมือนตัวเขาคล้ายว่าจะไม่อยู่ในแผนทำทีมของคล้อป อีกแล้ว โอกาสที่เขาได้รับก็มาจาก ตัวเลือกเบอร์ 2 เบอร์ 3 ก็เจ็บเช่นเดียวกันกับตัวหลัก โอกาสของไคลน์จึงมาถึง ดังนั้นช่วงเวลาต่อไปนี้ ทุกนาทีที่ไคลน์จะได้ลงเล่น คือการขึ้นแสตนโชว์ บนชั้นวางสินค้าเพื่อขายนักเตะ เพื่อให้สโมสรอื่นที่เห็นค่าเขา ยอมจ่ายตามราคาที่ลิเวอร์พูลพึงพอใจ

        บอกตามตรง จนถึงตอนนี้ ไคลน์ ก็ยังดูดีกว่า เทรน อาโนลด์ ที่คล้อปโปรดปรานหลายขุมตามมุมมองของ จขกท.เอง ถึงไคลน์จะสนับสนุนเกมส์รุกได้ไม่โดดเด่น แต่เกมส์รับเชื่อใจได้มากกว่าเทรน ที่มักหลุดตำแหน่ง แบบไม่ต้องการคำอธิบายใด คือชอบไปยืนแถว มุมกรอบเขตโทษเปิดช่องว่างไว้ด้านข้าง แทนที่จะถ่างไปปิดคู่ต่อสู้ที่ขึ้นมาทางริมเส้น

        แต่ก็เอาเถอะ รู้กันดีอยู่แล้ว ว่าถ้าคล้อปเลือกใช้ใคร ก็ยากที่จะเปลี่ยนใจมาแลมาดู คนที่ตัวเองเคยมองข้ามไปแล้ว ดังนั้น ช่วงเวลาไม่กี่นัดต่อจากนี้ ขอให้ไคลน์พยายามโชว์ฟอร์มให้ดี จะได้คว้าโอกาสลงเล่นเป็นตัวหลักได้ยาวๆ แต่เป็นโอกาสกับทีมอื่นที่จะมาซื้อตัวตอนตลาด หน้าหนาวนะ ไม่ใช่ลิเวอร์พูล

        ไล่ต่อมาถึงแดนกลาง นักเตะ อย่าง ฟาบินโญ่ ชั่วโมงนี้ เขาก็ยังไม่ได้ถูกมองว่าเป็นนักเตะตัวหลัก แม้จะถูกซื้อมาด้วยราคาแพงระยับ แต่กลับทำผลงงานไม่เข้าตาในช่วงแรกๆ เขาเลยถูกลดบทบาทไปเป็นตัวหมุนเวียน เปลี่ยนแปลงตามระบบแผนการเล่นของคล้อปในแต่ละนัดมากกว่า แต่ก็บอกตรงๆว่าในเกมส์แดงเดือด ที่ลิเวอร์พูลเหนือกว่าแมนยูอย่างเห็นได้ชัด ผลงานส่วนหนึ่งก็มาจาก ฝีเท้าของมิลดฟิลด์แซมบ้าผู้นี้ แต่ความเชิดชันไฉไลนัดเดียว ก็ยังยากที่จะทำให้เขาก้าวมาเป็นตัวหลักจริงๆ ในตำแหน่งมิดฟิลด์เกมรับ เนื่องจากคู่แข่งแย่งตำแหน่งกับเขานั้น เป็นถึงกัปตันทีม อย่างเฮนเดอร์สัน ถึงแม้ประโยชน์และฝีเท้าไม่ค่อยมี แต่มีดีกรีและกองหนุนเพียบ ดังนั้นโอกาสที่ฟาบี้จะเสียบแทนเฮนโด้จากผลงานนัดเดียวนั้น ต้องบอกว่าเลิกพูด

        สิ่งเดียวที่ฟาบี้ทำได้ คือก้มหน้าก้มตาพิสูจน์ตัวเองต่อไป แม้โอกาสที่อาจจะได้ลงอาจไม่ต่อเนื่อง แต่ก็ต้องเก็บเรื่องนี้ไปพิสูจน์ให้คล้อปเห็นเวลาฝึกซ้อม

        ตัวสุดท้าย ที่ดูลุคไฉไลขั้นเทพสำหรับเกมส์เมื่อคืน กับ MOM อย่าง เซอร์ดาน ชากีรี่ ซึ่งตอนนี้ปฏิเสธไม่ได้แล้วล่ะ ว่านี้คือนักเตะตัวความหวังเบอร์ต้นๆของทีมในเวลานี้ เพียงแต่ ตำแหน่งที่จะใส่เขาลงไปทำประโยชน์ให้ทีม มันมีคู่แข่งแย่งตำแหน่งกันเยอะ จะดันไปหน้าเล่นปีก ก็เจอซาล่าห์ มาเน่ ขวางอยู่ จะใส่แดนกลาง ช่วงนี้คล้อปก็ไม่ได้มีแผนสำหรับมิลด์ฟิลด์ตัวริมเส้นโดยเฉพาะ เลยกลายเป็นต้องปรับบทบาทตัวเองเป็นมิดล์ฟิลด์แบบ Box2Box แต่ตำแหน่งนี้ก็มีผู้เล่นเก่าใหม่ขวางทางอยู่เพียบ สุดท้ายถ้าอยากปักป้ายจองตำแหน่งตัวหลัก ที่ซากีรี่ทำได้ก็คือ  สร้างความแตกต่างให้ได้ในยามที่เขาได้โอกาส

       แถมท้ายด้วยตัวนี้ เพราะเมื่อคืน เห็นแววตาของอดีตนักเตะตัวหลักอีกตัว ที่ถูกคล้อปมองข้ามหัวมานานแล้ว อย่าง มินนี่ บอกตรงๆเห็นแล้วก็สงสาร เพราะฝีมืออย่างเขา สมควรมีโอกาสที่ดีกว่านักเป็นนักเตะที่ไม่มีชะตาอยู่ข้างสนาม แน่นอนว่า คงไม่ใช่กับลิเวอร์พูลในเวลานี้ แต่ก็อยากให้มีโอกาสดีๆวิ่งเข้ามาหาเข้าบ้าง ในตลาดหน้าหนาว หรือตลาดหยุดยาวปิดฤดูกาลก่อนได้

ก็ได้แต่หวังว่าพวกเขา ที่พูดถึงมาทั้งหมด คงจะได้รับโอกาสที่เหมาะกับตัวเองนะ
ว่าแล้วขอพรกับแซนต้าดีกว่า
จิงเกอเบล......จิงเกอเบล.....จิงเกิ้ลออลเดอะเวย์