[CR] [ก็แค่คนชอบดูหนัง] รีวิว Ten Years Thailand : มองอนาคตประเทศไทยผ่านหนัง..


รีวิว Ten Years Thailand (7/10 คะแนน)
จิกกัดสังคมได้ดี แต่ก็ทำได้แค่จิกกัดเท่านั้น..
[ เปิดเผยเนื้อหาบางส่วน แต่ยังไม่เสียอรรถรส ]


เพื่อนๆ เคยลองคิด ลองจินตนาการดูๆ ไหม ?
ว่าอนาคตเมืองไทย 10 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร
(ที่แน่ๆ น่าจะมีเลือกตั้งไปแล้วล่ะ หัวเราะ)

หนังนำเสนอภาพอนาคตของประเทศไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า ผ่านมุมมองของผู้กำกับ 4 คน ผ่านหนังสั้น 4 เรื่อง ความยาวเรื่องละประมาณ 20 นาที

หนังจิกกัดสังคมไทยในปัจจุบัน รวมไปถึงอดีตได้เป็นอย่างดี บางเรื่องก็แตะๆ แค่เพียงผิวเผิน ส่วนบางเรื่องก็จิกกัดได้อย่างเจ็บแสบยิ่งกว่าโดนแฟนเก่าตักน้ำจากคลองแสนแสบมาสาดใส่หน้าบางๆ ของเราที่เพิ่งทำเลเซอร์มา แต่มันก็เพียงเท่านั้น..

โดยภาพรวมหนังแซะ หนังแขวะสังคมไปซะทุกเรื่องจริงๆ ทั้งการเมือง การทหาร การศึกษา ศาสนาและยังไม่ลืมนำเสนอความธรรมดาของชีวิต ความสุขจากชีวิตที่เรียบง่ายออกมา

เราชอบที่หนังกล้านำเสนอมุมมองเหล่านี้ออกมาเป็นหนัง และแอบทึ่งที่มันผ่านกองเซนเซอร์เมืองไทยมาได้ แต่หนังทำได้เพียงนำเสนอในมุมมองแบบ Negative แทบจะเพียงด้านเดียว ให้อารมณ์ดูแล้วสะใจ สมเพชประเทศตัวเอง มากกว่าที่จะดูแล้วรู้สึกเตือนใจ ได้แนวทางดีๆ นำไปปรับใช้ให้สังคมมันดีขึ้นจริงๆ..

ซึ่งการทำเนื้อหาหนังในหนังลักษณะนี้มันก็สะท้อนภาพของคนในสังคมเราเองซ้อนหนังอีกทีว่า "สังคมไทย" เราเป็นยังไง..



เรื่องที่หนึ่ง SUNSET (อาทิตย์ อัสสรัตน์)
..เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก หนังให้เราวอร์มอัพเบาๆ ด้วยเรื่องที่ดูแล้วย่อยง่าย เข้าถึงได้ทุกคน ด้วยประเด็นที่มันใกล้เคียงบ้านเมืองเราในปัจจุบันเอามากๆ แถมสอดแทรกมุมน่ารักๆ เอาไว้ให้อมยิ้มกัน



เรื่องที่สอง CATOPIA (วิศิษฏ์ ศาสนเที่ยง)
..พาร์ทนี้เป็นเรื่องที่เราชอบที่สุดจากทั้งหมด 4 เรื่อง หนังเริ่มติสแตกหนักหน่วงขึ้น ต้องใช้สมองตีความมากขึ้น แต่ก็ยังดูง่ายอยู่ แถมยังมีผสมทริลเลอร์เบาๆ ให้ได้ลุ้นระทึก แม้เส้นเรื่องจะเดาง่ายก็เถอะ แต่นัยยะที่แฝงอยู่ในตอนนี้มันถูกจริตเราจริงๆ ประเด็นหลักๆ ที่ได้จากเรื่องสำหรับเราคือ "การล่าแม่มด" จากความแตกแยกทางความคิดของคนในสังคม



เรื่องที่สาม PLANETARIUM (จุฬญานนท์ ศิริผล)
..พาร์ทนี้แม่มหลุดโลกไปแล้ววววว !! ตอนเริ่มเรื่องเราดูแล้วว้าวมาก หนังจิกกัดแบบตรงไปตรงมา แต่พอเข้าสู่ช่วงกลางเรื่อง วิธีการนำเสนอเริ่มหลุดโลกไปไกล แต่ใจความสำคัญยังอยู่ครบ แถมโคตรคูล !!



เรื่องสุดท้าย SONG OF THE CITY (อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล)
..หนังตบท้ายด้วยอะไรนิ่งๆ ให้เรานั่งมึนๆ เอ๋อๆ ประมวลผลเหมือนโดนสารส้มปาใส่ให้ตกตะกอน แต่มีความเฉียบ !! ในความธรรมดาของมัน เป็นการแลนดิ้งที่สวยงามของหนังทั้งหมด 4 เรื่อง..


สรุป.. หนังชื่อเรื่อง Ten Years Thailand แต่มันน่าเศร้าที่ดูแล้วเหมือนเมืองไทยในปัจจุบัน และในอดีตยิ่งนัก ถึงเราจะไม่ชอบที่หนังเผยแต่มุมมองแบบ Negative แต่เราก็ยังชอบวิธีที่หนังใช้ในการนำเสนออยู่ไม่น้อย 7 คะแนนกำลังดี ไม่มากไม่น้อยเกินไปครับ..

แน่นอน เรื่องนี้ไม่ใช่หนังแมส ใครที่คิดจะไปดูก็ถามจริตการดูหนังของตัวเองก่อนไปดูนะครับ ว่าพร้อมแล้วรึยัง.. 5555


#ก็แค่คนชอบดูหนัง
#TenYearsThailand


ชื่อสินค้า:   Ten Years Thailand
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่