คนที่มีอาการออทิซึม เป็นออทิสติก ชีวิตเป็นอย่างไร: มุมมองจากต่างแดนของครูคนนึงในสวีเดน

สวัสดีครับ

วัน ๆ ผมเจอคำถามเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้บ่อย ๆ
หนึ่งในสาเหตุก็คงเป็นเพราะว่าผมทำงานคลุกคลีกับเด็กพิเศษมากมาย
มีทั้งสมาธิสั้น  อ่านหนังสือลำบาก คิดเล็กไม่ออก พูดไม่ชัด  ออทิสติก และอื่นๆ
ทำให้ผมเจออะไรมากมาย
อีกอย่างที่โรงเรียนผมจะใส่ใจเรื่องนี้มาก จะมีจัดอบรม ส่งครูไปอบรมบ่อย ๆ
ทำให้เรารู้เรื่องแบบนี้ค่อนข้างเยอะ

ผมชอบที่จะพูดเกี่ยวกับเรื่องเด็กพิเศษ
ชอบที่จะเล่าให้คนฟังว่าอะไรเป็นอะไร เพราะผมรู้สึกว่ามีคนเข้าใจผิดเรื่องแบบนี้อยู่มาก

เช่นเด็กที่มี learning disability  ไม่จำเป็นว่าต้องไอคิวต่ำ  แต่อาจจะเป็นเพราะว่าวิธีสอนของครูอาจจะไม่เข้ากับวิธีถนัดด้านการเรียนรู้ของเด็ก
อย่างโรงเรียนผมก็จะเน้นปรับการสอนให้เข้ากับเด็กแต่ละคนให้เท่าที่จะทำได้

หรือที่ได้ยินบ่อยมาก ๆ คือพอพูดถึง ออทิซึม พูดถึงเด็กออทิสติก
คนก็จะคิดถึงเด็กที่ทำอะไรไม่ได้ หรือคิดถึงเด็กที่นั่งเหม่อลอย น้ำลายไหลเยิ้ม

ความจริงเด็กออทิสติกแบบนั้นมี  แต่...
ออทิสติกแบบความสามารถสูงที่ดูภายนอกเหมือนคนปกติก็มีนะครับ  ขอบอก

คนที่มีอาการออทิซึม มักจะสนใจสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นพิเศษ
มักจะมีความผูกพันกับสิ่งของเป็นพิเศษในแบบที่คนอื่นไม่เป็น  
มักจะมีปัญหากับการเข้าสังคม การอ่านผู้คน อะไรแบบนั้น
นั่นคือสิ่งที่ออทิสติกส่วนใหญ่เป็นเหมือนกัน
แต่ระดับความสามารถจะต่างกันไป  
มีตั้งแต่แบบที่ดูภายนอกเหมือนคนทั่วไป ไอคิวสูง ความสามารถสูง เข้าสังคมได้อย่างไม่มีปัญหา
ไปจนถึงแบบพูดไม่รู้เรื่อง ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องมีคนคอยช่วยเหลือตลอด

ออทิสติกหลายคนมีหน้าที่การงานดี
ไปดูพวกนักวิจัย พวกดอกเตอร์หลาย ๆ คนที่สวีเดนนี้ แต่ละคนออกแนว ออทิสติก/aspergers กันหลายคน
เพราะจะวิจัยอะไรมันต้องสนใจจริง ๆ ต้องแบบนั่งทำอะไรนาน ๆ ได้
บางคนก็เป็นครูบาอาจารย์อะไรก็มี  

อย่างผมเป็นต้น ผมเป็นทั้ง สมาธิสั้นแบบ adhd  และออทิสติกแบบความสามารถสูง  
ผมสอนอังกฤษระดับมัธยมอยู่ที่สวีเดน  นักเรียนเรียนเข้าใจและชอบสิ่งที่ผมสอน
นอกนั้นผมก็เป็นหัวหน้าหมวดอังกฤษอีกด้วย
ผมรู้สึกว่าชีวิตผมค่อนข้างดี
ผมพูดได้ 3 ภาษา  คิดอะไร ประมวลผลอะไรได้ค่อนข้างเร็ว


ผมไม่ชอบไปพบปะผู้คน ไม่ชอบไปงานเลี้ยง ไม่ชอบกินเหล้า
พฤติกรรมหลายอย่างที่ผมมีปัญหาตอนเด็ก ๆ ผมได้หาทางปรับมัน
ถ้าผมไม่บอกก็จะไม่มีใครรู้ว่าผมเป็นเด็กพิเศษ  

จะเรียกว่าเด็กก็ไม่น่า... เพราะผม 37 แล้ว 555

ที่เขียนมานี่คือ ผมอยากจะบอกว่า การที่เรามีอาการออทิสติกและ/หรือสมาธิสั้น
ไม่ได้หมายความว่าชีวิตเราจะแย่หรือไม่มีอนาคตครับ  
เพราะหลายอย่างปรับได้ แก้ได้
อย่าง adhd ก็มียาที่ทำให้บรรเทาอาการลง
ออทิสติกก็ปรับพฤติกรรมได้  
นอกจากนั้นผมยังมีอาการวิตกกังวลระดับนึงด้วย แต่ไม่มาก และสามารถบำบัดได้

ดังนั้น ถ้าใครสงสัยว่าตนเองหรือคนรอบข้างเข้าข่ายเด็กพิเศษก็ควรไปตรวจครับ
เพราะสำหรับผมเป็นต้น  การที่ได้รู้ว่าผมมีอาการอะไร มีข้อเด่น ข้อด้อยอะไร
มันทำให้ผมเข้าใจตัวเองมากขึ้น  คนรอบข้างก็เข้าใจผมมากขึ้น
ชีวิตผมดีขึ้นไปอีก
ยิ่งตรวจ ยิ่งได้รับการวินิจฉัยแต่เนิ่น ๆ ยิ่งดีครับ  เพราะเด็กพิเศษ มีความเสี่ยงสูงที่ชีวิตจะเจออะไร ๆ ที่ไม่ดี
ไม่ว่าจะเป็นยาเสพติด ถูกกระทำในด้านต่าง ๆ ถูกหลอก อะไร ๆ


สวัสดีครับ
Andreas
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่