เมื่อปีที่แล้วผมเริ่มวิ่งไปประมาณ 3-4 เดือน ช่วงแรกๆวิ่ง 3-4 กม หลังๆ 5-6 กม เริ่มวิ่งไว ใส่รองเท้าอายุ 3 ปี พอประมาณเดือน กันยา-ตุลา 60 เกิดอาการปวดเข่าด้านข้างขณะวิ่งเลยหยุด หลังจากนั้นเดินลงบันไดจะเจ็บจี๊ดๆ ตรงเข่าตลอด ช่วงเดือน ตุลา-พฤศจิกา 60 ผมเลยไปหาหมอ หมอก็ตรวจแล้วบอกว่าพื้นรองเท้าอาจนุ่มไป เลยลองให้ถอดที่รองรองเท้าแล้ววิ่ง แล้วให้ยาแก้ปวด + สเปรย์พ่นมา ให้ทำกายภาพโดยการเขย่งเท้านับ 10 วันละ 100 ครั้ง(ผมก็ทำบ้างไม่ทำบ้าง) หมอนัดอาทิตย์เว้นอาทิตย์ เวลาเดินผมไม่ค่อยมีอาการใดๆ และช่วงที่หมอนัดผมไม่ได้ไปวิ่งเลยเพราะอยากหยุดนานๆ ให้หาย พอหมอนัดซัก 2-3 ครั้ง ก็ถามว่าวิ่งปวดมั้ย อาทิตย์แรกๆ ผมไปวิ่งก็ยังปวด หลังจากนั้นที่หมอนัดผมเลยหยุดไม่วิ่งเลย และเริ่มกังวลค่าใช้จ่าย(เข้า รพ เอกชน) ก็เลยหยุดวิ่งแล้วไม่ไปหาหมออีก เลยหยุดยาวมา 1 ปีจนถึงวันนี้ ช่วงที่หยุดไม่ได้วิ่งแต่ก็มีอาการบ้างตอนใช้งานหนักๆ เช่นเดินนานๆ ไกลๆ (ช่วงสงกรานต์) พอเมื่อวานผมซื้อรองเท้าใหม่ว่าจะกลับมาวิ่ง ช่วงแรกเดินวอร์มก่อนแล้วค่อยวิ่งเบาๆไป 1.8 กม(เริ่มปวดเข่าบริเวณด้านหน้าแอบๆ ไปทางด้านข้าง) เลยหยุดเดินรวมกับวิ่งประมาณ 5 กม มาวันนี้ เวลาเดิน รู้สึกขัดเข่า(เข่าขวาขัดหนักกว่าซ้าย) เดินลงบันไดก็ปวดๆ ผมควรงดวิ่งใช่มั้ยครับ(แอบเสียดายรองเท้าใหม่ซื้อมาราคาก็เอาเรื่องอยู่ T_T) ปกติผมวอร์มก่อนวิ่งทำท่าต่างๆ ประมาณ 10 วิ ข้างละ 2-3 ครั้งถือว่าน้อยไปมั้ยครับ
พักวิ่งไป 1 ปีกลับมาวิ่งแล้วปวดเข่า