สอบถามความคิดเห็นว่า ปัจจุบันมีการซื้อของอุปโภค บริโภคอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับเราซื้อของออนไลน์ร้อยละ 90 เพราะไม่อยากออกไปนอกบ้าน นอกจากจำเป็นจริงๆ ปัจจุบันนี้จึงเห็นบรรดาร้านค้าหันมาจับกิจการ delivery มากขึ้น ขนาดนวด ยังมีบริการนวดตามบ้าน ล้างรถ
ตลาด e commerce ไทยปีนี้บูมมากกว่าปีที่ผ่านมา ขนาดรวบรวมข้อมูลถึงแค่เดือนกรกฏาคม ยังมากกว่าปีที่ผ่านมาทั้งปี
---------------------------------------------
คาดการณ์ ตลาดอีคอมเมิร์ซ ปีนี้มีมูลค่า 3,058,987.04 ล้านบาท เติบโต 8% จากปีที่ผ่านมา ตามรายงานของ ETDA
การเติบโตของมูลค่าอีคอมเมิร์ซไทย นอกจากกลุ่ม B2B จะมีการเติบโตอย่างน่าสนใจแล้ว ในกลุ่ม B2C ก็มีการเติบโตน่าสนใจไม่น้อยหน้ากัน จากการเข้ามาแข่งขันของ eMarketplace, การปรับตัวของห้างค้าปลีก และแบรนด์ สู่ออนไลน์ในรูปแบบ e-Tailers/Brand.com ที่เข้ามาแข่งขันเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคให้มาช็อปออนไลน์มากขึ้น


เพราะเจ้าของธุรกิจทุกประเทศทั่วโลก เชื่อว่าการซื้อจำนวนน้อยๆ ปริมาณมากๆ ทำให้เกิดการแข่งขันได้
มูลค่า อีคอมเมิร์ซในกลุ่ม B2B
2558 1,334,809.46 ล้านบาท
2559 1,542,167.50 ล้านบาท
2560 1,675,182.23 ล้านบาท
2561 1.806,936.89 ล้านบาท
ที่มา: ETDA, กรกฎาคม 2561

ในปีที่ผ่านมาธุรกิจอีคอมเมิร์ซในรูปแบบ B2C เติบโต 28.89% ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่เติบโตเฉลี่ย 20%
และมูลค่าอีคอมเมิร์ซในส่วนของ B2C ที่ ETDA เก็บรวบรวมยังไม่รวม มูลค่าที่ได้มาจากการช็อปออนไลน์ในรูปแบบ C2C ผ่านโซเชียลมีเดีย ที่มีสัดส่วนมากถึง 40% ของการช็อปออนไลน์ในกลุ่มคอนซูเมอร์ทั้งหมด
ถ้ามองลึกลงไปการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซ มาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนสู่โลกดิจิทัลมากขึ้น และพวกเขาเริ่มให้ความสำคัญกับการใช้บริการออนไลน์

ในยุคที่คนซื้อของออนไลน์มีจำนวนมาก ท่ามกลางร้านค้าที่ร่วมแข่งขันจำนวนมากเช่นกัน ในมุมผู้บริโภค อะไรคือปัจจัยสำคัญในการช็อปออนไลน์
วันนี้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยไปได้ดีในด้าน B2C และ C2C แต่ก็ยังคงตามหลังจีน ที่มีการพัฒนาไปสู่ การซื้อสินค้าในรูปแบบ O2O Offline to Online ที่น่าสนใจเช่น การเดินชอปปิ้งในห้าง และสแกนจ่ายผ่านมือถือ เพื่อให้สินค้าไปส่งที่บ้าน หรือแม้แต่การพัฒนาโดยใช้หน้าและม่านตาในการยืนยันการซื้อของแทนสมาร์ทโฟน เป็นต้น
https://marketeeronline.co/archives/66618
@@@@ ความเติบโตของธุรกิจออนไลน์ @@@@
ตลาด e commerce ไทยปีนี้บูมมากกว่าปีที่ผ่านมา ขนาดรวบรวมข้อมูลถึงแค่เดือนกรกฏาคม ยังมากกว่าปีที่ผ่านมาทั้งปี
---------------------------------------------
คาดการณ์ ตลาดอีคอมเมิร์ซ ปีนี้มีมูลค่า 3,058,987.04 ล้านบาท เติบโต 8% จากปีที่ผ่านมา ตามรายงานของ ETDA
การเติบโตของมูลค่าอีคอมเมิร์ซไทย นอกจากกลุ่ม B2B จะมีการเติบโตอย่างน่าสนใจแล้ว ในกลุ่ม B2C ก็มีการเติบโตน่าสนใจไม่น้อยหน้ากัน จากการเข้ามาแข่งขันของ eMarketplace, การปรับตัวของห้างค้าปลีก และแบรนด์ สู่ออนไลน์ในรูปแบบ e-Tailers/Brand.com ที่เข้ามาแข่งขันเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคให้มาช็อปออนไลน์มากขึ้น
เพราะเจ้าของธุรกิจทุกประเทศทั่วโลก เชื่อว่าการซื้อจำนวนน้อยๆ ปริมาณมากๆ ทำให้เกิดการแข่งขันได้
มูลค่า อีคอมเมิร์ซในกลุ่ม B2B
2558 1,334,809.46 ล้านบาท
2559 1,542,167.50 ล้านบาท
2560 1,675,182.23 ล้านบาท
2561 1.806,936.89 ล้านบาท
ที่มา: ETDA, กรกฎาคม 2561
ในปีที่ผ่านมาธุรกิจอีคอมเมิร์ซในรูปแบบ B2C เติบโต 28.89% ซึ่งเป็นการเติบโตที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่เติบโตเฉลี่ย 20%
และมูลค่าอีคอมเมิร์ซในส่วนของ B2C ที่ ETDA เก็บรวบรวมยังไม่รวม มูลค่าที่ได้มาจากการช็อปออนไลน์ในรูปแบบ C2C ผ่านโซเชียลมีเดีย ที่มีสัดส่วนมากถึง 40% ของการช็อปออนไลน์ในกลุ่มคอนซูเมอร์ทั้งหมด
ถ้ามองลึกลงไปการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซ มาจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนสู่โลกดิจิทัลมากขึ้น และพวกเขาเริ่มให้ความสำคัญกับการใช้บริการออนไลน์
ในยุคที่คนซื้อของออนไลน์มีจำนวนมาก ท่ามกลางร้านค้าที่ร่วมแข่งขันจำนวนมากเช่นกัน ในมุมผู้บริโภค อะไรคือปัจจัยสำคัญในการช็อปออนไลน์
วันนี้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยไปได้ดีในด้าน B2C และ C2C แต่ก็ยังคงตามหลังจีน ที่มีการพัฒนาไปสู่ การซื้อสินค้าในรูปแบบ O2O Offline to Online ที่น่าสนใจเช่น การเดินชอปปิ้งในห้าง และสแกนจ่ายผ่านมือถือ เพื่อให้สินค้าไปส่งที่บ้าน หรือแม้แต่การพัฒนาโดยใช้หน้าและม่านตาในการยืนยันการซื้อของแทนสมาร์ทโฟน เป็นต้น
https://marketeeronline.co/archives/66618