
เป้าหมายสูงสุดปีนี้คือลังกาน้อย-ลังกาหลวง... เพื่อนสายเที่ยวคนหนึ่งหล่นวาจาตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ต้นปี ถึงขนาดฟิตร่างกายลดน้ำหนักลงกว่า 30 กิโลกรัม เพราะได้ยินกิตติศัพท์ความโหด พอเวลาล่วงเข้าปลายปีที่อุทยานแห่งชาติขุนแจ อำเภอเวียงป่าเป้า เชียงราย แจ้งเปิดการท่องเที่ยวออกมา ก็แน่นอนว่าเป็นไฟต์บังคับต้องจัดไปสิครับ
ปกติ อช.ขุนแจ เปิดเส้นทางท่องเที่ยว ดอยลังกาน้อย ดอยลังกาหลวง ผาโง้ม ช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงกุมภาพันธ์ จะเลือกแบบ สี่วันสามคืน หรือสามวันสองคืน ก็ตามสะดวก เดินเส้นทางเดียวกัน สำหรับผมเลือกสัปดาห์ที่สองของเดือนพฤศจิกายน เป็นกลุ่มที่สองที่เดินในปีนี้
วิธีการจองทริปไม่ยากเลยโทรเข้าอุทยานฯ เบอร์เดียวจบทุกอย่าง ทั้งจองวัน รถรับ-ส่ง ลูกหาบ โอนค่ามัดจำล่วงหน้าสักหน่อย เบ็ดเสร็จใช้เวลาไม่กี่นาที ถ้าไม่ใช่ช่วงหยุดยาวหรือเทศกาล ไม่มีปัญหาในการจองครับ (ค่าใช้จ่ายต่างๆ ผมทิ้งไว้ให้ท้ายรีวิวนะ)

บอกอีกนิดว่าทางอุทยานฯ จัดตั้ง “ชมรมท่องเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์อุทยานแห่งชาติขุนแจ” เพื่อบริหารงานการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ สมาชิกชมรมมีทั้งเจ้าหน้าที่ ชาวบ้าน ชาวเขาจากหมู่บ้านรอบๆ มีการจัดคิว หักรายได้เข้าส่วนกลาง แบ่งปันผลปลายปี ทำกันดีน่าสนับสนุนมาก อยากให้ทุกอุทยานฯ ทำกันแบบนี้เลย
ต่อมาก่อนจะเที่ยวต้องทำความรู้จักกับพื้นที่สักหน่อย ดอยลังกาน้อย ลังกาหลวง ผาโง้ม เป็นยอดเขาบนผืนป่าเชื่อมต่อ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง โดยที่ทริปเดินป่าอยู่ในความดูแลของ อช.ขุนแจ ขอใช้คำว่าดูแลเพราะมันมีเหตุผลครับ
ความจริง อช.ขุนแจ ครอบคลุมพื้นที่เพียงอำเภอเดียวเท่านั้นคือ เวียงป่าเป้า เชียงราย และยอดลังกาน้อยก็ไม่ได้อยู่ในเขตขุนแจ ตามพิกัดอยู่เขต อช.แม่ตะไคร้ ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ แต่นั่นแหละครับ ขุนแจตั้งเป็นอุทยานฯ มาก่อน มีความพร้อมมากกว่า เลยเป็นผู้ดูแลเรื่องการท่องเที่ยว แม้เส้นทางบางส่วนจะไม่ได้อยู่ในขุนแจก็ตาม
เล่าแบบนี้ไม่งงนะ ลองดูแผนที่ประกอบ
เส้นทางสามารถขึ้นจากฝั่งบ้านแม่ตอนหลวง ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ ผ่าน ลังกาน้อย ลังกาหลวง ผาโง้ม แล้วมาลงสถานีทวนสัญญาณดอยสันยาว ซึ่งก็อยู่ ดอยสะเก็ด เช่นกัน หรือจะเลือกขึ้น ผาโง้ม มาทาง ลังกาหลวง ลังกาน้อย ก็ได้ โดยกรุ๊ปเราเลือกเส้นทางแรก

เอาล่ะคงพอรู้เรื่องคร่าวๆ เกี่ยวกับทริปนี้กันแล้ว ลุยโลดครับ
(1)
จุดนัดพบสมาชิกแปดคน ของเราคือสถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่ หรืออาเขตนั่นแหละ แยกเดินทางกันมาจาก กทม. โคราช. ชลบุรี ถึงเวลานัดแปดโมงเช้าก็กระโดดขึ้นกระบะเจ้าหน้าที่ที่มารอรับไปที่ทำการอุทยานฯ เวียงป่าเป้า เชียงราย ใช้เวลาชั่วโมงเศษ
ระหว่างทางแวะตลาดสันทรายซื้อเสบียง เป็นจุดแวะจุดเดียวครับ 7-11 ก็มีเช่นกัน ขาดเหลืออะไรก็ให้พร้อมตั้งแต่ตรงนี้ ยกเว้นข้าวเช้าและเที่ยงที่เราไปกินที่ทำการอุทยานฯ


เก้าโมงสิบห้าถึงที่ทำการฯ สิ่งที่ต้องทำอย่างแรกคือจ่ายเงินค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมทั้งลงทะเบียน กรอกรายละเอียดผู้ร่วมเดินทางทุกคน และอย่างที่บอกสามารถสั่งอาหารตามสั่งกิน รวมทั้งใส่ห่อเป็นข้าวกลางวันได้ด้วย

กรุ๊ปของเราแปดคน คนนำทางหนึ่งกับลูกหาบสองเป็นชาวมูเซอ 10.30 น. พร้อมแล้วขึ้นรถกันครับ นั่งรถย้อนกลับมาทางเชียงใหม่เพื่อไปบ้านแม่ตอนหลวง


ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงจุดเริ่มเดิน ป้ายบอกระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ถึงลังกาน้อย แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าจริงๆ ไกลกว่านั้นอยู่นิดหน่อย

เราสตาร์ตกัน 11.45 น. หลังจากเดินชิลผ่านสวนกาแฟมาไม่กี่ร้อยเมตรก็เริ่มทางชันกันเลย แม้ร่มไม้จะเยอะ แต่ฟ้าใสแบบนี้ก็เล่นเอาเหงื่อหยดติ๋งๆ ไปตามกัน


เดินมาประมาณกิโลเดียวพวกเราก็เจองานเข้า ลูกหาบบอกว่ามีผึ้งหลวงแตกรังอยู่ข้างหน้า คงเป็นส่วนที่เหลืออยู่จากรังที่มีชาวบ้านมาตีเอาไป นั่นทำให้เราไม่สามารถเดินตามเทรลปกติ ต้องหาทางอ้อมลงหุบแล้วค่อยตัดขึ้นมาใหม่
และเรื่องนี้แหละนำมาซึ่งอุบัติเหตุ...

ระหว่างตัดขึ้นเขา สาวหนึ่งเดียวของทริปโชคร้ายโดนก้อนหินหล่นลงมากระแทกเข่าเต็มๆ แผลไม่ใหญ่แต่ลึกได้เลือดจนเดินต่อไม่ไหว หลังจากคุยกันแล้วได้ข้อสรุปว่ายังไงพวกเราที่เหลือก็ต้องไปต่อ ส่วนคนเจ็บจะกลับไปพร้อมกับสมาชิกอีกคนโดยมีลูกหาบช่วยพาไปส่ง
เราเสียเวลาไปกับเรื่องนี้รวมแล้วเกือบสองชั่วโมงแต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในเรื่องการเดิน เพราะอีกแค่สองชั่วโมงต่อมาก็ถึงจุดที่เห็นยอดลังกาน้อยตระหง่านอยู่เบื้องหน้า พอเดินเข้าไปใกล้อีกนิด อีกนิด ใจก็ชักหวั่น เพราะต้องแหงนคอมองกันเลยทีเดียว

คำขู่ที่ว่าลังกาน้อย ลังกาหลวง เป็นทริปโหดติดดาวมารู้สึกเอาตอนนี้แหละครับ ระยะทางสั้นก็จริงแต่ความชันเต็มร้อย แถมหินยังร่วนต้องไต่ช้าๆ ระวังทุกฝีก้าวเชียวล่ะ



แต่ความเหนื่อยมีผลตอบแทน ขึ้นมาถึงยอดเขาแล้วต้องร้องว้าว ทะเลภูเขาสวยมากถ่ายรูปเพลินเลย ประกอบกับเป็นเวลากำลังใกล้เย็น ผมก็เลยเอ้อระเหยรอถ่ายแสงโพล้เพล้ด้วยเลย ทิศตะวันตกที่มองออกไปคือเขตลำปาง ส่วนมองย้อนทางขึ้นมาคือเชียงใหม่ จากข้อมูลของอุทยานฯ ความสูงตรงนี้ 1,747 เมตร

ด้านนี้มองเห็นยอดลังกาหลวงด้วยครับ พ้นด้านหลังลังกาหลวงไปคือฝั่งเชียงราย

บนนี้มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์นาคปรกประดิษฐานอยู่ แปลกดีครับเพิ่งเคยเห็นพระนอนนาคปรกเป็นครั้งแรก รวมถึงมีพระเจดีย์ประดิษฐานอีกองค์หนึ่งด้วย


จุดตั้งแคมป์ของเราอยู่เลยยอดลังกาน้อยไปสัก 200 เมตร เป็นแอ่งพอหลบลมได้ พวกเราก็จัดการกางเต็นท์ตั้งแคมป์ง่ายๆ ตามระเบียบ


สำหรับอาหารการกิน แม่ครัวหัวป่าก์ประจำทริปต้องกลับไปแล้ว หนุ่มๆ ที่เหลือก็แสดงฝีมือตามมีตามเกิดแหละนะ (ฮา...)


ช่วงหัวค่ำเมฆลอยมาปกคลุมท้องฟ้าเยอะอยู่ พอฟ้าเริ่มเคลียร์เลยชวนเพื่อนไปถ่ายภาพดาวบนยอดสักหน่อย แม้ว่าทางช้างเผือกลับขอบฟ้าไปแล้วแต่ก็ได้ดาวสวยพอสมควร
[CR] ลังกาน้อย ลังกาหลวง ผาโง้ม 3 คืน 4 วัน พิชิตขุนเขาสามจังหวัด
เป้าหมายสูงสุดปีนี้คือลังกาน้อย-ลังกาหลวง... เพื่อนสายเที่ยวคนหนึ่งหล่นวาจาตั้งเป้าไว้ตั้งแต่ต้นปี ถึงขนาดฟิตร่างกายลดน้ำหนักลงกว่า 30 กิโลกรัม เพราะได้ยินกิตติศัพท์ความโหด พอเวลาล่วงเข้าปลายปีที่อุทยานแห่งชาติขุนแจ อำเภอเวียงป่าเป้า เชียงราย แจ้งเปิดการท่องเที่ยวออกมา ก็แน่นอนว่าเป็นไฟต์บังคับต้องจัดไปสิครับ
ปกติ อช.ขุนแจ เปิดเส้นทางท่องเที่ยว ดอยลังกาน้อย ดอยลังกาหลวง ผาโง้ม ช่วงเดือนพฤศจิกายน ถึงกุมภาพันธ์ จะเลือกแบบ สี่วันสามคืน หรือสามวันสองคืน ก็ตามสะดวก เดินเส้นทางเดียวกัน สำหรับผมเลือกสัปดาห์ที่สองของเดือนพฤศจิกายน เป็นกลุ่มที่สองที่เดินในปีนี้
วิธีการจองทริปไม่ยากเลยโทรเข้าอุทยานฯ เบอร์เดียวจบทุกอย่าง ทั้งจองวัน รถรับ-ส่ง ลูกหาบ โอนค่ามัดจำล่วงหน้าสักหน่อย เบ็ดเสร็จใช้เวลาไม่กี่นาที ถ้าไม่ใช่ช่วงหยุดยาวหรือเทศกาล ไม่มีปัญหาในการจองครับ (ค่าใช้จ่ายต่างๆ ผมทิ้งไว้ให้ท้ายรีวิวนะ)
บอกอีกนิดว่าทางอุทยานฯ จัดตั้ง “ชมรมท่องเที่ยวเพื่อการอนุรักษ์อุทยานแห่งชาติขุนแจ” เพื่อบริหารงานการท่องเที่ยวโดยเฉพาะ สมาชิกชมรมมีทั้งเจ้าหน้าที่ ชาวบ้าน ชาวเขาจากหมู่บ้านรอบๆ มีการจัดคิว หักรายได้เข้าส่วนกลาง แบ่งปันผลปลายปี ทำกันดีน่าสนับสนุนมาก อยากให้ทุกอุทยานฯ ทำกันแบบนี้เลย
ต่อมาก่อนจะเที่ยวต้องทำความรู้จักกับพื้นที่สักหน่อย ดอยลังกาน้อย ลังกาหลวง ผาโง้ม เป็นยอดเขาบนผืนป่าเชื่อมต่อ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง โดยที่ทริปเดินป่าอยู่ในความดูแลของ อช.ขุนแจ ขอใช้คำว่าดูแลเพราะมันมีเหตุผลครับ
ความจริง อช.ขุนแจ ครอบคลุมพื้นที่เพียงอำเภอเดียวเท่านั้นคือ เวียงป่าเป้า เชียงราย และยอดลังกาน้อยก็ไม่ได้อยู่ในเขตขุนแจ ตามพิกัดอยู่เขต อช.แม่ตะไคร้ ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ แต่นั่นแหละครับ ขุนแจตั้งเป็นอุทยานฯ มาก่อน มีความพร้อมมากกว่า เลยเป็นผู้ดูแลเรื่องการท่องเที่ยว แม้เส้นทางบางส่วนจะไม่ได้อยู่ในขุนแจก็ตาม
เล่าแบบนี้ไม่งงนะ ลองดูแผนที่ประกอบ
เส้นทางสามารถขึ้นจากฝั่งบ้านแม่ตอนหลวง ดอยสะเก็ด เชียงใหม่ ผ่าน ลังกาน้อย ลังกาหลวง ผาโง้ม แล้วมาลงสถานีทวนสัญญาณดอยสันยาว ซึ่งก็อยู่ ดอยสะเก็ด เช่นกัน หรือจะเลือกขึ้น ผาโง้ม มาทาง ลังกาหลวง ลังกาน้อย ก็ได้ โดยกรุ๊ปเราเลือกเส้นทางแรก
เอาล่ะคงพอรู้เรื่องคร่าวๆ เกี่ยวกับทริปนี้กันแล้ว ลุยโลดครับ
จุดนัดพบสมาชิกแปดคน ของเราคือสถานีขนส่งผู้โดยสารเชียงใหม่ หรืออาเขตนั่นแหละ แยกเดินทางกันมาจาก กทม. โคราช. ชลบุรี ถึงเวลานัดแปดโมงเช้าก็กระโดดขึ้นกระบะเจ้าหน้าที่ที่มารอรับไปที่ทำการอุทยานฯ เวียงป่าเป้า เชียงราย ใช้เวลาชั่วโมงเศษ
ระหว่างทางแวะตลาดสันทรายซื้อเสบียง เป็นจุดแวะจุดเดียวครับ 7-11 ก็มีเช่นกัน ขาดเหลืออะไรก็ให้พร้อมตั้งแต่ตรงนี้ ยกเว้นข้าวเช้าและเที่ยงที่เราไปกินที่ทำการอุทยานฯ
เก้าโมงสิบห้าถึงที่ทำการฯ สิ่งที่ต้องทำอย่างแรกคือจ่ายเงินค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายต่างๆ รวมทั้งลงทะเบียน กรอกรายละเอียดผู้ร่วมเดินทางทุกคน และอย่างที่บอกสามารถสั่งอาหารตามสั่งกิน รวมทั้งใส่ห่อเป็นข้าวกลางวันได้ด้วย
กรุ๊ปของเราแปดคน คนนำทางหนึ่งกับลูกหาบสองเป็นชาวมูเซอ 10.30 น. พร้อมแล้วขึ้นรถกันครับ นั่งรถย้อนกลับมาทางเชียงใหม่เพื่อไปบ้านแม่ตอนหลวง
ใช้เวลาประมาณชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงจุดเริ่มเดิน ป้ายบอกระยะทาง 3.5 กิโลเมตร ถึงลังกาน้อย แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าจริงๆ ไกลกว่านั้นอยู่นิดหน่อย
เราสตาร์ตกัน 11.45 น. หลังจากเดินชิลผ่านสวนกาแฟมาไม่กี่ร้อยเมตรก็เริ่มทางชันกันเลย แม้ร่มไม้จะเยอะ แต่ฟ้าใสแบบนี้ก็เล่นเอาเหงื่อหยดติ๋งๆ ไปตามกัน
เดินมาประมาณกิโลเดียวพวกเราก็เจองานเข้า ลูกหาบบอกว่ามีผึ้งหลวงแตกรังอยู่ข้างหน้า คงเป็นส่วนที่เหลืออยู่จากรังที่มีชาวบ้านมาตีเอาไป นั่นทำให้เราไม่สามารถเดินตามเทรลปกติ ต้องหาทางอ้อมลงหุบแล้วค่อยตัดขึ้นมาใหม่
และเรื่องนี้แหละนำมาซึ่งอุบัติเหตุ...
ระหว่างตัดขึ้นเขา สาวหนึ่งเดียวของทริปโชคร้ายโดนก้อนหินหล่นลงมากระแทกเข่าเต็มๆ แผลไม่ใหญ่แต่ลึกได้เลือดจนเดินต่อไม่ไหว หลังจากคุยกันแล้วได้ข้อสรุปว่ายังไงพวกเราที่เหลือก็ต้องไปต่อ ส่วนคนเจ็บจะกลับไปพร้อมกับสมาชิกอีกคนโดยมีลูกหาบช่วยพาไปส่ง
เราเสียเวลาไปกับเรื่องนี้รวมแล้วเกือบสองชั่วโมงแต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในเรื่องการเดิน เพราะอีกแค่สองชั่วโมงต่อมาก็ถึงจุดที่เห็นยอดลังกาน้อยตระหง่านอยู่เบื้องหน้า พอเดินเข้าไปใกล้อีกนิด อีกนิด ใจก็ชักหวั่น เพราะต้องแหงนคอมองกันเลยทีเดียว
คำขู่ที่ว่าลังกาน้อย ลังกาหลวง เป็นทริปโหดติดดาวมารู้สึกเอาตอนนี้แหละครับ ระยะทางสั้นก็จริงแต่ความชันเต็มร้อย แถมหินยังร่วนต้องไต่ช้าๆ ระวังทุกฝีก้าวเชียวล่ะ
แต่ความเหนื่อยมีผลตอบแทน ขึ้นมาถึงยอดเขาแล้วต้องร้องว้าว ทะเลภูเขาสวยมากถ่ายรูปเพลินเลย ประกอบกับเป็นเวลากำลังใกล้เย็น ผมก็เลยเอ้อระเหยรอถ่ายแสงโพล้เพล้ด้วยเลย ทิศตะวันตกที่มองออกไปคือเขตลำปาง ส่วนมองย้อนทางขึ้นมาคือเชียงใหม่ จากข้อมูลของอุทยานฯ ความสูงตรงนี้ 1,747 เมตร
ด้านนี้มองเห็นยอดลังกาหลวงด้วยครับ พ้นด้านหลังลังกาหลวงไปคือฝั่งเชียงราย
บนนี้มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์นาคปรกประดิษฐานอยู่ แปลกดีครับเพิ่งเคยเห็นพระนอนนาคปรกเป็นครั้งแรก รวมถึงมีพระเจดีย์ประดิษฐานอีกองค์หนึ่งด้วย
จุดตั้งแคมป์ของเราอยู่เลยยอดลังกาน้อยไปสัก 200 เมตร เป็นแอ่งพอหลบลมได้ พวกเราก็จัดการกางเต็นท์ตั้งแคมป์ง่ายๆ ตามระเบียบ
สำหรับอาหารการกิน แม่ครัวหัวป่าก์ประจำทริปต้องกลับไปแล้ว หนุ่มๆ ที่เหลือก็แสดงฝีมือตามมีตามเกิดแหละนะ (ฮา...)
ช่วงหัวค่ำเมฆลอยมาปกคลุมท้องฟ้าเยอะอยู่ พอฟ้าเริ่มเคลียร์เลยชวนเพื่อนไปถ่ายภาพดาวบนยอดสักหน่อย แม้ว่าทางช้างเผือกลับขอบฟ้าไปแล้วแต่ก็ได้ดาวสวยพอสมควร
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้