ในห้องเรียนเจื้อยแจ้วยามว่างวันนี้ ฉันได้เขียนไดอารี่ลงสมุดสีฟ้าเล่มเล็กเล่มหนา มันคือสิ่งที่ฉันชอบมากที่สุดแล้ว เวลาว่าง ก็มักจะเขียนเกือบตลอด นอกจากที่ฉันเขียนไดอารี่ ก็ยังมีนักเรียนคนอื่นๆ จำนวนไม่น้อยทำกิจวัตรปกติ เช่น คุยกันอย่างสุกสนาน บางคนก็เล่นกัน ตามประสานักเรียนธรรมดานั่นแหละ เพราะตอนนี้คือคาบว่าง ที่อาจารย์คาบนี้ไม่มาเข้าสอน คงจะติดธุระละมั้ง เห็นเขาบอกมาเมื่อชั่วโมงก่อนหน้านี้
และขณะที่กำลังเขียนไดอารี่อยู่ เพื่อนผู้หญิงชื่อว่าเฟรมเพื่อน “สนิท” ของฉันเดินเข้ามานั่งคุยกับฉันหน้าโต๊ะที่ฉันนั่งอยู่ เธอไสเก้าอี้ออกจากโต๊ะ มานั่งเรียกทัก ส่วนฉันเองก็เงยหน้าขึ้นโดยไม่คิดอะไร
“จีนๆ กำลังทำอะไรอยู่เหรอ?” เฟรมถามฉันไม่ลังเลก่อนฉันจะตอบเธอไปตามประสาวัยรุ่น
“อ๋อ กำลังเขียนไดอารี่อยู่น่ะ”
“เขียนไดอารี่อยู่ งั้นแกชอบเขียนไดอารี่ใช่ไหม?” เฟรมเอ่ยพูดถามคำถามวางไว้ใส่หน้า ทั้งสีหน้าเธอมีสีหน้ายิ้มแย้มไม่มีพิษไม่มีภัย
ฉันนั่งยิ้มตอบกลับไม่ได้วางปากกาลูกลื่นน้ำเงินสักนิด ใบหน้าเฟรมจดจ่อกับที่ รอฟังคำตอบที่จะตอบมาจากฉัน “ก็ชอบมากเลยแหละ ตอนเวลาว่างๆ ฉันก็เขียน แล้วเวลาเขียน มันเหมือนแบบระบายความในใจนั่นแหละ สบายใจขึ้นเยอะเลย”
“อ่อ...ก็ดีเหมือนกันนะเวลาเขียนไดอารี่ แกคงมีความลับที่เขียนไว้อยู่แน่ๆ ใช่ไหมล่ะ” เฟรมขำออกนอกหน้าอ่อนใส่ฉัน พลอยทำฉันแอบอมยิ้มไปบ้างเล็กน้อย
“นี่...ความลับมันก็มีอยู่บ้างนะ แต่ความลับในนี้ มันไม่ใช่เรื่องอะไรน่าอายมากนักหรอก....”
“จีน แกนี่อารมณ์ดีเนาะ...อย่าบอกนะว่าแกลืมกินยาเขย่าขวดมาน่ะ” ตอนนี้เธอขำอีกแล้ว สีหน้าใสซื่อมันไม่บ่งบอกอะไรมากมาย
ฉันเลยพูดไปว่า “บ้าน่า เรากินยาเขย่าขวดทุกวันนะ”
เธอหัวเราะอีกรอบ ไม่นึกว่ามุกแป๊กของฉันมันจะทำให้เฟรมขำได้เฉกเช่นคนแทบขาดใจตาย
แต่...เพียงเสี้ยววินาทีต่อจากนั้น เฟรมพูดกับฉันอีกว่า “จ...จีน เรายืมไดอารี่ไปอ่านสักแป๊บเดียวได้ไหม?”
ฉันวางปากกาลูกลื่นน้ำเงินลง แล้วบิดตัวซ้ายขวาเอามือหงายผสานชูข้างบนบิดขี้เกียจ
“เออ...ได้สิ ฉันกำลังขี้เกียจเขียนพอดี เวลานี้ก็ปวดฉี่ด้วย หมดคาบนี้คืนได้ไหมละ”
เฟรมพยักหน้า 2 ครั้ง เธอรีบกลับหัวสมุดไดอารี่ทันที... ทันทีที่ยืนขึ้น ฉันเริ่มเดินออกห่างตัวโต๊ะตัวเองไม่กี่ก้าว ทันใดนั้น ฉันเผลอไปมองทางหน้ากระดาน พบเห็นกลุ่มนักเรียน 1 กลุ่ม ทำท่าคล้ายให้สัญญาณอะไรสักอย่าง ดูแล้วก็ธรรมดาไม่แปลกใจนิดเดียว...
เมื่อฉันเข้าห้องเรียน ดวงตาฉันเจอเธอนั่งอยู่กับโต๊ะตัวเองก้มหน้ากับการเขียนสมุด หันหน้ากลับมาพบสมุดไดอารี่ของตัวเองวางไว้โต๊ะประจำที่นั่ง ฉันก็ไม่คิดอะไรเช่นเดิม เพราะคิดว่าคงไม่อยากอ่านแล้วก็ได้ คิดว่าอย่างนั้นนะ...
“2 วันต่อมา เหตุการณ์ก็เริ่มได้เกิดขึ้นกับตัวจีนเอง วันนั้นพลบค่ำ จีนใส่ชุดนอนกำลังยืนจับผ้าขนหนูสีขาวเช็ดผมสีดำเปียกปอนอยู่ กับข้อความแชตกลุ่มที่เด้งมาเป็นระยะๆ”
จีน : เฮ้ย แชตเด้งอะไรนักหนาเนี่ย...รำคาญ....
เธอเดินไปตรงเตียงนอนนั่งข้างหมอนหนุนลายการ์ตูน เอื้ยมมือหยิบสมาร์ทโฟนวางบนหัวนอนของเตียง เธอคงจะโมโหมาก เนื่องจากข้อความแชตก่อเกิดแจ้งเตือนตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว หยิบสมาร์ทโฟนปิดการแจ้งเตือนแอพซะเลย
จีน : คุยกันเรื่องอะไรกันนะ...ปิดการแจ้งก่อน
แต่ว่า..........
จีน : ก...นี่มันเกิดอะไรขึ้น นินทาเรื่องเราอยู่เหรอ?
จีนเห็นข้อความเเชตแจ้งเตือนหน้าจอสมาร์ทโฟน เธอไม่ค่อยแน่ใจมากนักและอยากรู้ความจริงจากต้นเหตุให้ได้
กลางคืนที่ล่องลอย : ตอนที่ 1 : การเดินทาง
>>>
https://pantip.com/topic/38237593
กลางคืนที่ล่องลอย : ตอนที่ 2 บันไดเศษสีเหลือง
>>>
https://pantip.com/topic/38249372
กลางคืนที่ลองลอย : ตอนที่ 3 134
>>>
https://pantip.com/topic/38277507
กลางคืนที่ล่องลอย : ตอนที่ 4 เขียน (Part 1)
และขณะที่กำลังเขียนไดอารี่อยู่ เพื่อนผู้หญิงชื่อว่าเฟรมเพื่อน “สนิท” ของฉันเดินเข้ามานั่งคุยกับฉันหน้าโต๊ะที่ฉันนั่งอยู่ เธอไสเก้าอี้ออกจากโต๊ะ มานั่งเรียกทัก ส่วนฉันเองก็เงยหน้าขึ้นโดยไม่คิดอะไร
“จีนๆ กำลังทำอะไรอยู่เหรอ?” เฟรมถามฉันไม่ลังเลก่อนฉันจะตอบเธอไปตามประสาวัยรุ่น
“อ๋อ กำลังเขียนไดอารี่อยู่น่ะ”
“เขียนไดอารี่อยู่ งั้นแกชอบเขียนไดอารี่ใช่ไหม?” เฟรมเอ่ยพูดถามคำถามวางไว้ใส่หน้า ทั้งสีหน้าเธอมีสีหน้ายิ้มแย้มไม่มีพิษไม่มีภัย
ฉันนั่งยิ้มตอบกลับไม่ได้วางปากกาลูกลื่นน้ำเงินสักนิด ใบหน้าเฟรมจดจ่อกับที่ รอฟังคำตอบที่จะตอบมาจากฉัน “ก็ชอบมากเลยแหละ ตอนเวลาว่างๆ ฉันก็เขียน แล้วเวลาเขียน มันเหมือนแบบระบายความในใจนั่นแหละ สบายใจขึ้นเยอะเลย”
“อ่อ...ก็ดีเหมือนกันนะเวลาเขียนไดอารี่ แกคงมีความลับที่เขียนไว้อยู่แน่ๆ ใช่ไหมล่ะ” เฟรมขำออกนอกหน้าอ่อนใส่ฉัน พลอยทำฉันแอบอมยิ้มไปบ้างเล็กน้อย
“นี่...ความลับมันก็มีอยู่บ้างนะ แต่ความลับในนี้ มันไม่ใช่เรื่องอะไรน่าอายมากนักหรอก....”
“จีน แกนี่อารมณ์ดีเนาะ...อย่าบอกนะว่าแกลืมกินยาเขย่าขวดมาน่ะ” ตอนนี้เธอขำอีกแล้ว สีหน้าใสซื่อมันไม่บ่งบอกอะไรมากมาย
ฉันเลยพูดไปว่า “บ้าน่า เรากินยาเขย่าขวดทุกวันนะ”
เธอหัวเราะอีกรอบ ไม่นึกว่ามุกแป๊กของฉันมันจะทำให้เฟรมขำได้เฉกเช่นคนแทบขาดใจตาย
แต่...เพียงเสี้ยววินาทีต่อจากนั้น เฟรมพูดกับฉันอีกว่า “จ...จีน เรายืมไดอารี่ไปอ่านสักแป๊บเดียวได้ไหม?”
ฉันวางปากกาลูกลื่นน้ำเงินลง แล้วบิดตัวซ้ายขวาเอามือหงายผสานชูข้างบนบิดขี้เกียจ
“เออ...ได้สิ ฉันกำลังขี้เกียจเขียนพอดี เวลานี้ก็ปวดฉี่ด้วย หมดคาบนี้คืนได้ไหมละ”
เฟรมพยักหน้า 2 ครั้ง เธอรีบกลับหัวสมุดไดอารี่ทันที... ทันทีที่ยืนขึ้น ฉันเริ่มเดินออกห่างตัวโต๊ะตัวเองไม่กี่ก้าว ทันใดนั้น ฉันเผลอไปมองทางหน้ากระดาน พบเห็นกลุ่มนักเรียน 1 กลุ่ม ทำท่าคล้ายให้สัญญาณอะไรสักอย่าง ดูแล้วก็ธรรมดาไม่แปลกใจนิดเดียว...
เมื่อฉันเข้าห้องเรียน ดวงตาฉันเจอเธอนั่งอยู่กับโต๊ะตัวเองก้มหน้ากับการเขียนสมุด หันหน้ากลับมาพบสมุดไดอารี่ของตัวเองวางไว้โต๊ะประจำที่นั่ง ฉันก็ไม่คิดอะไรเช่นเดิม เพราะคิดว่าคงไม่อยากอ่านแล้วก็ได้ คิดว่าอย่างนั้นนะ...
“2 วันต่อมา เหตุการณ์ก็เริ่มได้เกิดขึ้นกับตัวจีนเอง วันนั้นพลบค่ำ จีนใส่ชุดนอนกำลังยืนจับผ้าขนหนูสีขาวเช็ดผมสีดำเปียกปอนอยู่ กับข้อความแชตกลุ่มที่เด้งมาเป็นระยะๆ”
จีน : เฮ้ย แชตเด้งอะไรนักหนาเนี่ย...รำคาญ....
เธอเดินไปตรงเตียงนอนนั่งข้างหมอนหนุนลายการ์ตูน เอื้ยมมือหยิบสมาร์ทโฟนวางบนหัวนอนของเตียง เธอคงจะโมโหมาก เนื่องจากข้อความแชตก่อเกิดแจ้งเตือนตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว หยิบสมาร์ทโฟนปิดการแจ้งเตือนแอพซะเลย
จีน : คุยกันเรื่องอะไรกันนะ...ปิดการแจ้งก่อน
แต่ว่า..........
จีน : ก...นี่มันเกิดอะไรขึ้น นินทาเรื่องเราอยู่เหรอ?
จีนเห็นข้อความเเชตแจ้งเตือนหน้าจอสมาร์ทโฟน เธอไม่ค่อยแน่ใจมากนักและอยากรู้ความจริงจากต้นเหตุให้ได้
กลางคืนที่ล่องลอย : ตอนที่ 1 : การเดินทาง
>>> https://pantip.com/topic/38237593
กลางคืนที่ล่องลอย : ตอนที่ 2 บันไดเศษสีเหลือง
>>> https://pantip.com/topic/38249372
กลางคืนที่ลองลอย : ตอนที่ 3 134
>>> https://pantip.com/topic/38277507