Hitler's Circle of Evil เป็นสารคดีว่าด้วยการก่อตัวจนถึงวาระสุดท้ายของฮิตเล่อร์และสมุน จากNetflix
เป็นคนสนใจประวัติศาสตร์สงครามโลกอยู่บ้างจึงค่อนข้างชอบสารคดีเรื่องนี้เป็นพิเศษ
ส่วนใครที่ไม่ได้สนใจสารคดีประวัติศาสตร์แต่ชื่นชอบการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์
สารคดีเรื่องนี้ให้ความรู้สึกกำลังดู “หนังสงคราม” + “หนังการต่อสู้แก่งแย่งชิงดีทางการเมือง”
มันจึงเป็นสารคดีที่ได้เห็นชั้นเชิงทางประวัติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และยุทธวิธี
ที่สำคัญกว่านั้น วิธีการเล่าเรื่อง การใช้ภาพประกอบ
ทำให้สารคดีเรื่องนี้น่าติดตามและไม่น่าเบื่อเลย
เพราะเวลาพูดว่า “สารคดี” คนจะคิดว่าน่าเบื่อ...แต่สำหรับเรื่องนี้...ไม่
ความน่าสนใจของสารคดีชิ้นนี้สำหรับเราก็คือ
1.วิธีการเล่าเรื่อง เป็นการเล่าเรื่องด้วยเสียงบรรยาย+คำสัมภาษณ์แบบงานวิชาการ
แต่การใช้เสียงดนตรีประกอบและการวางเนื้อเรื่องนั้นใช้รูปแบบภาพยนตร์ค่อนข้างมาก
2.ภาพจำลองเหตุการณ์ถ่ายค่อนข้างดี ราวกับกำลังชมภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริง
แค่ 2 ข้อนี้สำหรับเราเพียงพอแล้วที่จะให้สมาชิกเน็ตฟริกซ์ คลิกเข้าไปดูกัน
แล้วที่ประทับใจเรามาก ๆ ก็คือ การได้เห็น “มิติเล็ก ๆ ที่น่าสนใจของกลุ่มอำนาจนี้”
หลายท่านทราบดีว่า ฮิตเล่อร์ นาซีและสมาชิกพรรคระดับแกนนำ
ได้สร้างประวัติศาสตร์ความรุนแรงที่ไม่มีวันลืม
และสิ่งที่พวกเขาทำจะต้องถูกจารึกไว้เป็นบทเรียนแห่งโลกใบนี้
แต่ความน่าสนใจคือ (ถ้าตัด “เกอริ่ง” ออกไป) เราจะได้เห็นว่า
จากกลุ่มบุคคล “ชนชั้นกลาง” ธรรมดา ฐานะครอบครัวปานกลาง
กลายเป็นกลุ่มอำนาจพรรคการเมืองที่สามารถสร้าง “สงครามโลกได้อย่างไร”
มากไปกว่านั้นอะไรคือ โคตรความสามารถของแกนนำนาซี
ที่ทำให้พลเมืองและกลุ่มทหารชนชั้นนำเชื่อฟัง ยอมรับและเกรงกลัวต่อพลังของ “กลุ่มซาตาน” เหล่านี้
กลุ่มซาตานที่ในอดีตคือกลุ่มคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ตกงาน มองหางานทำ
แล้วจากนั้น 10-15 ก็เป็นกลุ่มคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองสมัยใหม่
ที่สร้างและขยายอาณาเขตไปเกือบทั่วภาคพื้นยุโรป
แม้เราจะรู้ดีว่ามันเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่ง
สารคดีชิ้นนี้จะพาเราไปสำรวจว่า จากเด็กหนุ่มเด็กเรียน เข้าสังคมไม่เป็น มีปมอยากไปรบแต่สงครามจบลงเสียก่อน
แต่กลับกลายเป็นหัวหน้ากลุ่มเอสเอสและผู้ใช้นโยบาย “กำจัดชาวยิวและสลาฟ” กว่า 6 ล้านคน
ผู้ใช้แนวคิดโรงงานฆ่าไก่เป็น “โรงงานสังหารมนุษย์” นามว่า “ฮิมเล่อร์”

สารคดีชิ้นนี้จะพาไปสำรวจจากลูกชาวนา นักเขียนและนักข่าวที่อนาคตทางอาชีพตกต่ำถึงขีดสุด
จะกลับกลายเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโฆษณาแถลงข่าวและโฆษณาชวนเชื่อ
ผู้สร้างและครอบงำความคิดของพลเมืองเยอรมันให้รวมศูนย์เบ็ดเสร็จไปที่ “ฟีรเลอร์”
นามว่า "เพาล์ โยเซ็ฟ เกิบเบิลส์"
และที่สำคัญที่สุดในมิติทางรัฐศาสตร์แล้ว
พรรคการเมืองเล็ก ๆ ตั้งขึ้นในโรงเบียร์
ที่ครั้งหนึ่งเคยทำรัฐประหารแล้วไม่สำเร็จ แกนนำถูกจับ บ้างต้องหลบหนี
กลับกลายเป็นพรรคการเมืองที่มีอำนาจในการจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างไร
และแน่นอนสำหรับท่านใดที่คิดว่า “ฮิตเล่อร์มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย”
สารคดีชิ้นนี้จะตบหน้าท่านอย่างแรง
แล้วกระซิบท่านเบา ๆ ว่า
“วิกฤตทางการเมืองคือ บันไดของผู้นำที่ต้องการอำนาจเบ็ดเสร็จ”
"ในประวัติศาสตร์ไม่มีคำว่า ถ้าทุกอย่างราวกับมันเขียนบทเอาไว้แล้ว"
“ไม่มีวิกฤติทางการเมืองใดในเยอรมันในช่วงจักรวรรดิ์ไรซ์ที่ 3 ที่มันเกิดขึ้นโดยบังเอิญทั้งหมดล้วนเป็นแผนการที่เตรียมไว้”
สารคดีชิ้นนี้จะให้ทั้งความรู้ ความสนุก ข้อมูลประวัติศาสตร์
และอาจทำให้เราเข้าใจ "การขึ้นสู่อำนาจ" ของผู้นำเผด็จการมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นสารคดีนี้อาจทำให้เราได้เห็นวิธีการคิดของคนที่ต้องการอำนาจทางการเมือง
เพื่อสนองเจตนารมณ์อันยิ่งใหญ่ของตัวเอง
และนั่นก็แลกมาด้วย โศกนาฎกรรม
[CR] วังวนของนาซีและฮิตเล่อร์...จากกลุ่มคนตกงานสู่กลุ่มซาตานที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ
เป็นคนสนใจประวัติศาสตร์สงครามโลกอยู่บ้างจึงค่อนข้างชอบสารคดีเรื่องนี้เป็นพิเศษ
ส่วนใครที่ไม่ได้สนใจสารคดีประวัติศาสตร์แต่ชื่นชอบการเล่าเรื่องแบบภาพยนตร์
สารคดีเรื่องนี้ให้ความรู้สึกกำลังดู “หนังสงคราม” + “หนังการต่อสู้แก่งแย่งชิงดีทางการเมือง”
มันจึงเป็นสารคดีที่ได้เห็นชั้นเชิงทางประวัติศาสตร์ รัฐศาสตร์ และยุทธวิธี
ที่สำคัญกว่านั้น วิธีการเล่าเรื่อง การใช้ภาพประกอบ
ทำให้สารคดีเรื่องนี้น่าติดตามและไม่น่าเบื่อเลย
เพราะเวลาพูดว่า “สารคดี” คนจะคิดว่าน่าเบื่อ...แต่สำหรับเรื่องนี้...ไม่
ความน่าสนใจของสารคดีชิ้นนี้สำหรับเราก็คือ
1.วิธีการเล่าเรื่อง เป็นการเล่าเรื่องด้วยเสียงบรรยาย+คำสัมภาษณ์แบบงานวิชาการ
แต่การใช้เสียงดนตรีประกอบและการวางเนื้อเรื่องนั้นใช้รูปแบบภาพยนตร์ค่อนข้างมาก
2.ภาพจำลองเหตุการณ์ถ่ายค่อนข้างดี ราวกับกำลังชมภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริง
แค่ 2 ข้อนี้สำหรับเราเพียงพอแล้วที่จะให้สมาชิกเน็ตฟริกซ์ คลิกเข้าไปดูกัน
แล้วที่ประทับใจเรามาก ๆ ก็คือ การได้เห็น “มิติเล็ก ๆ ที่น่าสนใจของกลุ่มอำนาจนี้”
หลายท่านทราบดีว่า ฮิตเล่อร์ นาซีและสมาชิกพรรคระดับแกนนำ
ได้สร้างประวัติศาสตร์ความรุนแรงที่ไม่มีวันลืม
และสิ่งที่พวกเขาทำจะต้องถูกจารึกไว้เป็นบทเรียนแห่งโลกใบนี้
แต่ความน่าสนใจคือ (ถ้าตัด “เกอริ่ง” ออกไป) เราจะได้เห็นว่า
จากกลุ่มบุคคล “ชนชั้นกลาง” ธรรมดา ฐานะครอบครัวปานกลาง
กลายเป็นกลุ่มอำนาจพรรคการเมืองที่สามารถสร้าง “สงครามโลกได้อย่างไร”
มากไปกว่านั้นอะไรคือ โคตรความสามารถของแกนนำนาซี
ที่ทำให้พลเมืองและกลุ่มทหารชนชั้นนำเชื่อฟัง ยอมรับและเกรงกลัวต่อพลังของ “กลุ่มซาตาน” เหล่านี้
กลุ่มซาตานที่ในอดีตคือกลุ่มคนที่ไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต ตกงาน มองหางานทำ
แล้วจากนั้น 10-15 ก็เป็นกลุ่มคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองสมัยใหม่
ที่สร้างและขยายอาณาเขตไปเกือบทั่วภาคพื้นยุโรป
แม้เราจะรู้ดีว่ามันเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่ง
สารคดีชิ้นนี้จะพาเราไปสำรวจว่า จากเด็กหนุ่มเด็กเรียน เข้าสังคมไม่เป็น มีปมอยากไปรบแต่สงครามจบลงเสียก่อน
แต่กลับกลายเป็นหัวหน้ากลุ่มเอสเอสและผู้ใช้นโยบาย “กำจัดชาวยิวและสลาฟ” กว่า 6 ล้านคน
ผู้ใช้แนวคิดโรงงานฆ่าไก่เป็น “โรงงานสังหารมนุษย์” นามว่า “ฮิมเล่อร์”
สารคดีชิ้นนี้จะพาไปสำรวจจากลูกชาวนา นักเขียนและนักข่าวที่อนาคตทางอาชีพตกต่ำถึงขีดสุด
จะกลับกลายเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงโฆษณาแถลงข่าวและโฆษณาชวนเชื่อ
ผู้สร้างและครอบงำความคิดของพลเมืองเยอรมันให้รวมศูนย์เบ็ดเสร็จไปที่ “ฟีรเลอร์”
นามว่า "เพาล์ โยเซ็ฟ เกิบเบิลส์"
และที่สำคัญที่สุดในมิติทางรัฐศาสตร์แล้ว
พรรคการเมืองเล็ก ๆ ตั้งขึ้นในโรงเบียร์
ที่ครั้งหนึ่งเคยทำรัฐประหารแล้วไม่สำเร็จ แกนนำถูกจับ บ้างต้องหลบหนี
กลับกลายเป็นพรรคการเมืองที่มีอำนาจในการจัดตั้งรัฐบาลได้อย่างไร
และแน่นอนสำหรับท่านใดที่คิดว่า “ฮิตเล่อร์มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย”
สารคดีชิ้นนี้จะตบหน้าท่านอย่างแรง
แล้วกระซิบท่านเบา ๆ ว่า
“วิกฤตทางการเมืองคือ บันไดของผู้นำที่ต้องการอำนาจเบ็ดเสร็จ”
"ในประวัติศาสตร์ไม่มีคำว่า ถ้าทุกอย่างราวกับมันเขียนบทเอาไว้แล้ว"
“ไม่มีวิกฤติทางการเมืองใดในเยอรมันในช่วงจักรวรรดิ์ไรซ์ที่ 3 ที่มันเกิดขึ้นโดยบังเอิญทั้งหมดล้วนเป็นแผนการที่เตรียมไว้”
สารคดีชิ้นนี้จะให้ทั้งความรู้ ความสนุก ข้อมูลประวัติศาสตร์
และอาจทำให้เราเข้าใจ "การขึ้นสู่อำนาจ" ของผู้นำเผด็จการมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้นสารคดีนี้อาจทำให้เราได้เห็นวิธีการคิดของคนที่ต้องการอำนาจทางการเมือง
เพื่อสนองเจตนารมณ์อันยิ่งใหญ่ของตัวเอง
และนั่นก็แลกมาด้วย โศกนาฎกรรม
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้