ถ้าประเทศไทยมี knowledge center และ การอบรมเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงที่ดีพอ จะช่วยแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ขนาดไหน

เห็นบ่นกันเยอะเหลือเกินว่า มีปัญหาปากท้อง การเงินไม่พอใช้จ่าย เพราะเศรษฐกิจไม่ดี รัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่เก่ง แก้ปัญหาไม่ได้บ้าง อะไรบ้าง
  ทั้งๆที่ปัญหาปากท้อง ปัญหาการเงินของคนหลายคน มันเกิดขึ้นจากสิ่งที่ตัวเองกระทำเป็นส่วนใหญ่ ไม่ได้เกิดจากปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือสำหรับบางคนก็เกิดจากปัญหาทางเศรษฐกิจน้อยมาก

  ที่เคยเจอมาคนบางกลุ่ม ขี้เกียจขี้คร้านในการทำงาน อยากเปิดร้านค้าตอนไหนก็เปิด อยากปิดร้านตอนไหนก็ปิด ตามใจตัวเอง แล้วอย่างนี้จะมีลูกค้ามาเชื่อถือได้อย่างไร ก็โทษไปเศรษฐกิจไม่ดี
  หรือตั้งร้านค้าในทำเลที่มีลูกค้าน้อย ทำไม่ถูกหลัก ทำให้หาเงินได้ยาก ก็โทษไปเศรษฐกิจไม่ดี
  บางร้านไม่ซื่อสัตย์สุจริต ขายของดีปนของไม่ดีให้ลูกค้า ทำให้ลูกค้าไม่อยากมาซื้อต่อ ร้านค้ามีรายได้ลดลง ก็โทษเศรษฐกิจไม่ดีอีก
  บางคนทำงานประจำ ได้เงินมาพอแก่การใช้จ่ายในสิ่งที่จำเป็น แต่กลับเอาเงินไปกิน เล่นเที่ยว ใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็น ใช้จ่ายในสิ่งที่เกินตัว ไม่เหลือเงินเก็บ ก็โทษเศรษฐกิจไม่ดีอีก

   หลายเคสที่โทษเศรษฐกิจไม่ดีเอาไว้ก่อน ไม่เคยมาโทษตัวเองว่า ตัวเองทำไม่ดีไว้ก่อน และไม่รู้จักหาหนทางแก้ไข เหมือนรำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง
  
  ถ้าเปรียบเทียบคน 4 ประเภท เมื่อมีปัญหาทางการเงิน แล้วสมควรได้รับการช่วยเหลือก่อนหลังมีดังนี้
ประเภท 1 ทำงานหาเงินได้มาก บริหารการเงินดี
ประเภท 2 ทำงานหาเงินได้น้อย บริหารการเงินดี
ประเภท 3 ทำงานหาเงินได้มาก บริหารการเงินได้ไม่ดี
ประเภท 4 ทำงานหาเงินได้น้อย บริหารการเงินได้ไม่ดี
   หากคน 4 ประเภทนี้เกิดปัญหาทางการเงิน ควรจะยื่นมือช่วยเหลือคนประเภทแรกก่อนครับ เพราะถือว่าเป็นคนรู้จักหน้าที่ รู้จักทำมาหากินอย่างถูกต้อง และเมื่อได้เงินมาแล้ว ก็บริหารเป็น มีความยับยั้งชั่งใจในการใช้จ่าย ไม่ต้องสร้างปัญหาให้ใคร แต่บางครั้งบางเรื่องราวก็อาจพลาดพลั้งกันได้

  ส่วนคนประเภทที่ 2 ทำงานหาเงินได้ไม่มาก พวกพนักงานประจำ หาเช้ากินค่ำ ได้เงินมาพอกินพอใช้ แต่รู้จักบริหารการเงินดี ที่เคยเจอมาส่วนมากไม่ค่อยมีปัญหานะ
  
กลุ่มคนที่จะมีปัญหาเงินอาจจะไม่ค่อยพอใช้ ติดขัดในบางช่วงเวลา หรือไม่พอใช้เลย คงเป็นกลุ่ม คนประเภทที่ 3 และ 4 ตามลำดับ
  ซึ่งกลุ่มคนประเภท 4 หากทำงานได้ไม่ดีเพราะ ขี้เกียจขี้คร้าน และยังบริหารเงินไม่ดีอีก ไม่สมควรยื่นมาเข้าช่วยทุกกรณี

  ซึ่งถ้าหากภาครัฐต้องการจะช่วยแก้ปัญเรื่องเรื่องปากท้อง เรื่องฐานะการเงิน ก็ควรดูที่มาที่ไป และวิธีการที่เหมาะสมในการช่วยเหลือบุคคลแต่ละกลุ่ม ไม่ควรจะช่วยเหลือทั้งหมด และวิธีการหลักๆที่ควรทำ คือ ให้ความรู้การประกอบวิชาชีพที่ถูกต้องแก่ประชาชน ด้วยการมีศูนย์ knowledge center https://youtu.be/RhxRuVqURJU
สอนให้เขารู้จักบริหารการเงินที่ถูกต้อง รัฐควรช่วยเพียงเท่านี้ ยกเว้นเหตุสุดวิสัยทางการเงินจริงๆ ค่อยหาทางยื่นมือเข้าช่วย เช่น กลุ่มธุรกิจทีวีดิจิตอลที่ขาดทุนกันมากมาย แม้จะพยายามทำงานกันอย่างดีที่สุดแล้ว การบริหารรายรับ-รายจ่ายมาดีแล้ว แต่ก็ยังประสบปัญหาด้วยสภาพการแข่งขันทางการตลาด เป็นต้น อย่างนี้ถือว่าสุดวิสัย สมควรยื่นมือเข้าช่วย

  แต่ในความเป็นจริงแล้ว ภาครัฐสมควรเข้าช่วยควบคุมกลไกทางการตลาดด้วย แม้หลายคนอาจจะคิดว่า การค้าขายอะไรเป็นสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคล ซึ่งมันก็ถูกอยู่ แต่เวลาเกิดปัญหาอะไรขึ้น เจ๊งหรือขาดทุนขึ้นมา ก็ไม่ควรไปโทษรัฐบาล หรือให้รัฐบาลช่วย เพราะรัฐบาลไม่ได้สั่งให้คนไปลงทุน และรัฐก็ไม่ได้ร่วมหุ้นใดๆ มันเป็นเพราะประชาชนคิดเอง เลือกที่จะทุนเอง
  อย่างเช่นตอนนี้ มีผู้สนใจปลูกทุเรียนกันมากมาย เพราะคาดว่าต่อไปทุเรียนจะขายดี จากการที่ แจ็ค หม่า เข้ามาซื้อทุเรียน ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะสินค้าล้นตลาดได้ ถ้าอนาคตเกิดปัญหาขายทุเรียนจริง ก็ไม่ควรไปโทษรัฐบาล เพราะประชาชนเลือกทำกันเอง ซึ่งวิธีการแก้ปัญหาลักษณะนี้ ต่อไปภาครัฐคงจะต้องเข้ามาควบคุมกลไกทางการตลาดแต่ทีแรก หากพบว่ามีธุรกิจไหนมีแน้วโน้มที่จะบูมขึ้นมา

  สรุปว่า ขอบเขตการช่วยเหลือของภาครัฐที่มั่นคงในระยะยาว ควรเป็น knowledge center ศูนย์กลางการศึกษาเรียนรู้เพื่อที่จะให้คนไทยปฏิบัติงานเป็น และการควบคุมกลไกทางการตลาด ตลอดจนวิธีการบริหารจัดการเงินที่ถูกต้องแบบเศรษฐกิจพอเพียง สอนให้รู้จักทำบัญชีครัวเรือนเพื่อแยกแยะค่าใช้จ่ายอย่างถูกต้อง ซึ่งก็น่าจะมีซักพรรคการเมืองที่สานนโยบายนี้ให้สำเร็จผลจริงได้

  หากต้องการจะเอาเงินแจกจ่ายประชาชน ควรเป็นกลุ่มคนที่มีปัญหาในการทำงานจริง กลุ่มคนพิการ กลุ่มคนได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจนไม่สามารถไปทำงานได้ชั่วคราว ผู้สูงอายุที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้จริง หรือกลุ่มคนที่รายได้น้อยจริงๆและไม่มีความรู้พื้นฐาน ช่องทางใดๆที่จะไปประกอบอาชีพอื่นที่มีรายได้มากกว่านี้ได้ เช่น คนกวาดขยะ คนตัดหญ้า เป็นต้น คนกลุ่มนี้ถึงสมควรได้รับการช่วยเหลือแบบได้รับเงินจากภาครัฐ เพื่อให้มีชีวิตอยู่อย่างปกติได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่