ผมเป็นวัยรุ่นในยุค1994-2007

เพี้ยนสวัสดีผมเป็นวัยรุ่นในยุค1994-2007(พ.ศ.2537-2550)อายุ13-26ปี

ความพิเศษในยุคนี้มีอะไรบ้าง เราเติบโตมาแบบไหนกันนะ

ยุคของผมจะไม่มีอินเตอร์เน็ตใช้อย่างแพร่หลายขนาดนี้ ไม่มีเฟสบุคให้เล่น ไม่มีไลย์ ไม่มีโลกโซเชียลให้ท่องอย่างสนุกเหมือนเดี๋ยวนี้ พอมีคนใช้เน็ตอยู่บ้างตามร้านเน็ต แต่พวกเราเข้าไม่ถึง จะใช้เฉพาะบางกลุ่มเท่านั้นเพราะเราไม่รู้ว่าจะไปเล่นอะไร

ผมใช้ชีวิตที่บ้านเกิดในครอบครัวเดิม(ชนบทอีสานตอนล่าง)กับคุณพ่อคุณแม่ ย่างเข้าสู่วัยรุ่นตอนต้น หน้าที่หลักคือเรียนหนังสือ เลิกเรียนก็เล่นกีฬาที่หมู่บ้านใกล้เคียง เย็นๆกลับเข้าบ้านกินข้าวกินปลาอาบน้ำทำการบ้าน ว่างรึก็อ่านหนังสือการ์ตูน(เด็กสมัยนี้คงท่องเน็ตเน้าะ...แมนบ่)เวลาคิดถึงใครเราก็จะเขียนจดหมาย ผมบอกเลยจดหมายกองพะเนินเทินทึกในห้องผมมันเย้อะมาก ผมจะเขียนจดหมายไปหาพี่ๆผมที่อยู่กทม.ซะส่วนมาก กับเพื่อนๆเราก็เจอกันในหมู่บ้านและที่โรงเรียนอยู่แล้ว เราจะตื่นเต้นมากเวลาได้รับจดหมาย เพราะกว่าจะได้รับต้องรอกันเป็นอาทิตย์เลยนะ

มีกิจกรรมอะไรบ้างนอกจากเล่นกีฬา เขียนจดหมาย อ่านการ์ตูน ก็มีไปวัด ไปเล่นที่วัดช่วยงานพระบ้างตามสมควร ช่วงวัยรุ่นใหม่ๆคลุกคลีที่วัดเย้อะมาก...

ไม่มีเน็ตใช้แล้วฟังเพลงยังไง ฟังจากวิทยุหรือเทปคัทเซ็ต ช่วงที่ไม่มีเทป(ไม่มีตังค์ซื้อ)ก็ฟังจากวิทยุ เขียนจดหมายไปขอเพลงบ้างบางครั้ง พอมีเครื่องเล่นเทปก็หาซื้อม้วนเทปมาเปิดฟัง บอกเลยมันไพเราะมาก เป็นการฟังเพลงที่เลือกเพลงไม่ได้ ต้องฟังเพลงทั้งอัลบั้มหรือถ้าจะฟังเฉพาะเพลงก็รีฟังเอา แต่ส่วนมากแล้วผมจะฟังทั้งหมด มีเทปและเครื่องเสียงถูกๆชุดหนึ่งพอได้ฟัง โดนพ่อแม่ด่าประจำแหละเพราะเปิดดังเหอะๆๆๆๆ

ช่วงที่เงินสะพัดที่สุดคือช่วงหน้าเกี่ยวข้าว เราจะหารับจ้างเกี่ยวข้าว ได้วันละร้อยสมัยนั้นถือว่าเย้อะแล้ว ก็มีขาดเรียนไปเกี่ยวข้าวก็มีนะ

ยาเสพติดที่ฮิตที่สุดในหมูวัยรุ่นตอนนั้นในกลุ่มผมก็มีเพียงเหล้าขาว40ดีกรี ถือว่าหลอนที่สุดแล้ว ยาบ้าก็เริ่มมีแต่พวกเราไม่เล่น เพราะถือว่าเป็นสิ่งผิดกฏหมาย

ช่วงวัยรุ่นตอนปลายหรือเริ่มเข้าสู่วัยทำงาน ต้องจากบ้านเข้าสู่เมืองกรุงตอนอายุ21ปี มีวุฒิม.6เป็นใบเบิกทาง ทำไม่ไม่เรียนต่อ ไม่มีเงินนี่คือเหตุผลหลัก ไม่อยากกู้กยส.เราอาจจะคิดผิดก็ได้ แต่ก็ได้ตัดสินใจแล้วและตั้งใจทำในสิ่งที่ตั้งใจ ชีวิตในวัยทำงานช่วงแรกๆ ไม่เคยจากบ้านมาไกลและนานขนาดนี้ ต้องปรับตัวพอสมควร เหงาหนักมาก การฝึกในการอยู่ให้ได้ถือว่าเก่งแล้ว โทรศัพท์เริ่มมีเย้อะขึ้นในช่วงแรกเป็นตู้สาธารณะ แลกเหรียญหยอดเป็นกำๆและพัฒนามาเป็นโทรศัพท์มือถือ นาทีละ4-5บาทกันเลยนะ แพงมากในช่วงนั้น การเขียนจดหมายเริ่มลดลงเพราะใช้การโทรฯเป็นหลัก

_________________________________

ไม่มีไร...เล่าให้ฟังเฉยๆเพี้ยนกริบ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่