เหตุสืบเนื่องมาจากเราซื้อ สายชาร์จ iPhone ขนาดความยาว 2เมตร จากตัวแทนจำหน่ายของ apple แล้วเสียบชาร์จกับโทรศัพท์ iPhone 7 plus แล้วสายไฟเกิดความเสียหายที่บริเวณหัวชาร์จ เกิดเป็นคราบรอยไหม้ และทำให้เกิดความเสียหายที่โทรศัพท์ ทำให้เวลาเสียบชาร์จอันอื่นแล้วใช้งานได้ไม่เสถียร บางครั้งชาร์จได้ บางครั้งชาร์จไม่ได้ โดยสายชาร์จอีกอันนี้เสียบเข้ากับ iPhone อีกเครื่องไม่พบปัญหาการใช้งานแต่อย่างใด
ทางเราจึงตัดสินใจทำสายชาร์จกับโทรศัพท์เข้าไปตรวจสอบกับทาง apple store ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ซึ่งก่อนไปก็ได้ดูคลิปวีดีโอรีวิวจากทาง youtube ต่างๆว่าสามารถวอคอินเข้าไปใช้บริการ หรือจองผ่านทางเว็บไซด์ แต่ได้ลองใช้งานผ่านเว็บไซด์แล้วพบว่าขั้นตอนยุ่งยากและคำสั่งบางคำสั่งยังไม่สมบูรณ์เรียบร้อยดี เลยตัดสินใจเดินทางเข้าไปใช้บริการโดยการวอคอิน
เนื่องด้วยทางร้านเปิดใหม่คนใช้บริการค่อนข้างมาก ในขณะที่ไปติดต่อกับผู้ที่ดูแลการให้บริการด้านนี้จึงได้รับแจ้งว่าคิวเต็ม ไม่สามารถเข้ารับบริการได้ เราก็โอเคถึงแม้จะรู้สึกมาเสียเที่ยว จึงสอบถามทางพนักงานผู้ชายผู้ให้บริการคนนั้นว่า ขอบเขตการรับประกันและดูแลของ apple ในกรณีข้างต้นดังกล่าวนี้เป็นยังไง ทาง apple รับผิดชอบแค่สายชาร์จ หรือซ่อมโทรศัพท์ที่เสียหายด้วยไหม ทางพนักงานแจ้งว่า ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ช่างเทคนิคเป็นผู้ตรวจสอบ ไม่สามารถให้คำตอบได้ เราจึงได้ถามต่อไปว่า แล้วถ้าความเสียหายมันเกิดขึ้นจากสายชาร์จบกพร่องจากทาง apple และทำให้โทรศัพท์เราเสียหายทางบริษัทจะเคลมสายชาร์จและซ่อมโทรศัพท์ให้ หรือเพียงแค่เคลมสายชาร์จแต่ไม่ซ่อมโทรศัพท์ให้ ทางพนักงานได้แต่แจ้งว่าต้องให้ช่างตรวจสอบก่อน ให้ลูกค้าจองคิวมาเพื่อรับบริการ เราจึงถามไปว่า ทางบริษัท ไม่มีขอบเขตการคุ้มครอง หรือรับประกันสินค้าหรอ ? ทางเราต้องการทราบข้อมูลตรงนี้ เพื่อจะได้ตัดสินใจว่า จำเป็นต้องมาใช้บริการถึงที่นี่ไหม เพราะถ้าบริษัทไม่ซ่อมโทรศัพท์ให้ เราจะได้ไปเคลมแค่สายเฉยๆใกล้บ้าน ไม่ต้องมาไกลจากลาดพร้าวมาถึงที่นี่ แต่คำตอบของพนักงานท่านนี้ก็เหมือนเดิม คือ “ต้องรอเจ้าหน้าที่ช่างเทคนิคตรวจสอบไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้” พนักงานท่านนี้ไม่มีแม้แต่ที่จะไปปรึกษาคนที่น่าจะมึความรู้ หรือสามารถให้ความรู้ในด้านรายละเอียดการคุ้มครองและรับประกันสินค้าแต่อย่างใดทั้งสิ้น
เราคิดว่ายังไงบริษัทขนาด apple น่าจะมีแนวทาง ขอบเขต หรือประสบการณ์การรับประกันในลักษณะคล้ายคลึงกันมาก่อนบ้าง อาจจะไม่ใช่ที่ไทยที่แรกที่เกิดเหตุนี้ แต่การอบรมฝึกพนักงานก่อนการเปิดให้บริการ น่าจะมีผ่านหูผ่านตามาบ้าง
เราไหนๆก็มาแล้ว จึงไปสอบถามพนักงานท่านอื่น เพื่อติดต่อสอบถามข้อมูลดังกล่าวกับหัวหน้าผู้ดูแล apple store ซึ่งทางหัวหน้าผู้ดูแลก็ได้ให้คำตอบเรามาว่า ถ้าความเสียหายของโทรศัพท์เกิดจากความบกพร่องของสายชาร์จ ทางเรายินดีซ่อมโทรศัพท์ในส่วนที่เสียหายนี้ แต่ทั้งนี้ต้องผ่านการตรวจสอบจากช่างเทคนิคก่อน
เรารู้สึกว่าพนักงานคนดังกล่าวทำได้เพียบบอกปัด ไม่ได้คิดจะช่วยแนะนำแนวทางลูกค้า หรือตอบคำถามลูกค้าแต่อย่างใด หากเขาเองเลือกที่จะปรึกษาหัวหน้า ก็คงจะดีกว่านี้ อยากจะฝากทาง apple store ว่าควรจะมีการอบรมพนักงานแนะนำวิธีการแก้ปัญหา การหาข้อมูลเพื่อตอบลูกค้าให้มากกว่านี้ ไม่ใช่ทำแค่บอกปัดไปอย่างเดียว พนักงานทำงานหนักทางเราเข้าใจ แต่ลูกค้าเดินทางมาเหมือนกัน การที่ไม่สามารถให้บริการได้แต่ก็สามารถแนะนำได้ไม่ใช่หรอ?
ส่วนสุดท้าย ขอชื่นชมพนักงานท่านหนึ่ง เป็นทอม(หากใช้คำเรียกไม่สุภาพต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะคะ) ทางเราเดินเข้าไปติดต่อเพื่อขอจองคิว พนักงานท่านนี้ดูแลดีมาก แนะนำเราทุกอย่าง เราสอบถามว่าการซ่อมใช้เวลายังไง ทางพนักงานแจ้งว่าอาจจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ยังไงอยากให้คุณลูกค้าเผื่อเวลาการจองเพื่อเข้าใช้บริการ เพราะถ้าหาก ระยะเวลาการซ่อมไม่ทันเวลาทำการของร้าน ลูกค้าจะต้องเดินทางมารับโทรศัพท์ในวันถัดไป ซึ่งแนะนำเราดีมากก่อนทำการจองเวลา ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่เรามากในส่วนนี้ ไม่งั้นเราคงจองเวลาช่วงหัวค่ำ ซึ่งทำให้ซ่อมไม่ทันแน่นอน และต้องเดินทางมาใหม่อีกรอบเพื่อรับโทรศัพท์คืน
แชร์ประสบการณ์ติดต่อเข้าซ่อมสินค้ากับ apple store แห่งแรกของเมืองไทย
ทางเราจึงตัดสินใจทำสายชาร์จกับโทรศัพท์เข้าไปตรวจสอบกับทาง apple store ในวันที่ 20 พฤศจิกายน ซึ่งก่อนไปก็ได้ดูคลิปวีดีโอรีวิวจากทาง youtube ต่างๆว่าสามารถวอคอินเข้าไปใช้บริการ หรือจองผ่านทางเว็บไซด์ แต่ได้ลองใช้งานผ่านเว็บไซด์แล้วพบว่าขั้นตอนยุ่งยากและคำสั่งบางคำสั่งยังไม่สมบูรณ์เรียบร้อยดี เลยตัดสินใจเดินทางเข้าไปใช้บริการโดยการวอคอิน
เนื่องด้วยทางร้านเปิดใหม่คนใช้บริการค่อนข้างมาก ในขณะที่ไปติดต่อกับผู้ที่ดูแลการให้บริการด้านนี้จึงได้รับแจ้งว่าคิวเต็ม ไม่สามารถเข้ารับบริการได้ เราก็โอเคถึงแม้จะรู้สึกมาเสียเที่ยว จึงสอบถามทางพนักงานผู้ชายผู้ให้บริการคนนั้นว่า ขอบเขตการรับประกันและดูแลของ apple ในกรณีข้างต้นดังกล่าวนี้เป็นยังไง ทาง apple รับผิดชอบแค่สายชาร์จ หรือซ่อมโทรศัพท์ที่เสียหายด้วยไหม ทางพนักงานแจ้งว่า ต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ช่างเทคนิคเป็นผู้ตรวจสอบ ไม่สามารถให้คำตอบได้ เราจึงได้ถามต่อไปว่า แล้วถ้าความเสียหายมันเกิดขึ้นจากสายชาร์จบกพร่องจากทาง apple และทำให้โทรศัพท์เราเสียหายทางบริษัทจะเคลมสายชาร์จและซ่อมโทรศัพท์ให้ หรือเพียงแค่เคลมสายชาร์จแต่ไม่ซ่อมโทรศัพท์ให้ ทางพนักงานได้แต่แจ้งว่าต้องให้ช่างตรวจสอบก่อน ให้ลูกค้าจองคิวมาเพื่อรับบริการ เราจึงถามไปว่า ทางบริษัท ไม่มีขอบเขตการคุ้มครอง หรือรับประกันสินค้าหรอ ? ทางเราต้องการทราบข้อมูลตรงนี้ เพื่อจะได้ตัดสินใจว่า จำเป็นต้องมาใช้บริการถึงที่นี่ไหม เพราะถ้าบริษัทไม่ซ่อมโทรศัพท์ให้ เราจะได้ไปเคลมแค่สายเฉยๆใกล้บ้าน ไม่ต้องมาไกลจากลาดพร้าวมาถึงที่นี่ แต่คำตอบของพนักงานท่านนี้ก็เหมือนเดิม คือ “ต้องรอเจ้าหน้าที่ช่างเทคนิคตรวจสอบไม่สามารถตอบคำถามนี้ได้” พนักงานท่านนี้ไม่มีแม้แต่ที่จะไปปรึกษาคนที่น่าจะมึความรู้ หรือสามารถให้ความรู้ในด้านรายละเอียดการคุ้มครองและรับประกันสินค้าแต่อย่างใดทั้งสิ้น
เราคิดว่ายังไงบริษัทขนาด apple น่าจะมีแนวทาง ขอบเขต หรือประสบการณ์การรับประกันในลักษณะคล้ายคลึงกันมาก่อนบ้าง อาจจะไม่ใช่ที่ไทยที่แรกที่เกิดเหตุนี้ แต่การอบรมฝึกพนักงานก่อนการเปิดให้บริการ น่าจะมีผ่านหูผ่านตามาบ้าง
เราไหนๆก็มาแล้ว จึงไปสอบถามพนักงานท่านอื่น เพื่อติดต่อสอบถามข้อมูลดังกล่าวกับหัวหน้าผู้ดูแล apple store ซึ่งทางหัวหน้าผู้ดูแลก็ได้ให้คำตอบเรามาว่า ถ้าความเสียหายของโทรศัพท์เกิดจากความบกพร่องของสายชาร์จ ทางเรายินดีซ่อมโทรศัพท์ในส่วนที่เสียหายนี้ แต่ทั้งนี้ต้องผ่านการตรวจสอบจากช่างเทคนิคก่อน
เรารู้สึกว่าพนักงานคนดังกล่าวทำได้เพียบบอกปัด ไม่ได้คิดจะช่วยแนะนำแนวทางลูกค้า หรือตอบคำถามลูกค้าแต่อย่างใด หากเขาเองเลือกที่จะปรึกษาหัวหน้า ก็คงจะดีกว่านี้ อยากจะฝากทาง apple store ว่าควรจะมีการอบรมพนักงานแนะนำวิธีการแก้ปัญหา การหาข้อมูลเพื่อตอบลูกค้าให้มากกว่านี้ ไม่ใช่ทำแค่บอกปัดไปอย่างเดียว พนักงานทำงานหนักทางเราเข้าใจ แต่ลูกค้าเดินทางมาเหมือนกัน การที่ไม่สามารถให้บริการได้แต่ก็สามารถแนะนำได้ไม่ใช่หรอ?
ส่วนสุดท้าย ขอชื่นชมพนักงานท่านหนึ่ง เป็นทอม(หากใช้คำเรียกไม่สุภาพต้องขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะคะ) ทางเราเดินเข้าไปติดต่อเพื่อขอจองคิว พนักงานท่านนี้ดูแลดีมาก แนะนำเราทุกอย่าง เราสอบถามว่าการซ่อมใช้เวลายังไง ทางพนักงานแจ้งว่าอาจจะใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ยังไงอยากให้คุณลูกค้าเผื่อเวลาการจองเพื่อเข้าใช้บริการ เพราะถ้าหาก ระยะเวลาการซ่อมไม่ทันเวลาทำการของร้าน ลูกค้าจะต้องเดินทางมารับโทรศัพท์ในวันถัดไป ซึ่งแนะนำเราดีมากก่อนทำการจองเวลา ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่เรามากในส่วนนี้ ไม่งั้นเราคงจองเวลาช่วงหัวค่ำ ซึ่งทำให้ซ่อมไม่ทันแน่นอน และต้องเดินทางมาใหม่อีกรอบเพื่อรับโทรศัพท์คืน