สวัสดีคะ เราเขียนกระทู้เป็นครั้งแรกผิดถูกยังไงขออภัยเพื่อนๆด้วยนะคะ เราอยากจะแชร์ประสบการณ์ที่เราโดนมากับตัว เราไม่มีความรู้เลยเกี่ยวกับโรคนี้ เราจึงอยากแชร์ให้กับเพื่อนๆทุกคน น้องหมาของเราพันธ์ บีเกิ้ลคะ ขึ้นชื่อว่า ดื้อ มึน และอึดมากคะ น้อง8เดือนแล้วนะคะ ซึ่งตอนนี้อาการน้องก็ยังไม่ดีขึ้นเท่าไหร่ เดี๋ยวจะลำดับอาการน้องตามวันเลยนะคะ
วันที่1 ของน้องที่อาการเริ่มออก คือเค้ามีถ่ายเหลวปนมูก ซึ่งตอนนั้นเราคิดว่าเค้าท้องเสียปกติ เพราะเค้าจะท้องเสียบ่อย เราเลยให้กินยาแก้ท้องเสียของเขาตามปกติ แต่เค้าก็ยังร่าเริงและดื้อตามสายพันธ์ของเค้า
วันที่ 2 วันนี้คือวันที่พีคของเราและน้อง วันนี้เรากลับบ้านมาตอน 5 โมงเย็น น้องเค้าจะอยู่ในห้องส่วนตัว คนเดียวจนเราเลิกงานทุกวันคะ กลับมา เราเจอน้องถ่ายเหลวอีก 2 รอบ และวันนี้คือ ซึมอย่างเห็นได้ชัด เราพยายามเล่นกับเค้าแต่เค้าก็ไม่เล่นด้วย และวันนี้เรามีธุระที่จะต้องทำตอนเย็น เราจึงฝากที่บ้านว่าช่วยดูน้องด้วยนะ น้องไม่สบาย ซึมๆ แล้วเราก็ออกไปข้างนอก คิดว่าคงไม่มีอะไรเพราะที่บ้านไม่โทรมา พอถึงเวลากลับมาบ้าน เรากลับมาตอนตี3 เราเจอน้องถ่ายเหลว 2 ก้อน ถ่ายเป็นเลือด 1 ก้อน และอ้วกก้อนใหญ่อีก 1กอง คือเราตกใจมากทำอะไรไม่ถูก ได้แต่อุ้มเค้ามากอด ซึ่งตอนนั้นเค้าเหมือนหมดแรงแล้ว เราคิดว่าตอนเช้าจะต้องรีบพาเค้าไปโรงพยาบาล แต่อีกสักพัก เค้าก็เดินไปถ่ายอีกครั้ง ซึ่งถ่ายเป็นมูกเลือดเลย แล้วน้องก็เดินเข้ามุมไปมุดตีวนอนขด เราเห็นว่าไม่ดีละ เลยพาน้องไปโรงพยาบาลเอกชนของสัตว์ พอไปถึงเล่าอาการน้องให้หมอฟัง หมอบอกว่าอาการน้องน่าจะติดเชื้อ จึงทำการตรวจร่างกายน้อง และตรวจพบเชื้อโรคลำไส้อักเสบชนิดรุนแรง ซึ่งคุณหมอบอกเราว่าโรคนี้อัตราการเสียชีวิตของสัตว์เลี้ยงมีมากถึง90% เรานี่ถึงกับน้ำตาร่วงเลยคะ พูดกับหมอไปร้องไห้ไป หมอบอกต้องให้น้องแอดมิน ให้น้ำเกลือ ฉีดยา และเฝ้าระวัง24ชม. เราก็โอเคเพราะกลัวเค้าเสียชีวิต เราก็จ่ายค่ารักษาพยาลของคืนนั้นและค่ามัดจำเสร็จ เราก็กลับบ้านเลย
วันที่2 เราโทรสอบถามอาการน้องแต่เช้า วันนี้คุณหมอบอกน้องแจ่มใส ร่าเริง เห่าใหญ่เลยนะคะคุณแม่ เราก็ดีใจ สบายใจแต่เช้า ตกเย็นเราไปเยี่ยมเค้าที่ อาการเค้าก็กระดิกหาง เห่าใส่เราเพราะเราไม่ได้เข้าไปข้างใน มองจากกระจกเข้าไป เค้าอยู่ในห้องติดเชื้อ เราเห็นอาการเค้าดีขึ้นเราเลยสบายใจถามหมอเมื่อไหร่น้องจะได้กลับบ้านคะ หมอบอกต้องรอดูอาการอีก2-3วัน เพราะโรคนี้มันมีระยะเวลา ช่วงพีคของมัน เราก็โอเคเพราะดูน้องแข๋งแรงดี ไม่อาเจรีย ไม่ถ่าย วันนี้ก็กลับบ้านนอน สบายใจ
วันที่3 วันนี้เราโทรไปสอบถามอาการสายหน่อยเพราะเมื่อวานเห็นน้องอาการดีขึ้น แต่วันนี้คุณหมอกลับบอกว่าน้องมีอาเจียร และถ่ายเหลว อาการค่อนข้างซึมลงจากเมื่อวาน ต้องงดน้ำและอาหารอีกครั้งเพื่อให้หยุดถ่าย และฉีดยาเพิ่มเติม เราได้ยินแบบนี้ถึงกับไปไม่ถูกเลย จากอาการสบายใจเมื่อวาน วันนี้เราถึงกับทำงานไม่ได้เลยคะ ตกเย็นเรารีบไปหาเค้า พอเจอสภาพเค้าเรานี่น้ำตาไหลเลยคะ น้องนอนซึม กระดิกหางไม่ได้ ตัวนี้อ่อนแรงไปเลย น้องไม่สบตา ไม่มอง เหมือนเค้าน้อยใจที่เราทิ้งเค้าไว้ที่รพ. แต่คุณหมอบอกเราว่า ตอนนี้คือช่วงพีคของโรค มันจะแสดงอาการถ่าย และ อาเจียน ภายให้ช่วงของวันที่3-5ของการเกิดโรคนี้ ถ้าเค้าผ่านช่วงนี้ไปได้คือมีโอกาสรอดสูง เราก็ภาวนาให้เค้าผ่านมันไปได้ วันนี้เราเยี่ยมเค้านั่งเล่นกับเค้าประมาณ 1ชม. แล้วเราก็กลับ กลับมานอนไม่หลับเลยคะ โทรไปสอบถามอาการน้องทุก1ชม.
วันที่4 วันนี้เช่นเคยคะเราโทรสอบถามอาการน้องคุณหมอแจ้งว่าน้องยังซึมเหมือนเดิม อาการคงที่ ไม่อาเจียน ไม่ถ่าย แต่ซึม เลิกงานเราก็ไปเยี่ยนมเค้าปกติ เห็นเค้าซึมเราก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ เราเลยรีบกลับบ้านทนเห็นเค้าเจ็บไม่ได้เลย แต่เราก็โทรถามอาการน้องตลอด
วันที่5 วันนี้เช้ามาเรารีบโทรไปที่รพ.ทันที คุณหมอแจ้งว่าวันนี้อาการน้องทรุดลงจากเมื่อวานนะคะคุณแม่ มีอาการอ้วกและถ่ายเหลวมากขึ้น พอเราได้ยินแบบนี้เราแทบทรุดเลยคะ เราก็ถามเค้าว่าต้องทำยังไงคะ คุณหมอแจ้งว่าวันนี้ทำการตรวจเลือดน้องใหม่อีกครั้งว่าค่าเม็ดเลือดขาวน้องอยู่ที่เท่าไหร่ (ซึ่งคุณหมอแจ้งว่าค่าเม็ดเลือดปกติต้องอยู่ที่ 6000ขึ้นนะคะ โรคนี้ทำลายเยื้อภายในลำไส้และเม็ดเลือดขาวน้องคะ) เราก็โอเคคะ จะรอฟังผลเลือดนะคะ เช้านี้เราไม่มีจิตใจในการทำงานเลยคะ เราทำได้แค่นั่ง เดิน วน รอคุณหมอโทรกลับมาเรื่องผลเลือด พอช่วงบ่าย คุณหมอโทรมาบอกผลเลือดน้องอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่ามารตฐานนะคะ คือเม็ลเลือดขาวเค้ามีแค่ 4600 ซึ่งคุณหมอแจ้งเราต้องปรัปแผนการรักษาน้อง คือคุณหมอมียาแนะนำ 2 ตัว ซึ่งราคาต่างกันมาก ตัวแรกเป็นยากระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว ตัวนี้ราคาถูกมากคะ ส่วนอีกตัวเป็นยากระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ตัวนี้ราคาแรงมากมายมหาศาล คุณหมอบอกแล้วแต่คุณแม่จะเลือกนะคะ คุณสมบัติของยาก็ต่างกันมากจากที่หมออธิบายให้ฟัง เราจึงตัดสินสินใจเลือกตัวแพง ซึ่งต้องฉีดทั้งหมด 4เข็ม ซึ่งราคาตกเข็มละ 1.2K และวันนี้คุณหมอก็ทำการฉีดเข็มแรกให้เค้า ส่วนค่าแอดมินน้องและค่ายาอื่นๆก็เพิ่มขึ้นด้วย เพราะต้องให้ยาเพิ่ม ตอนนั้นเราคิดอะไรไม่ออกก็ตอบโอเคไป พอเริ่มตั้งสติได้เราจึงหาข้อมูลของอาการนี้จากทางเน๊ตและทางกระทู้ของพันทิป เราเจอหลายเคสรักษาหายด้วย โยเกริตและยาสมุนไพร วันนี้เราโทรปึกษาคุณหมอจากหลายๆเคสที่เคยให้เบอร์ไว้ ต่างบอกเราว่านี้คือวันที่พีคสุดของเค้า ถ้าเค้าผ่านวันนี้ไปได้น่าจะรอด แต่คุณหมอหลายท่านบอกเราว่าน่าจะรักษาไม่ทันแล้วถึงจะย้ายรพ. เราจึงตัดสินใจรักษาต่อที่นี้ วันนี้เรามาเยี่ยมเค้าเล่นกับเค้า 2ครั้ง ครั้งแรกเค้าแทบจะไม่มีแรงลุกขึ้น เราต้องจับเค้ามานอนลูบหัวที่ตัก ประมาณ1 ชม. เรากลับบ้าน และมาใหม่อีกที่ตอนค่ำๆ ครั้งนี้เราอยู่กับเค้า ตั้งแต่หัวค่ำจนถึงประมาณตี2 ซึ่งสังเกตุได้ว่าเค้าดีขึ้นจากลุกไม่ได้ เดินไม่ได้ เค้ากลับเดินได้และลุกได้เอง เราดีใจมาก พยายามบอกเค้าว่าเราจะสู้ไปด้วยกันนะ
วันที่6 วันนี้เราก็โทรไปถามอาการเค้าแต่เช้า ซึ่งคุณหมอบอกว่าอาการดีขึ้นนิดหน่อยจากเมื่อวาน น้องไม่อาเจียน ไม่ถ่ายเหลว เราจึงปรึกษาคุณหมอขอรับตัวน้องกลับมาบ้าน ซึ่งเราอยากดูแลเค้าแบบใกล้ชิด เพราะเค้าอยู่รพ.เค้าดูเหงาๆ เรากลัวเค้าคิดถึงบ้าน ครั้งแรกที่เราไปหาคุณหมอตอนกลางวัน คุณหมอไม่ยอมอนุญาติให้น้องกลับ เพราะโอกาสที่น้องจะเสียชีวิตยังมีอีกมาก แต่ตอนนั้นคือเราทำใจในสิ่งที่ตามมาแล้ว เรายืนยันว่ายังไงก็จะเอาน้องกลับ คุณหมอจึงแจ้งเราว่าให้คุณแม่กลับไปตัดสินใจอีกครั้ง เราจึงกลับออฟฟิศ และคิดอยูนาน ศึกษาข้อมูลต่างๆเพิ่มขึ้น และตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าวันนี้จะพากลับบ้าน ก่อนไปรับน้องเราจึงเตรียมความพร้อม ทำความสะอาดห้องด้วยการฆ่าเชื้อโรค ด้วยสารฟอกขาวผสมน้ำเปล่าทั้งห้อง ซื้อกลูโคส โยเกริต ฟ้าทะลายโจรแบบแคปซูล เกลือแร่ แผ่นซับฉี่น้องหมา เมื่อเตรียมตัวเรียบร้อยตอนเย็นเราไปที่รพ. เพื่อรับน้องกลับบ้าน วันนี้อาการน้องดูดีขึ้นเยอะคะ แต่ยังเพรียแบบเห็นได้ชัด เราบอกน้องว่าเราไปสู้ต่อกันที่บ้านนะ แม่จะดูแลเอง......
เดี๋ยวจะมาอัพเดตต่อนะคะว่าน้องเป็นยังไงหลังกลับบ้าน ค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวของน้องที่รพ. 4วัน ตกอยู่ที่ 4.5K คะ
น้องหมาเราเป็นโรคลำไส้อักเสบ ขั้นรุนแรง
วันที่1 ของน้องที่อาการเริ่มออก คือเค้ามีถ่ายเหลวปนมูก ซึ่งตอนนั้นเราคิดว่าเค้าท้องเสียปกติ เพราะเค้าจะท้องเสียบ่อย เราเลยให้กินยาแก้ท้องเสียของเขาตามปกติ แต่เค้าก็ยังร่าเริงและดื้อตามสายพันธ์ของเค้า
วันที่ 2 วันนี้คือวันที่พีคของเราและน้อง วันนี้เรากลับบ้านมาตอน 5 โมงเย็น น้องเค้าจะอยู่ในห้องส่วนตัว คนเดียวจนเราเลิกงานทุกวันคะ กลับมา เราเจอน้องถ่ายเหลวอีก 2 รอบ และวันนี้คือ ซึมอย่างเห็นได้ชัด เราพยายามเล่นกับเค้าแต่เค้าก็ไม่เล่นด้วย และวันนี้เรามีธุระที่จะต้องทำตอนเย็น เราจึงฝากที่บ้านว่าช่วยดูน้องด้วยนะ น้องไม่สบาย ซึมๆ แล้วเราก็ออกไปข้างนอก คิดว่าคงไม่มีอะไรเพราะที่บ้านไม่โทรมา พอถึงเวลากลับมาบ้าน เรากลับมาตอนตี3 เราเจอน้องถ่ายเหลว 2 ก้อน ถ่ายเป็นเลือด 1 ก้อน และอ้วกก้อนใหญ่อีก 1กอง คือเราตกใจมากทำอะไรไม่ถูก ได้แต่อุ้มเค้ามากอด ซึ่งตอนนั้นเค้าเหมือนหมดแรงแล้ว เราคิดว่าตอนเช้าจะต้องรีบพาเค้าไปโรงพยาบาล แต่อีกสักพัก เค้าก็เดินไปถ่ายอีกครั้ง ซึ่งถ่ายเป็นมูกเลือดเลย แล้วน้องก็เดินเข้ามุมไปมุดตีวนอนขด เราเห็นว่าไม่ดีละ เลยพาน้องไปโรงพยาบาลเอกชนของสัตว์ พอไปถึงเล่าอาการน้องให้หมอฟัง หมอบอกว่าอาการน้องน่าจะติดเชื้อ จึงทำการตรวจร่างกายน้อง และตรวจพบเชื้อโรคลำไส้อักเสบชนิดรุนแรง ซึ่งคุณหมอบอกเราว่าโรคนี้อัตราการเสียชีวิตของสัตว์เลี้ยงมีมากถึง90% เรานี่ถึงกับน้ำตาร่วงเลยคะ พูดกับหมอไปร้องไห้ไป หมอบอกต้องให้น้องแอดมิน ให้น้ำเกลือ ฉีดยา และเฝ้าระวัง24ชม. เราก็โอเคเพราะกลัวเค้าเสียชีวิต เราก็จ่ายค่ารักษาพยาลของคืนนั้นและค่ามัดจำเสร็จ เราก็กลับบ้านเลย
วันที่2 เราโทรสอบถามอาการน้องแต่เช้า วันนี้คุณหมอบอกน้องแจ่มใส ร่าเริง เห่าใหญ่เลยนะคะคุณแม่ เราก็ดีใจ สบายใจแต่เช้า ตกเย็นเราไปเยี่ยมเค้าที่ อาการเค้าก็กระดิกหาง เห่าใส่เราเพราะเราไม่ได้เข้าไปข้างใน มองจากกระจกเข้าไป เค้าอยู่ในห้องติดเชื้อ เราเห็นอาการเค้าดีขึ้นเราเลยสบายใจถามหมอเมื่อไหร่น้องจะได้กลับบ้านคะ หมอบอกต้องรอดูอาการอีก2-3วัน เพราะโรคนี้มันมีระยะเวลา ช่วงพีคของมัน เราก็โอเคเพราะดูน้องแข๋งแรงดี ไม่อาเจรีย ไม่ถ่าย วันนี้ก็กลับบ้านนอน สบายใจ
วันที่3 วันนี้เราโทรไปสอบถามอาการสายหน่อยเพราะเมื่อวานเห็นน้องอาการดีขึ้น แต่วันนี้คุณหมอกลับบอกว่าน้องมีอาเจียร และถ่ายเหลว อาการค่อนข้างซึมลงจากเมื่อวาน ต้องงดน้ำและอาหารอีกครั้งเพื่อให้หยุดถ่าย และฉีดยาเพิ่มเติม เราได้ยินแบบนี้ถึงกับไปไม่ถูกเลย จากอาการสบายใจเมื่อวาน วันนี้เราถึงกับทำงานไม่ได้เลยคะ ตกเย็นเรารีบไปหาเค้า พอเจอสภาพเค้าเรานี่น้ำตาไหลเลยคะ น้องนอนซึม กระดิกหางไม่ได้ ตัวนี้อ่อนแรงไปเลย น้องไม่สบตา ไม่มอง เหมือนเค้าน้อยใจที่เราทิ้งเค้าไว้ที่รพ. แต่คุณหมอบอกเราว่า ตอนนี้คือช่วงพีคของโรค มันจะแสดงอาการถ่าย และ อาเจียน ภายให้ช่วงของวันที่3-5ของการเกิดโรคนี้ ถ้าเค้าผ่านช่วงนี้ไปได้คือมีโอกาสรอดสูง เราก็ภาวนาให้เค้าผ่านมันไปได้ วันนี้เราเยี่ยมเค้านั่งเล่นกับเค้าประมาณ 1ชม. แล้วเราก็กลับ กลับมานอนไม่หลับเลยคะ โทรไปสอบถามอาการน้องทุก1ชม.
วันที่4 วันนี้เช่นเคยคะเราโทรสอบถามอาการน้องคุณหมอแจ้งว่าน้องยังซึมเหมือนเดิม อาการคงที่ ไม่อาเจียน ไม่ถ่าย แต่ซึม เลิกงานเราก็ไปเยี่ยนมเค้าปกติ เห็นเค้าซึมเราก็อดไม่ได้ที่จะร้องไห้ เราเลยรีบกลับบ้านทนเห็นเค้าเจ็บไม่ได้เลย แต่เราก็โทรถามอาการน้องตลอด
วันที่5 วันนี้เช้ามาเรารีบโทรไปที่รพ.ทันที คุณหมอแจ้งว่าวันนี้อาการน้องทรุดลงจากเมื่อวานนะคะคุณแม่ มีอาการอ้วกและถ่ายเหลวมากขึ้น พอเราได้ยินแบบนี้เราแทบทรุดเลยคะ เราก็ถามเค้าว่าต้องทำยังไงคะ คุณหมอแจ้งว่าวันนี้ทำการตรวจเลือดน้องใหม่อีกครั้งว่าค่าเม็ดเลือดขาวน้องอยู่ที่เท่าไหร่ (ซึ่งคุณหมอแจ้งว่าค่าเม็ดเลือดปกติต้องอยู่ที่ 6000ขึ้นนะคะ โรคนี้ทำลายเยื้อภายในลำไส้และเม็ดเลือดขาวน้องคะ) เราก็โอเคคะ จะรอฟังผลเลือดนะคะ เช้านี้เราไม่มีจิตใจในการทำงานเลยคะ เราทำได้แค่นั่ง เดิน วน รอคุณหมอโทรกลับมาเรื่องผลเลือด พอช่วงบ่าย คุณหมอโทรมาบอกผลเลือดน้องอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำกว่ามารตฐานนะคะ คือเม็ลเลือดขาวเค้ามีแค่ 4600 ซึ่งคุณหมอแจ้งเราต้องปรัปแผนการรักษาน้อง คือคุณหมอมียาแนะนำ 2 ตัว ซึ่งราคาต่างกันมาก ตัวแรกเป็นยากระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว ตัวนี้ราคาถูกมากคะ ส่วนอีกตัวเป็นยากระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย ตัวนี้ราคาแรงมากมายมหาศาล คุณหมอบอกแล้วแต่คุณแม่จะเลือกนะคะ คุณสมบัติของยาก็ต่างกันมากจากที่หมออธิบายให้ฟัง เราจึงตัดสินสินใจเลือกตัวแพง ซึ่งต้องฉีดทั้งหมด 4เข็ม ซึ่งราคาตกเข็มละ 1.2K และวันนี้คุณหมอก็ทำการฉีดเข็มแรกให้เค้า ส่วนค่าแอดมินน้องและค่ายาอื่นๆก็เพิ่มขึ้นด้วย เพราะต้องให้ยาเพิ่ม ตอนนั้นเราคิดอะไรไม่ออกก็ตอบโอเคไป พอเริ่มตั้งสติได้เราจึงหาข้อมูลของอาการนี้จากทางเน๊ตและทางกระทู้ของพันทิป เราเจอหลายเคสรักษาหายด้วย โยเกริตและยาสมุนไพร วันนี้เราโทรปึกษาคุณหมอจากหลายๆเคสที่เคยให้เบอร์ไว้ ต่างบอกเราว่านี้คือวันที่พีคสุดของเค้า ถ้าเค้าผ่านวันนี้ไปได้น่าจะรอด แต่คุณหมอหลายท่านบอกเราว่าน่าจะรักษาไม่ทันแล้วถึงจะย้ายรพ. เราจึงตัดสินใจรักษาต่อที่นี้ วันนี้เรามาเยี่ยมเค้าเล่นกับเค้า 2ครั้ง ครั้งแรกเค้าแทบจะไม่มีแรงลุกขึ้น เราต้องจับเค้ามานอนลูบหัวที่ตัก ประมาณ1 ชม. เรากลับบ้าน และมาใหม่อีกที่ตอนค่ำๆ ครั้งนี้เราอยู่กับเค้า ตั้งแต่หัวค่ำจนถึงประมาณตี2 ซึ่งสังเกตุได้ว่าเค้าดีขึ้นจากลุกไม่ได้ เดินไม่ได้ เค้ากลับเดินได้และลุกได้เอง เราดีใจมาก พยายามบอกเค้าว่าเราจะสู้ไปด้วยกันนะ
วันที่6 วันนี้เราก็โทรไปถามอาการเค้าแต่เช้า ซึ่งคุณหมอบอกว่าอาการดีขึ้นนิดหน่อยจากเมื่อวาน น้องไม่อาเจียน ไม่ถ่ายเหลว เราจึงปรึกษาคุณหมอขอรับตัวน้องกลับมาบ้าน ซึ่งเราอยากดูแลเค้าแบบใกล้ชิด เพราะเค้าอยู่รพ.เค้าดูเหงาๆ เรากลัวเค้าคิดถึงบ้าน ครั้งแรกที่เราไปหาคุณหมอตอนกลางวัน คุณหมอไม่ยอมอนุญาติให้น้องกลับ เพราะโอกาสที่น้องจะเสียชีวิตยังมีอีกมาก แต่ตอนนั้นคือเราทำใจในสิ่งที่ตามมาแล้ว เรายืนยันว่ายังไงก็จะเอาน้องกลับ คุณหมอจึงแจ้งเราว่าให้คุณแม่กลับไปตัดสินใจอีกครั้ง เราจึงกลับออฟฟิศ และคิดอยูนาน ศึกษาข้อมูลต่างๆเพิ่มขึ้น และตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าวันนี้จะพากลับบ้าน ก่อนไปรับน้องเราจึงเตรียมความพร้อม ทำความสะอาดห้องด้วยการฆ่าเชื้อโรค ด้วยสารฟอกขาวผสมน้ำเปล่าทั้งห้อง ซื้อกลูโคส โยเกริต ฟ้าทะลายโจรแบบแคปซูล เกลือแร่ แผ่นซับฉี่น้องหมา เมื่อเตรียมตัวเรียบร้อยตอนเย็นเราไปที่รพ. เพื่อรับน้องกลับบ้าน วันนี้อาการน้องดูดีขึ้นเยอะคะ แต่ยังเพรียแบบเห็นได้ชัด เราบอกน้องว่าเราไปสู้ต่อกันที่บ้านนะ แม่จะดูแลเอง......
เดี๋ยวจะมาอัพเดตต่อนะคะว่าน้องเป็นยังไงหลังกลับบ้าน ค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวของน้องที่รพ. 4วัน ตกอยู่ที่ 4.5K คะ