http://www.share2trade.com/index.php?route=content/content&path=9&content_id=4030
เม่าเม้าท์หุ้น
BDMS กำไรเด่น
ปิดงบไตรมาส 3/61 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลถือว่ามีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก เพราะช่วงไตรมาส 3 ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นธุรกิจ
จากข้อมูลที่รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ รวม 11 โรงพยาบาล งบการออกมาค่อนข้างสดใส โดยบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BDMS) มีกำไรโดดเด่นที่สุด ไตรมาส 3/61 มีกำไรสุทธิกว่า 2,880 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 19.16% บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) (BCH) กำไรสุทธิ 356.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.83% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) (VIBHA) มีกำไร 221.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.59% บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (THG) กำไรสุทธิ 96.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.69% แต่ที่น่าผิดหวังคือ ผลการดำเนินงานของ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) (CHG) ที่ออกมา “แย่”กว่าที่คาด มีกำไรสุทธิเพียง 151 ล้านบาท ลดลง 17%
ขณะที่ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) (PRINC) ขาดทุนสุทธิ 12.72 ล้านบาท หรือลดลง 55.04% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
หลากหลายมุมมองสำหรับนักวิเคราะห์หลังหุ้นโรงพยาบาลแต่ละแห่งประกาศผลการดำเนินงานออกมา...
โดย บล.แลนด์แอนด์เฮาส์ เผยแพร่บทวิเคราะห์ แนะนำ "ซื้อ" และเลือกให้ BDMS และเลือกให้เป็น Top pick ของหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 30 บาท เนื่องจากผลประกอบการในไตรมาส 3/61 มีความโดดเด่นสุดในกลุ่มโรงพยาบาล และแนวโน้มในไตรมาส 4/61 ยังได้รับผลบวกจากดอกเบี้ยจ่ายลดลง และโรงพยาบาลใหม่ๆ เริ่มสร้างกำไรเกือบทุกแห่งแล้วอีกทั้งกำไรของ BDMS ยังเติบโตอย่างแข็งแรง
บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ "ซื้อลงทุน" CHG หลังจากราคาหุ้นร่วงลงแรงกว่า 12% เนื่องจากงบไตรมาส 3/61 แย่กว่าที่คาด และยังมี Upside เปิดกว้างกว่า 20% จากราคาเหมาะสมปี 2562 ที่ 2.70 บาท ซึ่งปรับลงจาก 3 บาท ที่ให้ไว้ก่อนหน้า
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ “ขาย” LPH ราคาเป้าหมาย 5.90 บ.แม้คาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวในปีหน้า 15% yoy แต่เป็นการเติบโตจากฐานที่ต่ำ
นอกจากนี้ ยังปรับลดคำแนะนำจาก "ซิ้อเก็งกำไร" เป็น "ขาย" หุ้น PR9 เนื่องจากมองว่าขาดความน่าสนใจ ด้วยกำไรที่เติบโตค่อนข้างต่ำช่วง 2-3 ปีข้างหน้า รวมถึง ROE ต่ำสุดในกลุ่ม ให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2562 ที่ 11.40 บาท จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ของกลุ่มโรงพยาบาลที่ 39 เท่า เหลือ 30 เท่า
ส่วน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" EKH เนื่องจากมีมุมมองที่เป็นบวก กับแนวโน้มกำไรของ EKH ในปี 2562 และยังคงให้ราคาเป้าหมายปี 62 ไว้ที่ 7.86 บาท
เปิดงบไตรมาส 3 หุ้นกลุ่มรพ.
เม่าเม้าท์หุ้น
BDMS กำไรเด่น
ปิดงบไตรมาส 3/61 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลถือว่ามีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก เพราะช่วงไตรมาส 3 ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นธุรกิจ
จากข้อมูลที่รายงานตลาดหลักทรัพย์ฯ รวม 11 โรงพยาบาล งบการออกมาค่อนข้างสดใส โดยบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) (BDMS) มีกำไรโดดเด่นที่สุด ไตรมาส 3/61 มีกำไรสุทธิกว่า 2,880 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 19.16% บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) (BCH) กำไรสุทธิ 356.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.83% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จำกัด (มหาชน) (VIBHA) มีกำไร 221.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.59% บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (THG) กำไรสุทธิ 96.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 43.69% แต่ที่น่าผิดหวังคือ ผลการดำเนินงานของ บริษัท โรงพยาบาลจุฬารัตน์ จำกัด (มหาชน) (CHG) ที่ออกมา “แย่”กว่าที่คาด มีกำไรสุทธิเพียง 151 ล้านบาท ลดลง 17%
ขณะที่ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) (PRINC) ขาดทุนสุทธิ 12.72 ล้านบาท หรือลดลง 55.04% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
หลากหลายมุมมองสำหรับนักวิเคราะห์หลังหุ้นโรงพยาบาลแต่ละแห่งประกาศผลการดำเนินงานออกมา...
โดย บล.แลนด์แอนด์เฮาส์ เผยแพร่บทวิเคราะห์ แนะนำ "ซื้อ" และเลือกให้ BDMS และเลือกให้เป็น Top pick ของหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 30 บาท เนื่องจากผลประกอบการในไตรมาส 3/61 มีความโดดเด่นสุดในกลุ่มโรงพยาบาล และแนวโน้มในไตรมาส 4/61 ยังได้รับผลบวกจากดอกเบี้ยจ่ายลดลง และโรงพยาบาลใหม่ๆ เริ่มสร้างกำไรเกือบทุกแห่งแล้วอีกทั้งกำไรของ BDMS ยังเติบโตอย่างแข็งแรง
บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ "ซื้อลงทุน" CHG หลังจากราคาหุ้นร่วงลงแรงกว่า 12% เนื่องจากงบไตรมาส 3/61 แย่กว่าที่คาด และยังมี Upside เปิดกว้างกว่า 20% จากราคาเหมาะสมปี 2562 ที่ 2.70 บาท ซึ่งปรับลงจาก 3 บาท ที่ให้ไว้ก่อนหน้า
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) แนะนำ “ขาย” LPH ราคาเป้าหมาย 5.90 บ.แม้คาดว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวในปีหน้า 15% yoy แต่เป็นการเติบโตจากฐานที่ต่ำ
นอกจากนี้ ยังปรับลดคำแนะนำจาก "ซิ้อเก็งกำไร" เป็น "ขาย" หุ้น PR9 เนื่องจากมองว่าขาดความน่าสนใจ ด้วยกำไรที่เติบโตค่อนข้างต่ำช่วง 2-3 ปีข้างหน้า รวมถึง ROE ต่ำสุดในกลุ่ม ให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2562 ที่ 11.40 บาท จากค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ของกลุ่มโรงพยาบาลที่ 39 เท่า เหลือ 30 เท่า
ส่วน บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) แนะนำ "ซื้อ" EKH เนื่องจากมีมุมมองที่เป็นบวก กับแนวโน้มกำไรของ EKH ในปี 2562 และยังคงให้ราคาเป้าหมายปี 62 ไว้ที่ 7.86 บาท